ธันวาคม 21, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ทางออกมุสลิมภายใต้การเมืองไทย: ระหว่าง “ทุนสีเทา” กับ “อุดมการณ์ที่มีรอยร้าว”

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

บทนำ: วิกฤตศรัทธาในคูหาเลือกตั้ง
     ในห้วงเวลาที่สังคมไทยก้าวเข้าสู่ “ยุคตาสว่าง” ภูมิทัศน์ทางการเมืองกลับกลายเป็นบททดสอบอันหนักอึ้งสำหรับมุสลิมไทย เมื่อภาพลักษณ์ของพรรคการเมืองที่ปรากฏต่อหน้ามีเพียงสองทางเลือกที่ชวนกระอักกระอ่วนใจ: ฟากหนึ่งคือพรรคที่ถูกตั้งคำถามเรื่อง “ทุนสีเทา” และความโปร่งใสแบบสแกมเมอร์ อีกฟากคือพรรคที่ชู “อุดมการณ์ก้าวหน้า” แต่กลับมี “หนอน” หรือบุคลากรที่มีประวัติเหยียดหยามคุณค่าทางศาสนาอย่างรุนแรง ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาชน (ปชน.) ในช่วงวันที่ 18 ธันวาคม 2568
(เส้นแบ่งที่พรรคประชาชนต้องเลือก: เมื่อ “เสรีภาพ” ปะทะ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” กรณีโชติศักดิ์ อ่อนสูง กลายเป็นแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ภายในพรรคประชาชน (ปชน.))
ลิงค์ : http://spmcnews.com/?p=55623

สถานการณ์นี้บีบให้มุสลิมต้องตั้งคำถามว่า “ทางออกที่สง่างามและถูกต้องตามหลักการศาสนาอยู่ที่ไหน?”

อธิบาย: เมื่ออุดมการณ์ปะทะศรัทธา และความโปร่งใสปะทะความอยู่รอด
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องของตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องของ “เส้นแบ่ง” ระหว่างเสรีภาพและการละเมิดศักดิ์ศรี

  • บทเรียนจากกรณี “โชติศักดิ์ อ่อนสูง”: การที่พรรคการเมืองรุ่นใหม่เสนอชื่อผู้ที่มีประวัติใช้ Hate Speech ต่อศาสนาอิสลาม สะท้อนถึงความล้มเหลวในการคัดกรอง (Vetting Process) และความไม่เข้าใจในหลัก “พหุวัฒนธรรม” ที่แท้จริง ประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องโอบรับความหลากหลาย ไม่ใช่การใช้เสรีภาพเพื่อด้อยค่าความเชื่อของผู้อื่น
  • ทางเลือก “สีเทา”: ในอีกด้านหนึ่ง พรรคการเมืองแบบเดิมที่เน้นระบบอุปถัมภ์หรือพัวพันกับผลประโยชน์ทับซ้อน แม้จะดูเหมือน “ประนีประนอม” กับศาสนามากกว่า แต่ก็สร้างความเสียหายต่อหลักธรรมาภิบาลและการพัฒนาประเทศในระยะยาว

    เมื่อไม่มี “พรรคสีขาว” 100% การตัดสินใจจึงต้องใช้หลัก “นิติศาสตร์ว่าด้วยสถานการณ์จริง” (Fiqh al-Waqi’) เพื่อเลือกทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดบนพื้นฐานของโลกแห่งความเป็นจริง

อภิปราย: การใช้ “ตราชั่งอิสลาม” ในการเมืองยุคใหม่
   นักวิชาการมุสลิมร่วมสมัยมองว่าการเมืองคือ “ศาสตร์แห่งความเป็นไปได้” การตัดสินใจของมุสลิมในภาวะจำยอมเช่นนี้ควรใช้หลักการดังนี้:

  • หลักการเลือกสิ่งที่เสียน้อยกว่า (ارتكاب أخف الضررين): นี่คือหัวใจสำคัญ หากต้องเลือกระหว่าง “พรรคที่โกงกิน” กับ “พรรคที่ทำลายรากเหง้าความเชื่อ” มุสลิมต้องชั่งน้ำหนักว่าความเสียหายใดร้ายแรงกว่า (Major Harm) การรักษา “ศาสนา” (Din) และ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” เป็นเป้าหมายสูงสุดของธรรมบัญญัติ (Maqasid al-Sharia)

