ศอ.บต.เดินหน้าพิสูจน์สิทธิ “อ.ยี่งอ” หลังแก้ที่ดิน “บาเจาะ โมเดล” สำเร็จ

แชร์เลย

รองเลขาธิการ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมคณะกรรมการพิสูจน์สิทธิในการถือครองที่ดินของราษฎรในเขตพื้นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี
เมื่อวันที่ 31พฤษภาคม 2561 ที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย นายยาลา ใบกาเด็ม นายอำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิสูจน์สิทธิในการถือครองที่ดินของราษฎรในเขตพื้นที่แนวบริเวณอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ในพื้นที่อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส โดยมี นายสนั่น สนธิเมือง ผู้อำนวยการสำนักประสานนโยบายสังคมจิตวิทยา ศอ.บต. ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 ให้อำเภอแต่งตั้งคณะกรรมการพิสูจน์สิทธิในการถือครองที่ดินของราษฎรระดับอำเภอ ซึ่งมีองค์ประกอบจากทุกฝ่ายที่ร่วมกันจัดทำข้อมูลแก้ไขปัญหาที่ดินและใช้ข้อมูลเป็นที่ยอมรับร่วมกันแล้วเป็นฐานในการพิสูจน์สิทธิซึ่งในกรณีพิสูจน์ได้ชัดเจนว่ามีการถือครองก่อนการประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2508 และประกาศเป็นเขตป่าอุทยานแห่งชาติ ปี 2552 และมีการทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่อง ให้มีการดำเนินการกันพื้นที่ทำกินออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานแห่งชาติตามกฎหมายนั้นโดยเร่งด่วน

โดยจังหวัดนราธิวาสได้แต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในพื้นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ในพื้นที่อำเภอบาเจาะ ยี่งอ รือเสาะ ระแงะ สุไหงปาดี เจาะไอร้อง สุคิริน และเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 จึงได้เชิญคณะกรรมการพิสูจน์สิทธิในการถือครองที่ดินของราษฎรในเขตพื้นที่แนวบริเวณอุทยานแห่งชาติ บูโด-สุไหงปาดีในพื้นที่อำเภอยี่งอมาประชุมในวันนี้
โดยในที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาเรื่องที่ดินของตำบลจอเบาะ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 1,667 แปลง เนื้อที่ 4,899 ไร่ ทั้งนี้เป็นไปตามการพิสูจน์สิทธิที่ดินของราษฎรที่อยู่ในเขตอุทยาน (ส่วนที่นอกเขตป่าสงวน) ของคณะกรรมการพิสูจน์สิทธิในการถือครองที่ดินของราษฎรระดับอำเภอยี่งอ โดยใช้ฐานข้อมูลเครือข่ายฯ และข้อมูลสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี ที่ตรงกันว่ามีการถือครองก่อนการประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2508 และประกาศเป็นเขตป่าอุทยานแห่งชาติปี 2552 และทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่อง