ยิงชาวบ้าน1ศพพบประวัติต้องโทษหลายครั้ง จนท.คาดเป็นเรื่องยาเสพติด

เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 30 พ.ค. 61 ร.ต.อ.รอฮีหมาน ตางา รองสารวัตรสอบสวน สภ.แว้ง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุพบศพคนถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณบ่อดินบ้านบางขุด ม.1 ต.ฆอเลาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิพงษ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.แว้ง เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ตชด.446 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบศพนายมะซัยนุง สะมะแอ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/2 ม.1 ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง จ.นราธิวาส นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่กลางบ่อดิน โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนพกไม่ทราบขนาด ที่บริเวณหน้าอกและกลางหลัง จำนวน 2 นัด ส่วนใบหน้ามีร่องรอยคล้ายลักษณะถูกชกต่อยจนเขียวช้ำ และห่างไปประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่พบ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีบรอนส์ ทะเบียน กมบ 603 นราธิวาส จอดอยู่ เพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ตชด.446 เข้าทำการตรวจสอบ รถ จยย.คันดังกล่าว เกรงคนร้ายอาจจะมีการซุกซ่อนวัตถุระเบิดเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ ขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงในการยิงทำลายบริเวณใต้เบาะนั่งของผู้ขับขี่ และพบว่ารถ จยย.คันดังกล่าวไม่มีวัตถุระเบิดซุกซ่อนไว้แต่อย่างใด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่า บริเวณดังกล่าวมีร่องรอยลักษณะคล้ายการต่อสู้ โดยมีรอยรองเท้าติดอยู่ที่บริเวณโคลนตรมจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลแว้ง เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา

จากการสอบสวน นายซาการียา สะมะแอ พี่ชายของผู้เสียชีวิตทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 29 พ.ค. 61 ที่ผ่านมา น้องชายได้ขี่รถ จยย.ออกจากบ้านตามลำพัง หลังเสร็จสิ้นจากการรับจ้างกรีดยางพารา โดยที่ไม่ทราบว่าเดินทางไปไหน และได้มารับแจ้งจากชาวบ้านอีกครั้งในช่วงเช้าว่า น้องชายถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตที่บริเวณบ่อดินดังกล่าว ส่วนน้องชายนั้นมีประวัติถูกดำเนินคดีเรื่องเสพยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง
และจากการประเมินสถานการณ์ ณ จุดเกิดเหตุในเบื้องต้น ร.ต.อ.รอฮีหมาน ตางา รองสารวัตรสอบสวน สภ.แว้ง เปิดเผยว่า จากลักษณะการตรวจสอบจุดเกิดเหตุคล้ายกับคนร้ายรู้จักมักคุ้นกับผู้ตาย และได้ซ้อนท้ายผู้ตายมาที่เกิดเหตุ มีการจอดรถตกลงพูดคุยกันปัญหาบางอย่าง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ และได้มีการชกต่อยกันก่อนที่คนร้ายจะชักอาวุธปืนพกออกมายิงใส่ผู้ตาย จำนวน 2 นัดซ้อนจนเสียชีวิต แล้วคนร้ายได้หลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนในการติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษต่อไป

อัสวรรค์ สะมะแอ /สุไลมาน ยุ  ผู้สื่อข่าวนราธิวาส รายงาน

 842 total views,  4 views today