มาราพลัส+3 เสริมความเป็นหนึ่งก่อนการพูดคุยสันติภาพ รอบใหม่กับรัฐบาลไทย

แชร์เลย

โดย..ทีมข่าวกองบรรณาธิการ SPMC NEWS….
นับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับการเลือกหัวหน้าพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ในการประชุม คปต. หรือคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันที่ 11 ต.ค.61 ที่ผ่านมา เนื่องจากการประชุมมีประเด็นสำคัญคือการเคาะเปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะมีการเสนอชื่อให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจขั้นสุดท้ายเร็วๆ นี้ ที่ประชุม คปต.มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน มีวาระพิจารณาหลายเรื่อง และหนึ่งในนั้นคือการพิจารณาปรับโครงสร้างคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากมาเลเซียเปลี่ยนผู้นำรัฐบาล และเปลี่ยนตัวผู้อำนวยความสะดวกกระบวนการพูดคุยคนใหม่
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีข้อเสนอให้เปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ จาก พล.อ.อักษรา เกิดผลที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็น พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 โดยจะมีการนำเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาตัดสินใจอีกครั้ง โดยเรื่องนี้ต้องได้ข้อสรุปก่อนที่ดร.มหาธีร์ โมฮาหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือน ต.ค. เพราะจะมีวาระหารือกันของผู้นำทั้งสองประเทศเกี่ยวกับกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯด้วย
ในส่วนของมาราปาตานี ขณะนี้มาราปาตานีได้ยกระดับโดยเรียกชื่อใหม่ว่า MARA PLUS โดยการเพิ่มสมาชิกใหม่เข้ามาใหม่ ประกอบด้วยพูโล P4 ของซัมสุดดีน คาน เข้ามาร่วมมาราอีกครั้งหลังจากที่ออกจากมาราปาตานีในสมัยของซัมซามินเป็นผู้อำนวยความสะดวกเนื่องจากมีปัญหาภายในกับกลุ่มพูโลด้วยกัน มีกลุ่ม BRN Congress ของ โตะแวมะ และมีกลุ่ม MPRMP ของเปาะดายัก ซึ่งอยู่ในกลุ่ม BERSATU
แหล่งข่าวจากมาราปาตานีกล่าวว่า หลังจากที่ ดร มหาเธร์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแต่งตั้ง ตันสรีอับดุลราฮีม นอร์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซียเป็นผู้อำนวยการอำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่ามาราปาตานีทั้งคณะได้พบกับ ราฮีม นอร์ แล้วหนึ่งครั้งเพื่อให้ทุกกลุ่มได้ถกกันและนำเสนอข้อเรียกร้องต่างๆเพื่อส่งให้ฝ่ายไทย
“และหลังจากนั้นได้พบกับกลุ่มต่างๆโดยแยกพบอีกสองครั้งด้วยกันโดยเฉพาะกลุ่มพูโลร่วมเป็นหนึ่งได้พบกับราฮิม นอร์ อีกสองครั้ง” แหล่งข่าวมาราปาตานีระบุ
แหล่งข่าวยังระบุอีกว่าข้อเรียกร้องของมาราปาตานีคือ ขบวนการข้อเรียกร้องสิทธิในการปกครองตัวเองโดยชาวมลายูปาตานี โดยจะมีการทำวาระของชาติขึ้นมาให้ประชาชนชาวปาตานีทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นผู้นำศาสนา ภาคประชาสังคม กลุ่มผู้หญิง ทุกระดับได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดข้อเรียกร้องเพื่อเสนอต่อรัฐบาลไทยต่อไป
“หลังจากที่ราฮิมนอร์ ได้พบกลุ่มพูโลในช่วงเช้าวันที่ 25 กันยายน ทีผ่านมา และในช่วงบ่ายท่านราฮิม นอร์ได้เดินทางไปยังกรุงเทพมหานครเพื่อนำข้อเสนอต่างๆไปพบรองนายกประวิตร และพบนายก ประยุทธ์ จันโอชา” แหล่งข่าวกล่าว
ถึงแม้นว่าในอดีต ราฮิม นอร์ จะเป็นคนที่จับกุมแกนนำของพูโลทั้งหมดห้าคน แต่มาราปาตานียัง มีความคาดหวังสูงกับท่านราฮิม นอร์ เนื่องจาก ราฮิมเป็นคนที่เอาจริงเอาจังในการทำงาน และทำให้ทุกกลุ่มต้องปรับตัวเอง แต่สิ่งที่น่าเสียดายในตอนนี้คือ มีบุคคลของ บีอาร์เอน เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย ทำให้ภาพลักษณ์ของมาราปาตานีดูไม่ดีในสายตาของสังคมและกลุ่มอื่นๆ
แม้เวลาการทำหน้าที่ของราฮิม นอร์มีเวลาทำงานไม่มากนักเนื่องจากว่าหากนายอันวาร์ อิบราฮิม ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นนายกรันมตรีมาเลเซียคนใหม่ในอีกสองปี ราฮิม นอร์ก็อาจจะต้องออกจากตำแหน่งนี้อย่างแน่นอน เพราะอันวาร์ คงไม่เอาราฮิม นอร์อีกต่อไป หรือราฮิมนอร์คงไม่ทำงานร่วมกับอันวาร์อยู่แล้ว และฝ่ายไทยก็เหมือนกันจะต้องดูผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ว่าใครจะเป็นรัฐบาลต่อไปเช่นกัน
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือตอนนี้ทาง ผอ. อำนวยความสะดวกการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับมาราปาตานีกำลังร่างข้อตกลง ที่เรียกว่า Peace Agreement เพื่อให้ทุกฝ่ายลงนามเหมือนที่เกิดขึ้นกับการลงนามของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา 1989 ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
จังหวัดชายแดนภาคใต้จะสงบหรือจะร้อนแรงมากขึ้นในอนาคตขึ้นอยู่กับวิทยายุทธของผู้อำนวยการอำนวยความสะดวกจากแดนเสือเหลืองและจากแดนช้างเผือกว่าจะงัดกลยุทใดในการยุติปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นกว่า 15 ปี