จนท.นำผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คดีถล่มจุดตรวจยุทธศาสตร์กลาพอ ตร.ดับ 3 ราย พร้อมเตรียมออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 7 ราย

ภาพ/ข่าว/รุซดี เจะและ ปัตตานี/

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ณ บริเวณหน้าป้อมยามสถานีตำรวจยุทธศาสตร์ กะลาพ้อ ม.1 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จังหวัดปัตตานี พ.ต.อ.มนตรี คงวัดใหม่ ผกก.สภ.สายบุรี พร้อมด้วย พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 และเจ้าหน้าที่สืบสวนสภ.สายบุรี นำตัวนาย นายมูฮัมหมัดฆอซซาร์ฟี อาแด อายุ 39 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาในคดีคนรายใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณหน้าป้อมยามสถานีตำรวจยุทธศาสตร์ กะลาพ้อ หมู่ที่ 1 ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตทันที 3 นาย และได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และได้เข้าไปในตู้ยามนำเอาอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ อีกจำนวน 10 กระบอก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2549

โดยความคืบหน้าในขณะนี้ ทาง ชปข.ฉก.ทพ.44 ได้ร่วมกับ ชุดสืบสวนสถานนี่ตำรวจสายบุรี สนธิกำลังบังคับใช้กฎหมายและสามารถควบคุมตัวบุคคลเป้าหมาย คือนายมูฮัมหมัดฆอซซาร์ฟี ตามหมายจับของศาลปัตตานี ที่ จ.687/61 ซึ่งจากผล DNA ตรงกันกับวัตถุพยานเหตุการณ์คนร้ายลอบโจมตีสถานียุทธศาสตร์เตราะบอน อ.สายบุรีฯ ได้ที่ร้านขายอุปกรณ์เลี้ยงนกในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองตะลุบันฯ จึงพาตัวมายัง สภ.สายบุรี เมื่อ 28 ม.ค.62 และได้นำตัวส่งเข้าหน่วยซักถาม ฉก.ทพ.43 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามต่อไป

โดยจากการซักถามนายมูฮัมหมัดฆอซซาร์ฟี ให้การรับสารภาพว่าเข้าร่วมขบวนการเมื่อปี 42 และให้การ เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงสถานียุทธศาสตร์เตราะบอน (ป้อมกลาพอ) ม.1 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จว.ป.น. เมื่อ 20 ก.ค.49 ซึ่งตนเองนั้น ทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะให้กับกลุ่มคนร้าย ทั้งนี้ยังได้มีการซัดทอดถึงผู้ร่วมก่อเหตุ 7 คน คือ 1) นายอิบรอเฮม มะเซง (ครูฝึก,สั่งการ,จัดหารถยนต์กระบะและอาวุธ) 2) นายซูดิง กอแน (ร่วมก่อเหตุ) 3) นายมะห์ยุดดิน บากา (ครูฝึก,ร่วมก่อเหตุ) 4) นายซอมือลี สาเระ (ร่วมก่อเหตุ) 5) นายบัดราน แลนิ (ร่วมก่อเหตุ) 6) นายฮาซัน วาแม (ร่วมก่อเหตุ) 7) นายจอปี ไม่ทราบชื่อสกุลจริง (ร่วมก่อเหตุ)

จากการมาทำแผนรับสารภาพในครั้งนี้ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองมาหน้าที่ในการขับรถยนต์กระบะ โดยนำกลุ่มคนร้ายอีก 7 คนขึ้นรถ เมื่อมาถึงบริเวณด้านข้างของป้อม กลุ่มคนร้ายที่อยู่ด้านหลังกระบะพร้อมอาวุธปืนครบมือ ได้สาดกระสุนเข้าไปในป้อม ก่อนที่คนร้ายจะมุ่งตรงเข้าไปภายในป้อม และก่อนจะใช้อาวุธสงครามกราดยิงเข้าไปภายในป้อมที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย ก่อนที่คนร้ายจะเข้าไปขโมยอาวุธปืนของเจ้าหน้า ที่ตำรวจ จำนวน 10 กระบอก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้อาวุธปืนตอบโต้ประกอบกับขณะนั้นทางเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับวัดปทุมวารี ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับป้อม ได้เข้าไปช่วยเหลือพร้อมทั้งยิงต่อสู่กับกลุ่มคนร้าย จนคนร้ายต้องล่าถอย แต่คนร้ายก็ถูกคมกระสุนของเจ้าหน้าที่ เป็นเหตุ นายมะห์ยุดดิน และ นายฮาซัน คนร้ายเสียชีวิต 2 ราย นอกจานี้กระสุนปืนยังไปโดนมูฮัมหมัดฆอซซาร์ฟี บริเวณแขนซ้าย ได้รับบาดเจ็บในขณะที่จะพยายามนำรถไปช่วยพรรคพวกก่อนจะหลบหนีไป

ทางด้าน พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เปิดเผยว่า ถึงแม้คดีนี้จะผ่านมานานแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ลดความพยายามที่จะติดตามกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมาดำเนินคดีให้ได้ โดยยึดมั่นในหลักการบังคับใช้กฎหมาย และแนวทางสันติวิธีด้วยความเที่ยงธรรม ตามหลักฐาน พยานบุคคล พยานแวดล้อม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในการควบคุม ผู้ก่อเหตุมาดำเนินกรรมวิธี ซักถาม ขยายผล และดำเนินทางคดีตามกฎหมาย และรวมถึงคนร้ายส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 7 รายในคดีดังกล่าว

///////////////////////////////////////////////

 676 total views,  2 views today