พฤศจิกายน 26, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

“สุคิริน” ลือชื่อ เรียงนาม “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” คุณต้องสัมผัส ที่นี้นราธิวาส ปลายด้ามขวาน

แชร์เลย

ขอบคูณข้อมูล ชีวิตดี๊ดีที่ชายแดนใต้ (รพี มามะ บรรณาธิการข่าว)

ชีวิตดี๊ดีที่ชายแดนใต้ จะพาคุณสัมผัส อำเภอสุคิริน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนราธิวาส พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชันและป่าทึบ          มีเทือกเขาที่สำคัญ ได้แก่ เทือกเขาตูแว เทือกเขาบาตูกาเตาะ เทือกเขาบาลา มีแม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำสุไหงโก-ลก เป็นสายน้ำแห่งชีวิตที่หล่อเลี้ยงชาวสุคิรินตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อเดินทางเข้าไปในพื้นที่คือการร่อนทอง ตามแบบวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ซึ่งจะใช้เวลาว่างหลังเลิกทำงานหลักอย่างการกรีดยางพาลูกพาหลานมาช่วยกันร่อนทองจากต้นน้ำของแม่น้ำสายบุรีซึ่งเป็นที่ตั้งของเหมืองทองโต๊ะโมะ ที่ปัจจุบันได้ปิดตัวไปแล้วแต่ยังคงมีแร่ทองคำบริสุทธิ์ที่ไหลลงมาทับถมกันเบื้องล่างให้ชาวบ้านได้ร่อนทองหารายได้เสริม พร้อมทั้งเป็นจุดเช็คอินสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตของคนในพื้นที่และคนที่มาแสวงหาโชคลาภเพื่อหวังได้แร่ทองคำติดมือกลับบ้านเพื่อความเป็นมงคล เพราะมีความเชื่อว่าเป็นทองคำบริสุทธิ์ที่ทรงคุณค่า

สำหรับการร่อนทองของที่นี่ ใช้เพียงจอบ หรือพลั่วไปตักดินตักทรายในแม่น้ำมาใส่บนเลียงอุปกรณ์สำคัญของการร่อนที่มีลักษณะคล้ายกระทะ จากนั้นก็ร่อนไปเรื่อยๆจนดินหมดเลียง ซึ่งสายตาต้องไวเป็นพิเศษเนื่องจากแร่ทองคำมีขนาดที่เล็กมาก จะทับซ้อนอยู่ในชั้นดิน ทำซ้ำๆไปอย่างนั้นจนกว่าจะได้แร่ทองคำสมใจ สำหรับนักท่องเที่ยวหากลงไปร่อนแล้วไม่ได้แร่ทองคำติดมือมา สามารถสอบถามจากชาวบ้านแถวนั้นเพื่อขอซื้อแร่ทองคำกลับไปเป็นที่ระลึกก็ได้ โดยราคาจำหน่ายขึ้นอยู่กับการตกลงกันของทั้ง2ฝ่าย สนนราคาอยู่ประมาณ 500-1,000 บาท หรือหากไม่มีนักท่องเที่ยวมาขอซื้อชาวบ้านก็จะไปขายให้กับพ่อค้าที่รับซื้อต่อแล้วรวบรวมไปขายต่อให้กับร้านทองในเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งโดยเฉลี่ยชาวบ้านที่ออกมาร่อนทองจะมีรายได้ต่อครั้งประมาณ 300-2,000 บาท หรือหากครั้งใดที่ไม่ได้แร่ทองติดมือกลับบ้านก็เพียงเก็บสัมภาระเพื่อจะเดินทางมาร่อนทองอีกครั้งในวันถัดไป เพราะเรื่องอย่างนี้ชาวบ้านยังมีความเชื่อว่า ส่วนหนึ่งคือ แร่ทองคำที่จะได้ขึ้นอยู่กับโชคลาภวาสนา และอีกส่วนหนึ่งคือความมุ่งมั่นตั้งใจ

หากมีโอกาสเชิญชวนแวะมาเที่ยวสุคิรินกัน ซึ่งปัจจุบันมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี “ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตำบลภูเขาทอง” แบบ ONE DAY TRIP ราคาคนละ 700-800 และแบบ 2 วัน 1 คืน คนละ 1,500 บาท โดยนำเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งการชมทะเลหมอก ชมต้นกระพงยักษ์ สักการะเจ้าแม่โต๊ะโมะ ทอผ้าไหม ชมอุโมงค์ลำเลียง ร่อนทอง และล่องแก่ง  ยิ่งมีมาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2562 ของรัฐบาล ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในเมืองรอง “จังหวัดนราธิวาส” ไม่เกิน 20,000 บาท ใช้สิทธิได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 มิถุนายน 2562 ยิ่งต้องรีบจองทริปท่องเที่ยวแบบด่วนๆ กันเลย

สำหรับการเดินทางเข้าสู่พื้นที่ อ.สุคิริน ปัจจุบันมีความสะดวกมากหากเดินทางมาจากตัวอำเภอ  สุไหงโก-ลก จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และด้วยสภาพพื้นที่ป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ และเป็นภูเขาสูงทำให้อากาศภายใน อ.สุคิริน ค่อนข้างเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี หากคุณได้สัมผัส คุณต้องประทับใจไม่รู้ลืม สมคำนามเรียกขาน ที่นี้ “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” อย่างลงตัว

//////////////////////////////////////////

 1,897 total views,  4 views today

You may have missed