ผู้นำศาสนาเน้น ‘ความอดทน’ และ ‘ความเป็นหนึ่งเดียว’ ในคุตบะห์วันศุกร์เพื่อเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยน้ำท่วมใต้

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

      จะนะ สงขลา/ภาคใต้, 28 พฤศจิกายน 2568 – ท่ามกลางวิกฤตอุทกภัยครั้งใหญ่ที่พัดถล่มหลายพื้นที่ในภาคใต้ของไทย รวมถึงอำเภอจะนะและหาดใหญ่ บรรดาผู้นำศาสนาอิสลามได้ใช้โอกาสในคุตบะห์ (คำเทศนา) วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน เพื่อเยียวยาจิตใจและให้กำลังใจแก่ชุมชนมุสลิมที่ได้รับผลกระทบ โดยเน้นย้ำถึงหลักการสำคัญของความศรัทธาและความอดทนจากคัมภีร์อัลกุรอาน

การทดสอบจากพระผู้เป็นเจ้า
      คุตบะห์ในครั้งนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นเป็น “การทดสอบจากอัลลอฮ์” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกฎสากลในชีวิตโลกนี้ เพื่อพิสูจน์ความสัตย์จริงในศรัทธา โดยมีการอ้างอิงถึงโองการจากซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ (155) ที่ระบุว่ามนุษย์จะถูกทดสอบด้วย ความกลัว ความหิว และความสูญเสียทรัพย์สิน ชีวิต และพืชผล

รางวัลแห่งความอดทนคือข่าวดี
      ผู้นำศาสนาได้ย้ำว่า หัวใจสำคัญของการเผชิญภัยพิบัติคือการมี “ความอดทน” (ศ็อบรุน) โดยมิใช่เพียงการยอมจำนนอย่างเฉยเมย แต่เป็นการยับยั้งตนเองจากการบ่นพร่ำและฝ่าฝืน พร้อมกับการยอมรับในกำหนดของพระผู้เป็นเจ้า และกล่าว “อินนา ลิลลาฮิ วะอินนา อิลัยฮิ รอญิอูน” (แท้จริง พวกเราเป็นของอัลลอฮ์ และแท้จริง พวกเราต้องกลับคืนสู่พระองค์)

     คุตบะห์ให้ข่าวดีแก่ผู้อดทน โดยสัญญาว่าพวกเขาจะได้รับ คำสรรเสริญ (เศาะละวาต) ความเมตตา และการชี้นำ จากอัลลอฮ์ ซึ่งเป็นการชดเชยที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่สูญเสียไปในโลกนี้ นอกจากนี้ยังย้ำว่าการทดสอบเหล่านี้เป็นกลไกในการ ชำระล้างบาป และยกระดับฐานะของผู้ศรัทธา

เน้นย้ำความเป็นหนึ่งเดียวและการลงมือปฏิบัติ
      ในช่วงท้ายของคุตบะห์ ผู้นำศาสนาได้เรียกร้องให้ประชาคมมุสลิมแสดงออกถึง “ความเป็นหนึ่งเดียวของเรือนร่าง” โดยเร่งให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลแก่พี่น้องผู้ประสบภัยทั้งทางวัตถุและจิตใจ โดยการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การทำความสะอาด และการป้องกันในอนาคต ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเติมเต็มความสมบูรณ์ของความอดทนในอิสลาม พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการ สำนึกผิดและทบทวนความสัมพันธ์กับอัลลอฮ์ อย่างจริงใจ

      การเทศนาครั้งนี้จึงทำหน้าที่เป็นจุดรวมทางจิตวิญญาณ ที่ไม่เพียงแต่ให้ความเข้าใจทางศาสนาต่อภัยพิบัติเท่านั้น แต่ยังกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย

ในช่วงท้ายสำหรับมัสยิดจะนะได้ร่วมขอพรจากพระเจ้าให้ทุกคนปลอดภัย

 1,519 total views,  2 views today