อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

1. บทนำ: น้ำเงินรุก ส้มทรุด (ตามทัศนะชูวิทย์)
เพียง 2 เดือนก่อนการเลือกตั้ง “พรรคน้ำเงิน” (ภูมิใจไทย) ทะยานขึ้นเป็นพรรคอันดับหนึ่งด้วยยุทธศาสตร์ “เก๋าเกม” รวมฐานเสียงบ้านใหญ่และเปิดดีลข้ามขั้ว สวนทางกับ “พรรคส้ม” (ประชาชน) ที่ตกอยู่ในสภาวะโดดเดี่ยวจากการยึดอุดมการณ์แข็งกร้าว “มีเราไม่มีเขา” จนกลายเป็นช่องว่างให้คู่แข่งรุกไล่ในเกมที่ไม่มีการต่อเวลา
2. อาวุธข้อมูลข่าวสารและรอยร้าวทางอุดมการณ์
ความเพลี่ยงพล้ำของพรรคส้มถูกขยี้ซ้ำด้วยปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO) ใน 3 มิติ:
- Fake News ความมั่นคง ทั้งก่อนหน้านี้ และล่าสุดกรณี “ช่อ พรรณิการ์” ที่ไปฟ้องว่า ถูกบิดเบือนข้อมูลเรื่องแผนการรบ เพื่อประทับตรา “ขายชาติ” ท่ามกลางวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา
- สงครามความกลัว การเชื่อมโยงพรรคกับกลุ่ม BRN ในชายแดนใต้ ยังคงถูกสื่อสารจากอนุรักษ์นิยมรวมกับศัตรูการเมือง
- วิกฤตความเชื่อ ล่าสุดกรณีสมาชิกพรรคเหยียดศาสนาอิสลาม กลายเป็นจุดตายที่สะท้อนความย้อนแย้งระหว่าง “เสรีภาพ” กับ “การด้อยค่าศักดิ์ศรีมนุษย์” ทำลายฐานเสียงมุสลิมและกลุ่มพหุวัฒนธรรมอย่างรุนแรง แม้เขาคนนั้นจะประกาศถอยจากบัญชีรายชื่อ
3. อภิปราย
พรรคน้ำเงินและพรรคพันธมิตรได้ประโยชน์สูงสุดจากสถานการณ์พรรคส้ม ณ ตอนนี้ซึ่งผลโพลชัดเจน แม้ชนะแต่ไม่ขาด และนับวันเตี้ยต่ำลง แต่อีกฝั่งเพิ่มขึ้น อย่างไรก็แล้วแต่เปอร์เซ็นต์คนไม่ตัดสินใจยังมาก พรรคส้มต้องรีบปรับ สื่อสาร
นี่คือสรุปวิเคราะห์ประเด็น “โอกาสของพรรคน้ำเงินบนวิกฤตพรรคส้ม” ซึ่งมันคือดุลอำนาจ “พรรคน้ำเงินผงาดบนรอยร้าวพรรคส้ม”
1. น้ำเงิน-พันธมิตร: ผู้รับส้มหล่นทางการเมือง
พรรคน้ำเงินและพรรคขั้วรัฐบาลเดิมกำลังได้รับประโยชน์สูงสุดจากการที่พรรคส้ม “โดดเดี่ยวตัวเอง” และการรวมกลุ่ม “บ้านใหญ่” ที่เหนียวแน่นกว่าเดิม เมื่อพรรคส้มประกาศขีดเส้นไม่ร่วมสังฆกรรมกับใคร พรรคน้ำเงินแม้ชนะอาจได้ที่สองจึงกลายเป็นเป็นผู้คุมเกมอำนาจในการจัดตั้งรัฐบาลทันที
2. สัญญาณอันตรายจากผลโพล: ชนะแต่ไม่ขาด
แม้โพลจะระบุว่าพรรคส้มยังมีคะแนนนำ แต่สถานะคือ “เตี้ยต่ำลง” อย่างต่อเนื่อง:
- ขาลงของกระแส คะแนนนิยมเริ่มเพดานตันและลดลงจากประเด็นดราม่ารายวัน (เหยียดศาสนา/Fake News)
- พลังเงียบคือตัวแปร ตัวเลขคนไม่ตัดสินใจที่สูงกว่า 40% สะท้อนว่าประชาชน “เริ่มลังเล” ในวุฒิภาวะของพรรคส้ม และพร้อมจะเปลี่ยนใจหากพรรคน้ำเงินเสนอความมั่นคงที่เหนือกว่า
3. ทางรอดพรรคส้ม: ต้องสื่อสารและปรับตัวด่วน
หากพรรคส้มไม่รีบปรับยุทธศาสตร์การสื่อสาร จะเผชิญวิกฤต “เทกระจาด” ในวันเลือกตั้งจริง โดยเฉพาะรีบ
-
สื่อสารกับคนกลุ่มใหญ่ ต้องดึงคน 40% ที่ยังไม่ตัดสินใจกลับมาด้วย “ความน่าเชื่อถือ” ไม่ใช่แค่ “กระแสโซเชียล”
สรุป
ปัจจุบันพรรคน้ำเงินกำลัง “วิน” เพราะพรรคส้ม “พลาด” เอง หากพรรคส้มไม่แก้เกมการสื่อสารในเร็ววัน ชัยชนะที่เคยฝันไว้อาจกลายเป็นความพ่ายแพ้ทางการเมืองที่กู้คืนไม่ได้
271 total views, 271 views today

More Stories
ถอดรหัสเสวนาปัตตานี “การเมืองยุคตาสว่าง” เมื่อมุสลิมต้องเลือกสู้ในนาม “ผู้คุมเกม” ไม่ใช่แค่ “ผู้รอคอย”
พรรคภูมิใจไทยยะลา เดินหน้าพร้อมเลือกตั้ง จัดเวทีทำไพรมารีโหวต (Primary Vote) ลงมติเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.
แนะนำ ว่าที่ผู้สมัคร สส. จังหวัดนราธิวาส เขต 1 พรรคประชาชาติ