“หมอจอย” เพชรดาว โต๊ะมีนา สวมเสื้อ “กล้าธรรม” ชิง สส.ปัตตานี เขต 1 ชูโรดแมป “กมธ.สันติภาพ” ดับไฟใต้
สอดคล้องกับภาคประชาสังคมเรียกร้องก่อนหน้านี้
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอย

ปัตตานี (18 ธันวาคม 2568) – พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา หรือ “หมอจอย” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง อว. เปิดตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ปัตตานี เขต 1 ในนาม “พรรคกล้าธรรม” ประกาศจุดยืนชัดเจน เดินหน้าแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยการนำรายงานผลการศึกษาจาก กมธ.วิสามัญเพื่อสร้างสันติภาพฯ มาปฏิบัติจริงเป็นนโยบายหลัก

พญ.เพชรดาว เน้นย้ำว่า รายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สันติภาพชายแดนใต้ ไม่ใช่เพียงแค่กระดาษชุดหนึ่ง แต่คือ “โรดแมป” ที่ผ่านการระดมสมองจากทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายความมั่นคง ภาคประชาสังคม และประชาชนในพื้นที่ โดยเธอพร้อมผลักดัน 8 ยุทธศาสตร์หลัก เพื่อเปลี่ยนเสียงปืนเป็นสันติภาพที่ยั่งยืน ดังนี้:
1. เจตจำนงการเมืองที่ชัดเจน
นายกรัฐมนตรีต้องประกาศ “ยุทธศาสตร์การสร้างสันติภาพ” เป็นวาระระดับชาติ พร้อมตั้งศูนย์บูรณาการการสร้างสันติภาพฯ และมีคณะกรรมการกำกับทิศทางที่มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อบริหารจัดการปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ
2. ปรับเปลี่ยนมาตรการความมั่นคง
ยึดหลักสิทธิมนุษยชน โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยมีแผนการถ่ายโอนภารกิจจากกองทัพไปสู่ตำรวจและพลเรือน พร้อมเปลี่ยนการใช้กฎหมายความมั่นคงเป็นกฎหมายปกติ และเร่งสร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” ผ่านการเจรจา
3. ค้นหาความจริงและเยียวยา
จัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ความรุนแรง โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพื่อสร้างความไว้วางใจและระบบเยียวยาที่ครอบคลุมทุกมิติโดยไม่เลือกปฏิบัติ
4. การกระจายอำนาจที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์
ตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการกระจายอำนาจและรูปแบบการปกครองท้องถิ่นที่เหมาะสมกับอัตลักษณ์เฉพาะของพื้นที่ ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ
5. พื้นที่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
ยอมรับประวัติศาสตร์ที่แตกต่าง ร่วมออกแบบหลักสูตรท้องถิ่น และสนับสนุนการตั้ง “สถาบันอนุรักษ์มรดกทางภาษาและวัฒนธรรม” เพื่อคุ้มครองรากเหง้าของคนในพื้นที่
6. เศรษฐกิจและการศึกษาบนฐาน “ภาษาแม่”
ส่งเสริมหลักสูตรทวิภาษา (มลายูปาตานี-ไทย) และบรรจุวิชาภาษามลายูในหลักสูตร พร้อมเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน
7. ยกระดับการเจรจาสันติภาพ
เสนอให้ “พลเรือน” เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยเจรจาสันติภาพ ปรับโครงสร้าง สมช. ใหม่ และจัดให้มีคณะผู้สังเกตการณ์รวมถึงเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังเสียงที่แท้จริง
8. กลไกนิติบัญญัติที่ยั่งยืน
เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรจัดตั้ง “คณะกรรมาธิการสามัญการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้” เพื่อติดตามและขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
“การแก้ปัญหาใต้ต้องใช้ความจริงใจและยึดโยงกับประชาชนเป็นหลัก ข้อเสนอของ กมธ. สันติภาพ คือทางออกที่ผ่านการกลั่นกรองมาแล้ว และพรรคกล้าธรรมพร้อมที่จะเปลี่ยนข้อเสนอนี้ให้กลายเป็นความจริง” พญ.เพชรดาว กล่าวทิ้งท้าย
ซึ่งสอดคล้องกับภาคประชาสังคมเรียกร้องก่อนหน้านี้
หมายเหตุ อ่านเพิ่มเติมใน
https://www.tcijthai.com/news/2025/9/article/14524
และคลิกอ่านรายงานฉบับเต็ม (ปรับปรุงล่าสุด)https://drive.google.com/file/d/1xyIuUhMPj4wHx88CVd1La2Qh327-DbGX/view?usp=sharing
174 total views, 174 views today

More Stories
เมื่อโครงสร้างพื้นฐานกลายเป็นทางผ่าน “เงินสกปรก” และการตื่นรู้ของ “การเมืองสีขาว” ในบ้านเรา
เส้นแบ่งที่พรรคประชาชนต้องเลือก: เมื่อ “เสรีภาพ” ปะทะ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” กรณีโชติศักดิ์ อ่อนสูง กลายเป็นแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ภายในพรรคประชาชน (ปชน.)
จากห้องตรวจสู่สนามเลือกตั้ง: “หมอสุภัทร” กับก้าวย่างใหม่ในพรรคประชาชน ท้าทายกระแสการเมืองใต้