มูลนิธิมัรฮามะห์ ร่วม กอจ.นราธิวาสและเครือข่ายมุสลิม เยี่ยมผู้ต้องขังเรือนจำ มอบอาหารละศิลอด ขณะที่ ผบ.เรือนจำ เผย ฮารีรายอเปิดเรือนจำ “วันพบญาติเป็นกรณีพิเศษ” บนพื้นฐานความเข้าใจในทุกศาสนา เสริมสร้างพื้นที่สันติสุข

แชร์เลย

ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายอับดุลอาซิส เจ๊ะมามะ ตัวแทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส นายเมธา เมฆารัฐ ประธานองค์กรชมรมเรือนร่างเดียวกัน นายะยา ปะนาฆอ นายอำเภอเมืองนราธิวาส นายดิกล ศิริวัลลภ ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดนราธิวาส นายรพี มามะ อุปนายกบริหารสมาคมสื่อมวชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เข้าร่วมงานในกิจกรรม เยี่ยมผู้ต้องขัง และ มอบอาหาร เพื่อละศิลอด แด่ผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส จัดโดยมูลนิธิมัรฮามะห์ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายสมพงษ์ สนิทมัจโร ผู้บัญชาการเรือนจำนราธิวาส ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ได้มีผู้ต้องหรือ นักโทษ ที่นับถือศาสนาอิสลามเข้าร่วมงานทั้งหมดกว่า 1,700 คน จากนักโทษทั้งหมดกว่า 2000 คน ภายในงานได้จัดให้พูดคุย พบปะ กับผู้ต้องขังจากผู้ทรงความรู้ และการสร้างความเข้าใจ ในการถือศิลอด โดยเฉพาะช่วงวันเดือนสุดท้ายของเดือนรอมฎอน เพื่อให้ผู้ต้องขัง ได้ระลึกและประกอบความดีงาม แม้จะอยู่ในเรือนจำ เป็นสิ่งทีนักโทษทุกคนทำได้ มากกว่าบุคคลอื่นที่ อยู่ข้างนอก แต่ไม่มีเวลาทบทวน อาทิ การท่องคำภีร์อัลกุรอาน การเรียนรู้ คุณธรรม จริยธรรม คุณงามความดี จากผู้รู้ที่มาให้ความรู้ ในเรือนจำต่อเนื่อง ตลอดจนการฝึกอาชีพ เพื่อให้ผู้ต้องขัง เมื่อสิ้นสุดโทษ เป็นอิสระ จะได้มีความรู้ มีงานทำ และมีคุณธรรม ที่จะสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปรกติ ตลอดจนสร้างคุณประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับแผ่นดินได้

นายสมพงษ์ สนิทมัจโร ผู้บัญชาการเรือนจำนราธิวาส กล่าวว่า เรือนจำจังหวัดนราธิวาส เข้าใจถึงบริบทในพื้นที และความหลากของศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพุทธ อิสลาม หรือศาสนาอื่น ซึ่งในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ผู้ต้องขังส่วนใหญ่รวมชายและหญิง จำนวน 85 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม ทางเรือนจำ ได้ให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนองค์กร ในการเสริมสร้างและให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขัง ในการตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ผู้ต้องขัง ตลอดจนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องขังในเรือนจำ ตลอดเดือนศิลอด รอมฎอน เรือนจำได้ให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อให้การปฎิบัติภารกิจของผู้ต้องขัง ในเรื่องถือศิลอด ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ สร้างขวัญกำลังใจผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามสืบเนื่องจากเดือนศิลอด อยู่ช่วงจะสิ้นสุดรอมฎอน หรือการออกจาการถือศิลอดของชาวมุสลิม และจะเข้าสู่ วันเฉลิมฉลองวันฮารีรายอ อิดิ๊ลฟิตตรี ทาจุฬาราชมนตรี ประกาศดูจันทร์วันที่ 14 มิ.ย.2561 หากมีคำประกาศวันฮารีรายอวันไหน ทางเรือนจำ จะเปิดให้ผู้ต้องขังได้พบญาติ หรือวันพบญาติ ในเวลาราชการเป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ถือเป็นมิติหนึ่ง ในการสร้างความเข้าใจ ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และเกื้อหนุนสร้างสันติสุขร่วมกันในพื้นจังหวัดชายแดนภาคใต้

ทางด้านนายอับดุลอาซิส เจ๊ะมามะ ตัวแทนคณะคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ผู้ใดหยุดกระทำในสิ่งที่นำสู่ความชั่วร้าย ในเดือนรอมฎอนอันประเสิรฐ เขาผู้นำจะเป็นผู้ได้บุญความดี ประกอบการทำดีในเดือนรอมฎอน และจะสิ้นสุดเมื่อถึงเทศกาลวันฮารีรายอฯ เป็นวันที่สดุดีต่อพระผู้เป็นเจ้า และเป็นวัพบญาติพี่น้อง ตลอดจนวันขอมาอัฟ หรือการให้อภัยซึ่งกันและกัน ต่อเพื่อนมุนษย์ทุกคน รอมฎอนต่อเนื่องวันฮารีรายอ จึงมีความหมายอย่างยิ่งต่อการทำดี และสืบเนื่องจะสิ้นสุดรอมฎอน และจะเข้าวันฮารีรายอ ขอให้ทุกคนขออภัยโทษจากอัลลอฮ ในสิ่งที่กระทำผิดลดละ อย่าทำอีก และทำความดีตอบแทนพระเจ้าตลอดไป พร้อมกันนี้ให้ฉลองวันฮารีรายอ อย่างมีความสุขต่อไป