ขอบคุณ ข้อมุูลชีวิตดี๊ดีที่ชายแดนใต้ (รพี มามะ บรรณาธิการข่าว)
ทีมงานของเราจะพาทุกท่านไปรู้จักถึงความสำคัญของเดือนแห่งการถือศีลอด หรือเดือนรอมะฎอน หรือ รอมฎอน ซึ่งตรงกับ เดือนที่ 9 ของปฏิทินฮิจญ์เราะหฺ ตามปฏิทินอิสลาม เป็นเดือนที่มุสลิมจะถือศีลอดทั้งเดือน เป็นเดือนบวชที่สำคัญ โดยมุสลิมจะต้องปฏิบัติตามศาสนบัญญัติด้วยการงดอาหารทุกชนิดรวมถึงน้ำดื่มในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกดิน นอกจากนี้ยังต้องอดทนต่อสิ่งรอบตัวไม่ว่าจะเป็นการหยุดทำความชั่ว และออกห่างจากสิ่งของหรือคนที่จะชักนำเราไปสู่การฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้าไม่ว่าจะโดยมือเช่นทำร้ายหรือขโมยโดยเท้าคือเดินไปสู่สถานที่ต้องห้ามโดยตาคือดูสิ่งลามกโดยหูเช่นการฟังสิ่งไร้สาระฟังเรื่องชาวบ้านนินทากันโดยปากเช่นการนินทาว่าร้ายคนอื่นโกหกโป้ปด
นอกจากนี้รอมฎอนยังเป็นเดือนที่อยู่ระหว่างเดือนชะอฺบานและเดือนเชาวาล มีจำนวนวัน 29 หรือ 30 วันเท่านั้นและเป็นเดือนที่คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม คือ คัมภีร์อัลกุรอาน ถูกประทานลงมาพร้อมกับหลักธรรมคำสอนและบทบัญญัติต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงการถือศีลดังกล่าวด้วย เรียกได้ว่า “รอมฏอน” เป็นเดือนแห่งการอบรมจิตใจ เพราะนอกจากจะไม่ทำในสิ่งไร้สาระแล้ว ยังต้องระมัดระวังทุกการกระทำ ทั้งกิริยา วาจาและคำพูด มิเช่นนั้น ก็จะเป็นการถือศีลอดที่ได้แค่เพียง การอดอาหาร เท่านั้นเอง ที่สำคัญยังได้รับรู้ความยากลำบากของคนที่ยากไร้อีกด้วย
ถ้าท่านเดินทางมายังจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงเดือนนี้จะพบว่าทุกค่ำคืนในแต่ละมัสยิด จะเนืองแน่นไปด้วยพี่น้องมุสลิมที่มาละหมาด และฟังบรรยาย โดยที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นมัสยิดที่สวยงาม ถือเป็นทัชมาฮาล แห่งปลายด้ามขวานประเทศไทย ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามมีความโดดเด่น โดยรูปทรงภายนอกของมัสยิดมีต้นแบบมาจากทัชมาฮาล ของอินเดียอีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดปัตตานีในการละหมาดตารอเวียะแต่ละค่ำคืนจึงมีประชาชนมากกว่าหนึ่งพันคนมาร่วมละหมาดโดยน.ส.นูรอาซูรา อาหะมะ นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เล่าให้ทีมงานของเราฟังว่าในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐนี้ ตนเองได้มาปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานีทุกคืนซึ่งเป็นการละหมาดตารอเวียะเพื่อรำลึกถึงโอกาสที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบคุณงามความดีให้ในเดือนอันประเสริฐนี้ด้วยการทำละหมาดตามข้อบัญญัติของศาสนาอิสลามเรียนรู้ความอดทนในการถือศีลอด และเรียนรู้การให้จากการให้ทานแก่ผู้ยากไร้ สร้างความสมดุลในจิตใจให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นการศึกษาเรื่องราวของศาสนาและวัฒนธรรมที่แตกต่างนอกจากจะเป็นการเพิ่มความรู้ให้แก่ตนเองแล้วยังเป็นการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุขเพราะทุกศาสนาล้วนสอนให้ทุกคนเป็นคนดี
นอกจากนี้เดือนรอมฎอน ทุกท่านยังสามารถสัมผัสบรรยากาศของอาหาร และ ขนม คาวหวาน ที่มีหลากหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารพื้นเมือง และขนมต่างถิ่น ที่จะจำหน่าย ซื้อขาย ในเดือนรอมฎอนมากสุด กว่าทุกเดือน อย่างนี้ต้องลงชิมและสัมผัส แล้วจะรู้ว่า ที่นี้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมืองน่าอยู่ จริงๆ และนี่คือเกร็ดเล็กๆของเรื่องราวการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิมในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐที่ทีมงานของเรานำมาฝากในวันนี้
/////////////////////////////////
865 total views, 4 views today
More Stories
SEC ภาคใต้กับSEA สงขลา-ปัตตานี
สู่พรบ.สันติภาพ เพื่อประกันกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ฮัจญ์ไทยในภารกิจทูตสันติภาพใน 3 ภารกิจ จชต.