เครือข่ายผู้หญิงยุติความรุนแรง รู้เท่าทันกับการเมืองยุค 2019 “โลกเปลี่ยนโดยมือเรา”

มะดารี โตะลาลา SPM รายงาน…

(3 ก.พ.52) ที่ห้องประชุมโรงแรมอิมพีเรียล นางรอซีดะห์ บูซู ประธานเครือข่ายผู้หญิงยุติความรุนแรงแสวงสันติภาพ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้นำภาคีเครือข่ายสตรีกว่า 400 คนเข้าร่วมรับฟังโครงการเวทีสาธารณะ สตรีกับการเมืองยุค 2019 “เราคือหุ้นส่วนในการพัฒนา โลกเปลี่ยนด้วยมือเราโดยมี นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส นางธิดา วรรณลักษณ์ ประธานชุมชนพุทธรักษา จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดร.ชลิตา บัณฑวงส์ คณะสังศาสตร์ มหาวิทยาเกษตรศาสตร์ นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ อดีต สส.นราธิวาส รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ นางตัสนิม เจ๊ะตู ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมการเสวนาในครั้งนี้

ในการการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2562 เป็นการเลือกตั้งที่ทุกภาคีเครือข่าย ให้ความสำคัญและติดตามนโยบายของพรรคการเมืองว่าสามารถตอบโจทย์ การแก้ปัญหาของประชาชนได้จริงหรือไม่ ด้วยสัดส่วนของจำนวนประชากรหญิงในประเทศมีมากถึง 33 ล้านคน ผู้หญิงจำเป็นที่จะต้องมีส่วนร่วมในทางการเมืองในทุกระดับ ทั้งการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติ เพราะการเมืองเป็นของทุกเพศ ทุกวัย ทุกศาสนา ทุกชาติพันธ์ ในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผลพวงของสถานการณ์ความรุนแรง มีผู้หญิงจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบทั้งในทางตรงและทางอ้อมพวกเธอต้องลุกขึันมาต่อสู้เพื่อก้าวข้ามความรุนแรง จากมือล่างมาเป็นมือบน ใช้วิกฤติมาเป็นโอกาส ร้อยใจคนทำงานเป็นเครือข่ายสตรี อันมีพลังที่หลากหลาย  ผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งในครอบครัว และสังคม ผู้หญิงจำเป็นที่จะต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพในทุกด้าน รวมทั้งทางการเมือง เพื่อให้ผู้หญิงได้มีข้อมูล สามารถวิเคราะห์ตัดสินใจ เลือกผู้แทนและพรรคการเมืองที่มีนโยบายตอบโจทย์ของผู้หญิงได้ จึงจำเป็นต้องจัดกิจกรรม “สตรีรุ่นใหม่กับการเมืองยุด 2019” เราคือหุ้นส่วนในการพัฒนา โลกเปลี่ยนด้วยมือเรา เพื่อให้แกนนำสตรีในจังหวัด ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ได้รับฟังนโยบายของพรรคการเมืองเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจในสนามเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้นำสตรีในสามจังหวัดได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสะท้อนปัญหาไปยังพรรคการเมือง

นางธิดา วรรณลักษณ์ ประธานชุมชนพุทธรักษา กล่าวว่า      ในสังคมพหุวัฒนธรรมเพื่อให้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ด้วยความรักความเมตตาในฐานะที่เราเป็นพี่น้องซึ่งกันและกัน ทั้งโดยสมัยก่อน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เคยรู้จักกับคำว่า พหุวัฒนธรรมเพราะเราอยู่ด้วยกันตามวิถีชีวิต ที่เป็นอยู่นับถือและเคารพซึ่งกันและกันเราควรช่วยกันรักษาในวิถีชีวิตอย่างดั้งเดิมที่เคยเป็นมา อย่าปล่อยให้คนแค่เพื่อส่วนน้อยนิดมาทำลายความสัมพันธ์ ระหว่างเรา

ขณะที่ นาย ซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในสังคมพหุวัฒนธรรม ประชาชนทั้งพุทธและอิสลามต้องอยู่กันให้ได้ต้องเข้าใจ ในวิถีชีวิตซึ่งกันและกันเพราะเราคือพี่น้องกัน เราเกิดจากพ่อแม่เดียวกัน นั้นคืออาดัมและฮาวาเท่านั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันเกิดขึ้นเพราะเราไม่ได้เข้าใจ ในงหลักคำสอนของศาสนาของตนเอง จึงให้เกิดปัญหาทางด้านสังคม ตามมา อาทิ  ปัญหายาเสพติด ลักเล็กขโมยน้อย อาชญากรรม  เป็นต้น ฉะนั้น จึงขออยากจะเน้นย้ำ ให้ทุกๆคนช่วยกันสอดส่องและดูแลลูกหลานของตนเองให้ดีที่สุด เพื่อให้ลูกหลาน เติบโตอย่างมีคุณภาพ และเป็นพลังของแผ่นดิน

////////////////////////////////////////////

 516 total views,  2 views today