ธันวาคม 7, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

มหาอุทกภัยจะนะ รอบ 100 ปี ความช่วยเหลือยังไปไม่ถึงหลายชุมชนที่รอคอย สะท้อนวิกฤต ในการบริหารของผู้นำ

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

อำเภอจะนะ, จังหวัดสงขลา – 30 พฤศจิกายน 2568
     สถานการณ์มหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ยังคงวิกฤต โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา ที่หลายพื้นที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดในวันนี้ชี้ให้เห็นว่า แม้ศูนย์กลางความสนใจและความช่วยเหลือจะมุ่งไปที่พื้นที่วิกฤตหนักอย่างอำเภอหาดใหญ่เป็นหลัก แต่กลับทิ้งให้ชุมชนในอำเภอจะนะและอำเภอใกล้เคียงจำนวนมากยังคงรอคอยความช่วยเหลืออย่างจำกัด

เสียงสะท้อนจากคนในพื้นที่: “การช่วยเหลือที่ อ.จะนะ ยังน้อยมาก”
     มีรายงานการสะท้อนความรู้สึกและข้อสังเกตจากผู้ที่อยู่ในพื้นที่และเครือข่ายภาคประชาชนหลายราย โดยมีเพื่อนของผู้เขียนรายงานท่านหนึ่งให้ความเห็นว่า “ผมมองว่าการช่วยเหลือที่ อ.จะนะ ยังน้อยมากจากภาคส่วนต่างๆ หลายโรงเรียนต้องอาศัยเครือข่ายที่มีเข้าช่วย ทุกคนมุ่งเป้าการช่วยเหลือไปที่หาดใหญ่เป็นหลัก ซึ่งหนักมากจริงๆ แต่ใน อ.จะนะ ยังมีอีกหลายชุมชนที่รอการเข้าถึงและช่วยเหลือ สงสารชาวบ้าน สงสารหลายๆ โรงเรียน หลังน้ำลดคงต้องออกแบบการฟื้นฟู เยียวยาจิตใจกันดีๆ ในสรรพกำลังที่มี…”

     ข้อสังเกตดังกล่าวได้รับการยืนยันจากอีกท่านที่กล่าวอย่างเศร้าใจว่า “สงสารคนจะนะ-เทพา ความช่วยเหลือเกือบทุกอย่างไปกองอยู่ที่หาดใหญ่” ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำในการกระจายความช่วยเหลือในสถานการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้

วิกฤตน้ำท่วมเผย “วิกฤตฝีมือมนุษย์” และการบริหารจัดการที่ล้มเหลว
     ในขณะที่ประชาชนและภาคประชาสังคมกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือกันเอง บาบอฮุสณี บินกหยีควเนาะ ผู้ก่อตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนศาสนบำรุง ได้แสดงความเหนื่อยหน่ายต่อการบริหารจัดการภาครัฐอย่างรุนแรง

“เหนื่อยใจกับรัฐล้มเหลว” บาบอฮุสณีกล่าว พร้อมทั้งระบุว่า “ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เราเห็นเพียงระดับน้ำ แต่ทำให้เราเห็น ระดับกึ๋นปัญญาของคนของรัฐ ตั้งแต่ผู้ใหญ่บ้าน-กำนัน-ท้องถิ่น-อำเภอ-จังหวัด และรัฐบาลอย่างชัดเจน… มันทำให้วิกฤตธรรมชาติกายเป็น วิกฤตฝีมือมนุษย์โดยไม่จำเป็น…”

     เขาตั้งคำถามถึงความพร้อมและประสิทธิภาพในการรับมือกับวิกฤตของผู้นำทุกระดับอย่างเผ็ดร้อน โดยสรุปว่า “ในที่สุดประชาชนก็ต้องถามว่า บทเรียนของผู้นำมีวันจบคอร์สหรือไม่? ประเทศนี้ไม่ขาดผู้นำแต่ขาดการบริหารวิกฤติอย่างมืออาชีพ”

การพึ่งพาตนเองและเครือข่าย
     รายงานระบุว่า ในภาวะที่ความช่วยเหลือจากหน่วยงานหลักยังไปไม่ถึง หลายชุมชนและโรงเรียนในอำเภอจะนะต้องอาศัยการสนับสนุนจาก “เครือข่ายที่มี” ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายศิษย์เก่า เครือข่ายศาสนา หรือองค์กรภาคประชาสังคม ที่เข้ามาบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรวมพลังของคนในท้องถิ่นเพื่อพยุงสถานการณ์ไว้

อนาคต:
     หลังสถานการณ์คลี่คลายลง ผู้ประสบภัยในอำเภอจะนะจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่และโครงสร้างพื้นฐานอีกครั้ง ซึ่งผู้สังเกตการณ์ต่างเรียกร้องให้มีการวางแผน “การฟื้นฟู เยียวยาทั้งวัตถุและจิตใจโดยเฉพาะการศึกษาซึ่งจะนะ เป็นเมืองการศึกษาทั้งรัฐ เอกชน ทั้งสามัญและศาสนา” อย่างรอบด้านและเข้าถึงทุกพื้นที่อย่างเป็นธรรมในระยะต่อไป

 1,381 total views,  13 views today