เครือข่ายผู้หญิง ฯ3จชต. เรียกร้องทุกฝ่ายอย่าเพิกเฉยกับเสียงร้องของผู้หญิง จี้รัฐมีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยต่อเด็กและสตรี เนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีสากลปี 2560
25 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีสากล ซึ่งทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย องค์กรพัฒนาเอกชน(NGO) ที่ทำงานด้านการคุ้มครองสิทธิเด็กและสตรีก็จะออกมาเคลื่อนไหวและจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อเรียกร้องให้ รัฐบาล หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านสตรี ร่วมกันที่จะยุติความรุนแรงทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นกับเด็ก สตรี เครือข่ายผู้หญิงยุติความรุนแรงแสวงสันติภาพ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ได้มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องทุกปีมาตั้งแต่ปี 2550
นางรอซิดะห์ ปูซู ประธานเครือข่ายผู้หญิงยุติความรุนแรง แสวงสันติภาพ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ความรุนแรงต่อเด็กและสตรีในรอบปีที่ผ่านมา เราจะพบว่ามีข่าวคราวปรากฏทางสื่อบ่อยมากแทบทุกวัน ทั้งการทุบตีเด็ก ทำร้ายภรรยาของตนเอง การละเมิดทางเพศเด็กผู้หญิงและ คนในครอบครัวไม่เว้นแต่ผู้สูงอายุ หลายกรณีเสียชีวิตอย่างโหดร้าย ทารุณ มีการข่มขืนฆ่าเปลือยอำพรางศพ ซึ่งเป็นเรื่องที่สะเทือนใจ เช่นกรณี การฆ่าเด็กอายุ 5 ขวบกับแม่ที่ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
“สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีหรือเอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้ ซ้ำร้ายผู้กระทำความผิดกลับมาก่อเหตุซ้ำกับเด็ก ผู้หญิงอีก นั่นแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในเรื่องนี้”
นางรอซิดะห์ กล่าวว่า จากการที่ได้ทำงานในพื้นที่ โดยการสนับสนุนของมูลนิธิเพื่อนหญิงและองค์การอ็อกเฟมแห่งประเทศไทยได้จัดทำโครงการความร่วมมือกับผู้นำศาสนา คณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส เปิดศูนย์ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือผู้หญิงที่ประสบปัญหาความรุนแรง ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2559 ถึงปัจจุบันพบว่า มีผู้หญิงที่ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัวมาขอคำปรึกษาขอความช่วยเหลือจำนวน 155 ราย ซึ่งข้อมูลนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่สะท้อนให้เห็นว่าในสังคมมุสลิมก็มีการใช้ความรุนแรงต่อสตรีเช่นกัน
“ยังไม่รวมถึงเหตุความรุนแรงที่เกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบ ซึ่งปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 13 แล้ว มี เด็ก ผู้หญิง ที่บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงโดยที่พวกเขาไม่มีโอกาสปกป้องตนเองเลย เป็นเด็กกำพร้าเสียพ่อ เสียแม่ บางคนเสียทั้งพ่อและแม่ จำนวน 9,227 ส่วนผู้หญิงสูญเสียสามีเป็นหญิงหม้าย จำนวน 3,975 คน
สำหรับกิจกรรมในปีนี้เครือข่ายผู้หญิงฯร่วมกับมูลนิธิเพื่อนหญิงได้จัดกิจกรรมรณรงค์ในระดับชุมชน ใน 4 ภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “ เฉย=ช่วยทำร้าย ร่วมตีเกราะ เคาะไม้ ชุมชนร่วมใจ ผู้หญิงครอบครัว ชุมชนไทย ปลอดความรุนแรง” และเนื่องในโอกาสวันยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีสากล 25 พฤศจิกายน ปีนี้ ขอเรียกร้อง 4 ข้อ
1.ขอให้รัฐบาลได้ยกระดับจิตสำนึกของข้าราชการทุกกระทรวง ได้รับรู้ มีความเข้าใจ และปฎิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีการละเมิด คุกคามทางเพศผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ถือเป็นความผิดร้ายแรง รัฐต้องปกป้องผู้เสียหายและดำเนินคดีเอาความผิดทั้งทางอาญาและวินัย เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม
2.ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับคดีการละเมิดทางเพศ การรุมโทรมเด็ก เยาวชน อันเป็นคดียอมความไม่ได้
3.ขอให้รัฐบาลได้มีการสนับสนุนงบประมาณให้กับ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรภาคประชาสังคม ในรูปแบบของกองทุนเพื่อการเยียวยาและยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี เพื่อขับเคลื่อนงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาในชุมชน
4.ในพื้นที่ความขัดแย้งชายแดนใต้ ขอให้รัฐและคู่ขัดแย้งได้มีมาตรการพิเศษด้านความปลอดภัย ในพื้นที่สาธารณะ เช่น โรงเรียน ตลาด วัด มัสยิด รถประจำทาง เพื่อเป็นหลักประกันป้องกันเหตุความรุนแรงที่มีต่อเด็กและสตรี
5.ขอให้ทุกฝ่าย ทุกคน ได้ร่วมมือกัน สอดส่องดูแล ไม่นิ่งเฉย และให้ความช่วยเหลือทันที หากพบว่ามีเด็กและสตรี ถูกกระทำความรุนแรงในทุกรูปแบบ
1,023 total views, 4 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี