อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

บทนำ: ปีแรกแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ความไม่แน่นอน
การครบรอบ 1 ปี ของเหตุการณ์ โค่นล้มระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด ในซีเรีย คือวันที่ 8 ธันวาคม 2025 ซึ่งเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2024 นั้นถือเป็นจุดสิ้นสุดของการปกครองโดยตระกูลอัสซาดที่ยาวนานกว่า 50 ปี โดยวันที่ 8 ธันวาคมจึงถูกกำหนดให้เป็น “วันแห่งการปลดปล่อย” (Liberation Day) ของซีเรีย โดยมี ประธานาธิบดีอะห์มัด อัล-ชัรอ์ (อดีตผู้นำสูงสุดของ HTS) เป็นผู้นำ รัฐบาลนี้มีภารกิจในการสร้างประเทศขึ้นใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2025 และบริหารจัดการช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี
อย่างไรก็ตาม ปีแรกนี้เต็มไปด้วยความพยายามในการนำทางเขาวงกตที่ซับซ้อนของภูมิรัฐศาสตร์โลกและพลวัตในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงการแสวงหาการยอมรับระหว่างประเทศ การสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของมหาอำนาจภายนอก และการจัดการกับแรงกดดันภายในประเทศ
ความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์และพลวัตภายใน

รัฐบาลอัล-ชัรอ์ เผชิญกับความท้าทายหลัก 3 ด้าน:
1. การยุติการโดดเดี่ยวทางการทูต (ความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์โลก)
รัฐบาลใหม่มุ่งมั่นที่จะยุติการโดดเดี่ยวของซีเรีย ดังเห็นได้จากการเยือนสหรัฐอเมริกาของประธานาธิบดีอัล-ชัรอ์ ในเดือนพฤศจิกายน 2025 เพื่อแสวงหาการสนับสนุนด้านการฟื้นฟู
อุปสรรคสำคัญ:
- การคว่ำบาตรระหว่างประเทศ: มาตรการคว่ำบาตรรวมถึงกฎหมาย Caesar Act ก่อนหน้านี้ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ขัดขวางการลงทุนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
- การรักษาสมดุลมหาอำนาจ: ซีเรียต้องรักษาสมดุลทางยุทธศาสตร์ระหว่างพันธมิตรดั้งเดิม (รัสเซีย และ อิหร่าน) กับความพยายามในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับโลกอาหรับและโลกตะวันตก
2. การจัดการพลวัตระดับภูมิภาค: สนามรบแห่งผลประโยชน์
ซีเรียยังคงเป็นเวทีที่ความต้องการของมหาอำนาจในภูมิภาคปะทะกัน:
- อิสราเอลและอิหร่าน: ซีเรียยังคงเป็นจุดศูนย์กลางของ “ความขัดแย้งเงา” รัฐบาลใหม่ต้องยืนยันอธิปไตยของตนพร้อมกับลดความตึงเครียดทางทหารที่เกิดจากการรวมกำลังของกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
- ตุรกี: ความสัมพันธ์อาจจะดีแต่ยังอ่อนไหว โดยเน้นไปที่พื้นที่ทางเหนือของซีเรียเกี่ยวกับความมั่นคงชายแดน และวาระสำคัญในการส่งผู้ลี้ภัยชาวซีเรียนับล้านที่อยู่ในตุรกีกลับประเทศ
- ซาอุดีอาระเบียและสันนิบาตอาหรับ: การกลับสู่สันนิบาตอาหรับเป็นชัยชนะทางการทูต โดยซาอุดีอาระเบียถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญสำหรับเงินลงทุนขนาดใหญ่เพื่อฟื้นฟูประเทศ
3. การจัดการกับขบวนการอิสลามิสต์และการปรองดองภายใน
ความมั่นคงภายในขึ้นอยู่กับวิธีที่รัฐบาลใหม่จะจัดการกับกลุ่มติดอาวุธที่เหลืออยู่ (เช่น กลุ่มที่เหลือของ ISIS) และการรับมือกับฝ่ายค้านทางการเมืองในอดีต
-
ขบวนการภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood): กลุ่มนี้มีประวัติความขัดแย้งยาวนานกับระบอบเดิม แต่ปัจจุบันแสดงจุดยืนโน้มเอียงที่ “สนับสนุน” โดยมุ่งเน้นที่การสร้าง “รัฐสมัยใหม่แบบพลเรือนที่มีหลักการอิสลามเป็นพื้นฐาน” ซึ่งเป็นไปตามเจตจำนงของ สภาอุลามาอ์โลก (IUMS) ที่เรียกร้องให้มีการรวมเอกภาพในชาติ การปรองดองนี้เป็นสัญญาณสำคัญของการสร้างฉันทามติทางการเมืองใหม่
สรุป: มุ่งหน้าสู่เอกภาพที่ยั่งยืน
ครบรอบปีแรกของรัฐบาลอัล-ชัรอ์ คือช่วงเวลาแห่ง การมองโลกในแง่ดีอย่างระมัดระวัง การต่อสู้เพื่อ อธิปไตยทางเศรษฐกิจและการเมืองที่แท้จริง เพิ่งเริ่มต้นขึ้น
ความสำเร็จในระยะยาวของรัฐบาลซีเรียใหม่จะขึ้นอยู่กับ:
- การทูตที่ชาญฉลาด: ความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ที่แข่งขันกันของมหาอำนาจภายนอก
- การดึงดูดการลงทุน: การฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยไม่สูญเสียความเป็นอิสระ
- การสร้างฉันทามติภายใน: การสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืนผ่านการปรองดองทางการเมืองและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเสนอแนวคิด “ยุทธศาสตร์เอกภาพแบบใหม่” (Re-understanding of Unity) เพื่อก้าวข้ามความแตกแยกในอดีต
ความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์เหล่านี้เรียกร้องให้มีการทูตที่ชาญฉลาดและความเป็นผู้นำที่มั่นคงเพื่อนำพาซีเรียไปสู่ยุคฟื้นฟูที่แท้จริง
ชมคำกล่าวของท่าน ในวันครบรอบ 1 ปี
https://youtube.com/shorts/3Uts7cPDQXk?si=cB8b7b2lDxRa2GwW
https://youtube.com/shorts/3Uts7cPDQXk?si=cB8b7b2lDxRa2GwW
165 total views, 165 views today

More Stories
ชื่นชมผู้นำ “บ้านโคะ” ผู้ยึดมั่นหลักการอิสลาม: การต่อสู้เพื่อการเลือกตั้งที่ใสสะอาดและคุณธรรม
จุดเปลี่ยนชายแดนใต้กับบทบาทภาคประชาสังคม: จากข้อเสนอ พ.ร.บ. สู่การหนุนเสริมของ ศอ.บต.พร้อมข้อเสนอแนะ
การบูรณาการบทเรียนอิสลามจากสถานการณ์น้ำท่วม สู่การพัฒนาสมรรถนะการจัดการภัยพิบัติในศตวรรษที่ 21