เงินเยียวยาศพ (มุสลิม) 2 ล้านบาท แนะ สำนักจุฬาราชมนตรีเร่งออกฟัตวาเป็นลายลักษณ์อักษร
โดยมีเป้าหมาย เพื่อขจัดความคลุมเครือทางศาสนา, สร้างความมั่นใจให้กับทายาทมุสลิม, และ ป้องกันข้อพิพาทภายในครอบครัวในเรื่องการแบ่งทรัพย์สินเยียวยาที่ได้มาภายหลังการเสียชีวิต
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) รายงาน
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
วันที่ 2 ธันวาคม 2568 – ในสถานการณ์ที่รัฐบาลจัดสรรเงินเยียวยา 2 ล้านบาทต่อศพให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยภาคใต้ ประเด็นทาง นิติศาสตร์อิสลาม (ฟิกฮ์) เกี่ยวกับสถานะของเงินก้อนนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงในหมู่มุสลิม
ล่าสุด 2 ธันวาคม 2568 ผู้เขียนได้สัมภาษณ์ อ. อำนาจ (อับดุลอาซีซ) มะหะหมัด นักวิชาการอิสลามจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้ทำการวิเคราะห์อย่างละเอียดตามหลัก มัซฮับชาฟิอี (ซึ่งมุสลิมไทยใช้ดำเนินชีวิต) ว่ามันมีสถานะเป็น “ฮิบะฮ์” (การให้เปล่า) หรือมรดก เพราะการแบ่งต่างกัน
อ. อำนาจ มะหะหมัด เรียกร้องให้ สำนักจุฬาราชมนตรี เร่งรัดการออก ฟัตวา รวมทั้งประกาศอย่างเป็นทางการเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อสร้างความชัดเจนและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติของพี่น้องมุสลิมทั่วประเทศ
ในทางวิชาการ: หากเงินเยียวยาคือ ‘การให้เปล่าเพื่อบรรเทาทุกข์’
อ. อำนาจ ได้วิเคราะห์เจาะลึกสถานะของเงินเยียวยา 2 ล้านบาท ภายใต้หัวข้อ “เงินเยียวยาศพจากน้ำท่วมภาคใต้: ศึกษากรณีเงิน 2 ล้านบาท ในมุมมองฟิกฮ์มัซฮับชาฟิอี” โดยมีข้อสรุปช่วงท้ายให้น้ำหนักว่าเงินนี้คือ “ฮิบะฮ์ตะอ์ซียะฮ์” (هِبَة تَعْزِيَة – ของขวัญแสดงความเสียใจ/บรรเทาทุกข์) มากกว่าเป็น “มรดก” (อัต-ตะริกะฮ์)
1. เหตุผลหลักที่ ไม่ใช่ มรดก
เงินเยียวยาไม่เข้าข่ายมรดก (ตะริกะฮ์) เนื่องจาก:
-
เวลาการให้: ถูกจัดสรรให้ หลังการเสียชีวิต ของผู้ตาย และไม่ได้เป็นทรัพย์สินที่ผู้ตายมีสิทธิ์เต็มที่ขณะมีชีวิตอยู่
-
นิยามมรดก: มรดกคือสิ่งที่ผู้ตายเหลือทิ้งไว้
(التَّرِكَةُ: مَا يُخَلِّفُهُ المَيِّتُ مِنْ مَالٍ وَحُقُوقٍ)
ซึ่งเงินเยียวยานี้คือสิทธิ์ที่รัฐสร้างขึ้นใหม่ภายหลัง
2. เหตุผลที่จัดเป็น ฮิบะฮ์ตะอ์ซียะฮ์
เงินเยียวยาเป็น ฮิบะฮ์ที่มีเงื่อนไข (هبة مشروطة) เพราะ:
-
เจตนาผู้ให้: รัฐบาล (ผู้ให้ – อัล-วาฮิบ) มีเจตนาเพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ประสบความสูญเสียอย่างหนัก
-
หลักเกณฑ์อำนาจผู้ให้: เป็นไปตามกออิดะฮ์ฟิกฮียะฮ์
“الأَصْلُ فِي الْعَطَايَا التَّفْوِيضُ إِلَى رَأْيِ الْوَاهِبِ”
(หลักพื้นฐานในการให้คืออำนาจตัดสินใจให้แก่ผู้ให้)
ข้อปฏิบัติและข้อเรียกร้องต่อสำนักจุฬาราชมนตรี
ผลจากการจัดประเภททางฟิกฮ์นี้มีนัยสำคัญต่อการบริหารจัดการเงินในครอบครัวมุสลิม:
| สถานะเงิน | ผลทางฟิกฮ์ | แนวทางการปฏิบัติ (ตามเงื่อนไขผู้ให้) |
|---|---|---|
| ฮิบะฮ์ตะอ์ซียะฮ์ | ไม่ต้องแบ่งตามสัดส่วนฟะรีเฎาะฮ์ | เน้นที่ค่าใช้จ่ายจำเป็นของครอบครัว, ค่าเลี้ยงดูผู้อยู่ในอุปการะ, และหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับการเยียวยาศพ |
| ไม่ต้องชำระหนี้สินของผู้ตาย | ไม่จำเป็นต้องนำเงินเยียวยาไปชำระหนี้สินที่ผู้ตายมีอยู่ (ซึ่งต่างจากทรัพย์มรดกทั่วไป) |
เร่งออกฟัตวาเป็นทางการ
อ. อำนาจ มะหะหมัด จึงเสนอแนะอย่างยิ่งให้ สำนักจุฬาราชมนตรี ซึ่งมีอำนาจตามพ.ร.บ.บริหารกิจการอิสลาม 2540 ออกฟัตวาหรือคำวินิจฉัยและออกประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรโดยเร็วที่สุด
โดยมีเป้าหมาย เพื่อขจัดความคลุมเครือทางศาสนา, สร้างความมั่นใจให้กับทายาทมุสลิม, และ ป้องกันข้อพิพาทภายในครอบครัวในเรื่องการแบ่งทรัพย์สินเยียวยาที่ได้มาภายหลังการเสียชีวิต
หมายเหตุ อ่านบทความฉบับเต็มใน
https://share.csitereport.com/share2024.php?post_id=52497
และ
https://www.facebook.com/share/p/1D2HQRVndu/?mibextid=wwXIfr
21,714 total views, 534 views today

More Stories
“เท่าเทียมเป็นธรรม ไม่ว่ารัฐหรือเอกชน สามัญหรือศาสนา”: ข้อเสนอจากสมาคมฯ ภาคใต้ ชี้เป้าบทบาท ศธ. ในการฟื้นฟูการศึกษาหลังน้ำท่วม
สภานักวิชาการมุสลิมแห่งประเทศไทย: ก้าวสำคัญสู่ “ศูนย์กลางอิสลามศึกษาแห่งภูมิภาค”
ความสำคัญของการจัดศพมุสลิมในภาวะวิกฤต: บทเรียนจากมหาอุทกภัยใต้และการรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่