ธันวาคม 7, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ผู้นำศาสนาใต้เตือนชุมชน: อย่า ‘นิ่งเฉย’ ต่อความชั่ว! พระเจ้าทรงลงโทษทั้งคนดีและคนชั่ว หากละเลยหน้าที่ทางสังคม

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
เรียบเรียง

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ทุกท่าน

     ยะลา – เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ดร.อับดุลเลาะห์ อาบูบากา รองประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดยะลา และหนึ่งในผู้นำศาสนาอิสลามในพื้นที่ภาคใต้ ได้ออกแถลงการณ์ตักเตือนและเน้นย้ำต่อประชาคมมุสลิมอย่างหนักแน่น ถึงความอันตรายของการ “นิ่งเฉย” และเพิกเฉยต่อสิ่งไม่ดี (มุนกัร) ที่เกิดขึ้นในชุมชน โดยชี้ว่า หากความชั่วร้ายแพร่หลายจนขาดการยับยั้ง โทษทัณฑ์จากพระผู้เป็นเจ้า (อัลลอฮ์) จะลงมาอย่างครอบคลุม ไม่ยกเว้นแม้กระทั่งผู้ที่ประพฤติดีแล้วก็ตาม

     ดร.อับดุลเลาะห์ ได้นำเสนอหลักการเตือนภัยดังกล่าวผ่านการตีความ อายะห์ที่ 25 จากซูเราะห์อัล-อันฟาล ในคัมภีร์อัลกุรอานอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นข้อความที่ตอกย้ำถึงความรับผิดชอบทางสังคมของมุสลิมทุกคน:

﴿وَاتَّقُوا فِتْنَةً لَا تُصِيبَنَّ الَّذِينَ ظَلَمُوا مِنْكُمْ خَاصَّةً وَاعْلَمُوا أَنَّ اللَّهَ شَدِيدُ الْعِقَابِ﴾
(และความกลัวเกรงต่อความวุ่นวาย (ฟิตนะฮ์) ที่จะไม่ประสบกับบรรดาผู้อธรรมในหมู่พวกท่านโดยเฉพาะ และพึงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงเข้มงวดในการลงโทษ)


ทำไมพระเจ้าจึงลงโทษ ‘คนดี’ ด้วย?

ดร.อับดุลเลาะห์ อธิบายว่า แก่นของคำเตือนนี้อยู่ที่การลงโทษทางสังคมที่ไม่จำกัดตัวผู้กระทำบาปแต่เพียงผู้เดียว (لَا تُصِيبَنَّ الَّذِينَ ظَلَمُوا مِنْكُمْ خَاصَّةً)

  • ความผิดของผู้นิ่งเฉย: ผู้ที่กระทำความดีส่วนตัว แต่ละเลยหน้าที่ “อัมรุ บิล มะอ์รูฟ วะ นะฮ์ยุ อะนิล มุนกัร” (สั่งใช้ให้ทำความดีและห้ามปรามความชั่ว) ถือว่ามีส่วนร่วมในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยอมให้ความชั่วร้ายแพร่กระจายโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง
  • โทษทัณฑ์ที่ครอบคลุม: เมื่อความวุ่นวาย (ฟิตนะฮ์) หรือความอธรรม (ซุลุม) ขยายตัวจนกลายเป็นภัยพิบัติที่ทำลายล้าง (บะลาอ์) ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะแผ่ขยายไปทั่วทุกคนในสังคม เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ความไม่สงบ หรือความเสียหายทางศีลธรรมของคนรุ่นหลัง ซึ่งไม่ยกเว้นผู้ที่ไม่ได้เป็นคนชั่วโดยตรง
  • การลงโทษที่เข้มงวด: การปิดท้ายอายะห์ด้วย (وَاعْلَمُوا أَنَّ اللَّهَ شَدِيدُ الْعِقَابِ) เป็นการย้ำเตือนถึงความร้ายแรงของการลงโทษจากอัลลอฮ์สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง หรือประมาทในการพิทักษ์ความดีงามของสังคม

บททดสอบ (ฟิตนะฮ์/บะลาอ์) ในยุคสมัยใหม่

ผู้นำศาสนาระบุว่า ฟิตนะฮ์ในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ และสามารถส่งผลกระทบต่อทุกคนในลักษณะที่ครอบคลุมดังตารางนี้:

ประเภทของฟิตนะฮ์ ลักษณะความชั่วร้ายในชุมชน ผลกระทบที่ครอบคลุมถึงทุกคน
สื่อและดิจิทัล การเผยแพร่ข่าวลือ, เนื้อหาลามก, แนวคิดทำลายล้างผ่านโซเชียลมีเดีย ความเสียหายต่อเด็กและเยาวชน, ความแตกแยกในครอบครัว
เศรษฐกิจ การทุจริต, ดอกเบี้ย (ริบา), การโกงการค้าขาย ค่าครองชีพที่สูงขึ้น, ความยากจนที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของทุกคน
การเมืองและความมั่นคง ความอธรรม, การแตกแยกในหมู่ประชาชน สงคราม, ความไม่สงบ, การสูญเสียความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน

แนวทางการป้องกันและปฏิบัติการทางสังคม

ดร.อับดุลเลาะห์ ได้เน้นย้ำว่า การป้องกันความวุ่นวายนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของการทำความดีส่วนบุคคล แต่เป็น “ความดีงามส่วนบุคคลที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบทางสังคม”

  • ปฏิบัติตามหลัก อัมรุ บิล มะอ์รูฟ วะ นะฮ์ยุ อะนิล มุนกัร: ใช้สติปัญญาและความดีงามในการตักเตือนและห้ามปรามความชั่วร้าย โดยทุกคนต้องทำตามความสามารถและตำแหน่งของตน
  • แยกตัวและชำระล้าง: พยายามแยกตัวและครอบครัวออกจากแหล่งของฟิตนะฮ์และแหล่งที่มาของความคลุมเครือ (ชุบฮาต) และตัณหา (ชะฮะวาต)
  • ความสามัคคี: ยึดมั่นในเชือกของอัลลอฮ์ร่วมกันและหลีกเลี่ยงความแตกแยก เพราะความสามัคคีคือเกราะป้องกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

สรุป:
     คำเตือนนี้เป็นเสียงสะท้อนจากผู้นำศาสนาใต้ให้ชุมชนตระหนักว่า ความปลอดภัยและความผาสุกของสังคมไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนของคนดีเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับ พลังของคนดีในการยืนหยัดต่อความจริงและไม่ยอมนิ่งเฉยต่อความเท็จและความอธรรมที่เกิดขึ้นรอบตัว

หมายเหตุ ชมคลิปฉบับเต็มใน
https://www.facebook.com/share/v/1BsPgfQ1pe/?mibextid=wwXIfr

 2,813 total views,  4 views today

You may have missed