  • การชั่งน้ำหนักผลประโยชน์และความเสียหาย:

    • Jalb al-Masalih: พรรคใดให้โอกาสในการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการที่เท่าเทียม?
    • Dar’ al-Mafasid: พรรคใดมีแนวโน้มจะออกกฎหมายที่ขัดต่อวิถีชีวิตอิสลามน้อยที่สุด?
  • การมีส่วนร่วมเชิงบวก (Positive Engagement): การนิ่งเฉยหรือ “No Vote” อาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป เพราะเท่ากับเรายอมสละสิทธิ์ในการยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้มากกว่า

สรุปและข้อเสนอแนะ: ทางออกที่ยั่งยืน
ทางออกของมุสลิมไทยภายใต้การเมืองที่เต็มไปด้วย “สีเทา” และ “หนอน” ไม่ใช่การหนีออกจากระบบ แต่คือการเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างมีกลยุทธ์และมีศักดิ์ศรี ดังนี้:

  • เลิกยึดติด “พรรค” แต่ยึดติด “ประเด็น” (Issue-based Politics): มุสลิมต้องแสดงให้ทุกพรรคเห็นว่า คะแนนเสียงของเราไม่ได้มาฟรีๆ แต่ขึ้นอยู่กับนโยบายที่เคารพต่อสิทธิและวิถีอิสลาม
  • สร้างอำนาจต่อรองผ่านประชาสังคม: กรณีการถอนตัวของว่าที่ผู้สมัครที่มีปัญหาพิสูจน์ให้เห็นว่า “เสียงสะท้อนจากมุสลิม” มีผลต่อการตัดสินใจของพรรคการเมือง เราต้องรักษาความเข้มแข็งของภาคประชาสังคมเพื่อทำหน้าที่เป็น “ผู้ตรวจการ” ทางจริยธรรม
  • ยึดหลักสายกลาง (Wasatiyyah): ไม่มองฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรูถาวร และไม่มองพรรคที่ชอบว่าเป็นมิตรแท้ แต่ใช้ “ปัญญา” ในการวิเคราะห์ (Ijtihad) ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
  • ยกระดับคุณภาพของ “Voter”: พัฒนาคนในชุมชนให้ก้าวข้ามการเมืองที่เน้นอารมณ์หรือค่าตอบแทน สู่การเมืองที่ใช้ “หลักการและเหตุผล” เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของอิสลามและประเทศชาติ

บทสรุป
     การเมืองไทยอาจจะไม่มีพรรคที่ “ขาวสะอาด” แต่หน้าที่ของมุสลิมคือการเป็น “แต้มต่อ” ที่คอยถ่วงดุลและชี้ทางให้สังคมไปสู่ทิศทางที่เสียหายน้อยที่สุด เพื่อให้คำนิยามที่ว่า “อิสลามมาเพื่อสร้างผลประโยชน์และลดความเสียหาย” เกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติ อย่างไรก็แล้วแต่เป็นสิทธิของทุกท่านแต่ต้องตอบต่อตัวเองและพระเจ้าให้ได้ภายใต้หลักการ

หมายเหตุ

  1. 20 ธันวาคม 2568
    มีเสวนา หัวข้อ …
    การเมืองยุคตาสว่าง : เมื่อทางเลือกมีเพียง “เทา” สแกมเมอร์ กับ “ส้ม” มีหนอน เราจะไปทางไหน?!
    นำเสวนาโดย …
    ผศ.ดร.อับดุลรอนิง สือแต
    ดร.ฮาฟิส สาและ
    ดำเนินการโดย เจ๊ะอำเรย์ เจ๊ะแว
    รับชมย้อนหลังคลิ๊ก https://www.facebook.com/share/v/17T2zuoChb/
    ต่อๆ คลิ๊ก https://www.facebook.com/share/v/1Jv5k6G1aR/

  2. อ่านบทความผู้เขียนก่อนหน้านี้
    เส้นแบ่งที่พรรคประชาชนต้องเลือก: เมื่อ “เสรีภาพ” ปะทะ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” กรณีโชติศักดิ์ อ่อนสูง กลายเป็นแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ภายในพรรคประชาชน (ปชน.)
    ลิงค์ : http://spmcnews.com/?p=55623

 181 total views,  181 views today