อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

ปัตตานี – เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2568 ณ Eyvall cafe หน้ามัสญิดรายอ ปัตตานี ได้มีการจัดเสวนาในหัวข้อที่กำลังเป็นกระแสร้อนแรง “การเมืองยุคตาสว่าง: เมื่อทางเลือกมีเพียง ‘เทา’ สแกมเมอร์ กับ ‘ส้ม’ มีหนอน เราจะไปทางไหน?!” โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ผศ. ดร. อับดุลรอนิง สือแต และ ดร. ฮาฟิส สาและ ร่วมวิเคราะห์เจาะลึก ดำเนินรายการโดย เจ๊ะอำเรย์ เจ๊ะแว
ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่สุกงอม บรรณาธิการเพจสถานีหนังสือได้สรุปประเด็นสำคัญเชิงโครงสร้างและยุทธศาสตร์สำหรับสังคมมุสลิมไทยไว้ดังนี้:
1. ภูมิทัศน์ใหม่: จากโครงสร้างอำนาจเก่าสู่พายุความไม่แน่นอน
วงเสวนาชี้ให้เห็นว่า การเมืองไทยปัจจุบันก้าวพ้นจุดที่จะอธิบายด้วยกรอบเดิมๆ ได้แล้ว โครงสร้างอำนาจเก่าที่เคยจัดระเบียบสังคมกำลังเกิด “สภาวะสุญญากาศ” นำมาซึ่งความผันผวน แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดพื้นที่ให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึงการเปลี่ยนกติกาและโครงสร้างอำนาจ ไม่ใช่เพียงแค่เปลี่ยนตัวผู้เล่นในสนามเลือกตั้ง
2. พลังจากภาคพื้นราบ: เมื่อประชาชนคือผู้กำหนดเกณฑ์
ทิศทางอำนาจกำลังเปลี่ยนจาก “บนลงล่าง” (ชนชั้นนำสั่งการ) มาเป็น “ล่างขึ้นบน” การเมืองถูกนิยามใหม่ว่าเป็นเพียง “เครื่องมือ” ในการจัดการสังคม หน้าที่ของพลเมืองจึงต้องเปลี่ยนจาก “ผู้เฝ้ารอ” มาเป็น “ผู้กำหนดเกณฑ์” เพื่อใช้การเมืองรับใช้เจตจำนงของประชาชนอย่างแท้จริง
3. นิยาม “คนดี” ที่เปลี่ยนไปและความรับผิดชอบของมุสลิม
ในยุคตาสว่าง หน้าที่ของมุสลิมทวีความซับซ้อนขึ้น นิยามของคนดีไม่อาจวัดเพียงศีลธรรมส่วนบุคคล แต่ต้องดูที่ “นโยบายและวาระเชิงโครงสร้าง”
“ไม่มีตัวเลือกใดสมบูรณ์แบบ โจทย์จึงไม่ใช่การหาพรรคที่สะอาดที่สุด แต่คือการเลือกเพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่าและลดอันตรายต่อสังคมโดยรวม”
4. เผชิญหน้าวิกฤต: “เทา” สแกมเมอร์ vs “ส้ม” มีหนอน
ที่ประชุมวิเคราะห์ทางเลือกที่น่าหนักใจในปัจจุบัน:
- วิกฤตเงินสีเทา: คือภัยคุกคามที่อยู่เหนือรัฐ สามารถซื้อได้ทั้งรัฐบาลและนโยบาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด (#เราไม่เอาสีเทา)
- ปรากฏการณ์ “ส้มมีหนอน”: สะท้อนความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์ก้าวหน้า (เช่น ประเด็น LGBT) กับคุณค่าทางศาสนา มุสลิมตั้งคำถามถึงขอบเขตของเสรีภาพที่ต้องไม่เป็นการดูหมิ่นความเชื่อ
อย่างไรก็ตาม วิทยากรเน้นย้ำว่า “ทุกพรรคมีหนอน” แต่สิ่งสำคัญคือพรรคนั้นมีระบบรับฟังและแก้ไขหรือไม่ หน้าที่ของมุสลิมคือการเข้าไป “สนทนาและกดดันอย่างมีหลักการ” แทนที่จะถอยหนี
5. ยุทธศาสตร์ที่สาม: การเป็น “ผู้คุมเกม” (Civil Society)
การจะอยู่ในเกมการเมืองอย่างมีศักดิ์ศรี ต้องแบ่งบทบาทให้ชัดเจน:
- นักการเมือง: ต้องกล้าหาญและตรงไปตรงมาเมื่อทำตามสัญญาไม่ได้
- ผู้เลือก: ก้าวข้ามอารมณ์ สู่การพิจารณาผลลัพธ์เชิงนโยบาย
- ผู้คุมเกม: ภาคประชาสังคมต้องเข้มแข็ง เพื่อสร้างอำนาจต่อรองนอกเหนือจากวันเลือกตั้ง
6. ข้อเสนอ “Soft Secular” และการจัดลำดับความสำคัญ
ในภาวะวิกฤต ศาสนาสอนให้จัดลำดับความสำคัญ การป้องกันประเทศจากภัย “เงินสีเทา” อาจเร่งด่วนกว่าความขัดแย้งทางอุดมการณ์บางประเด็น นอกจากนี้ยังมีการเสนอแนวคิด Soft Secular เพื่อสร้างระยะห่างที่ยุติธรรมระหว่างรัฐกับศาสนา ซึ่งจะช่วยคุ้มครองสิทธิของมุสลิมในฐานะชนกลุ่มน้อยได้อย่างยั่งยืน
บทสรุป: ยอมเปื้อนโคลนเพื่อขุดลอกโคลน
การเมืองเปรียบเสมือนสนามโคลนที่หลีกเลี่ยงการเปื้อนไม่ได้ หากต้องการเข้าไปเปลี่ยนแปลง วิทยากรทิ้งท้ายอย่างมีความหวังว่า พรรคการเมืองคือ “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “ลัทธิที่ต้องศรัทธาอย่างมืดบอด” มุสลิมยุคตาสว่างต้องยึดมั่นในหลักการ ชาญฉลาดในทางปฏิบัติ และใช้การเจรจาต่อรองเพื่อออกแบบสังคมที่ปรารถนาให้คนรุ่นหลังได้ยืนบนพื้นฐานที่ยุติธรรมกว่าเดิม
เรียบเรียงโดย: บรรณาธิการเพจสถานีหนังสือ
คีย์เวิร์ด: #การเมืองยุคตาสว่าง #เทาสแกมเมอร์ #ส้มมีหนอน #มุสลิมกับการเมือง #ปัตตานี #SoftSecular
281 total views, 281 views today

More Stories
สมรภูมิ IO vs Fake News และจุดเปลี่ยนการเมืองไทย 2569 ความท้าทายพรรคส้ม
พรรคภูมิใจไทยยะลา เดินหน้าพร้อมเลือกตั้ง จัดเวทีทำไพรมารีโหวต (Primary Vote) ลงมติเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.
แนะนำ ว่าที่ผู้สมัคร สส. จังหวัดนราธิวาส เขต 1 พรรคประชาชาติ