ธันวาคม 13, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

บทเรียน “บัณฑิตอาสา” ก้าวสำคัญสู่ “โซ่ข้อกลาง” การพัฒนาที่ยั่งยืนชายแดนใต้

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ทุกท่าน

      บัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ คือ กำลังสำคัญของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ทำหน้าที่เป็น “โซ่ข้อกลาง” หรือสะพานเชื่อมสำคัญระหว่างภาครัฐและประชาชนในระดับชุมชนและหมู่บ้านในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) บุคลากรเหล่านี้เป็นลูกหลานในพื้นที่ที่จบการศึกษาระดับปริญญาและตัดสินใจกลับมาทำงานเพื่อบ้านเกิด

บัณฑิตอาสาคือใคร? และอะไรคือภารกิจ?

บัณฑิตอาสาเหล่านี้เป็นบุคลากรที่เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ มีภารกิจหลักที่หลากหลายและทรงคุณค่า ได้แก่:

  • สะพานเชื่อม: เป็นผู้ประสานหลักและเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน
  • ผู้แทนภาครัฐระดับพื้นที่: นำนโยบายภาครัฐไปสู่การปฏิบัติ และเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่
  • การติดตามและตรวจสอบ: ประสาน ติดตาม และตรวจสอบความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ในชุมชน
  • การจัดเก็บข้อมูล: เก็บข้อมูลที่สำคัญ สภาพปัญหา ความต้องการ และข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่
  • บทบาทสำคัญอื่นๆ: ทำหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์ข้อมูล นักสื่อสารชุมชน และผู้ส่งเสริมความยุติธรรม
  • การประเมินผล: ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามภารกิจในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา จชต.

ความท้าทายในการเป็น “โซ่ข้อกลาง”

     แม้ว่าบัณฑิตอาสาจะเป็นคนในชุมชนและลูกหลานในพื้นที่ แต่การทำหน้าที่เป็น “โซ่ข้อกลาง” ก็มาพร้อมกับความท้าทายสำคัญที่ต้องก้าวข้าม เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง:

ความท้าทาย รายละเอียดและผลกระทบ
เงื่อนไขด้านรายได้และความมั่นคง ข้อจำกัดเรื่องรายได้และสวัสดิการที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้ขาดความมั่นคงในชีวิตและส่งผลต่อขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานระยะยาว
ความเสี่ยงจากสถานการณ์ความไม่สงบ (ไฟใต้) การปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ยังคงมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ทำให้บุคลากรต้องทำงานภายใต้ความกดดันและอันตราย
ความไว้วางใจจากชุมชน (การถูกมองเป็นคนของรัฐ) แม้จะเป็นคนในพื้นที่ แต่การเป็นกลไกของ ศอ.บต. ทำให้บัณฑิตอาสาถูกมองว่า “เป็นคนของรัฐ” ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจและอาจสร้างช่องว่างในการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและความต้องการที่แท้จริงของชุมชน
แรงกดดันในการสื่อสารสองทาง ต้องรับความคาดหวังจากทั้งภาครัฐ (การขับเคลื่อนนโยบาย) และชุมชน (การสะท้อนปัญหา) ซึ่งต้องใช้ทักษะการสื่อสารที่ละเอียดอ่อนสูงมาก

ก้าวข้ามความท้าทาย สู่การเป็น “โซ่ข้อกลางที่เชื่อถือได้”

เพื่อให้บัณฑิตอาสาสามารถบรรลุภารกิจในการเป็นสะพานเชื่อมที่มีประสิทธิภาพและได้รับความไว้วางใจจากชุมชนอย่างแท้จริง การก้าวข้ามความท้าทายจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการสร้างภาพลักษณ์ให้เป็น “บุคลากรที่ทำงานเพื่อชุมชนอย่างแท้จริง” มากกว่า “ตัวแทนของรัฐ”:

  • การยืนหยัดในหลักการ (ความเป็นกลาง):

    • แสดงบทบาทเป็นกลางและเป็นกระบอกเสียงให้กับชุมชนอย่างซื่อสัตย์ เมื่อต้องสื่อสารปัญหาและความต้องการที่แท้จริงไปยังภาครัฐ
    • สร้างความเชื่อมั่นผ่านการทำงานที่เน้นผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักและตรวจสอบได้
  • การพัฒนาคุณภาพเชิงลึก:

    • ใช้ความรู้และทักษะในการ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และ การจัดการปัญหาเฉพาะหน้า ที่เป็นความต้องการหลักของชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
    • จากการเป็นผู้ปฏิบัติงาน (Implementer) สู่การเป็น ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงคุณภาพ (Quality Changer) ตามนโยบายล่าสุดของ ศอ.บต.
  • การจัดการความมั่นคง:

    • ข้อเสนอแนะต่อ ศอ.บต.: พิจารณาเพิ่มความมั่นคงด้านรายได้และสวัสดิการ เพื่อให้บัณฑิตอาสาสามารถทุ่มเทให้กับงานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเลี้ยงชีพในระยะยาว
    • จัดให้มีการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยและการบริหารจัดการความเสี่ยงในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ

บทเรียนอดีต สู่การวางแผนอนาคต: เพิ่มประสิทธิภาพบัณฑิตอาสาฯ

     เมื่อเร็วๆ นี้ (18 พฤศจิกายน 2568) ศอ.บต. ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการมอบนโยบายและขับเคลื่อนการดำเนินงานบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ โดย นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของบัณฑิตอาสาว่า เป็น “กำลังสำคัญ” ที่ทำงานเพื่อสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ และมอบนโยบายที่มุ่งเน้นการพัฒนาในเชิงคุณภาพ:

“บัณฑิตอาสาเป็นกำลังสำคัญของ ศอ.บต. …แม้เงินเดือนไม่มาก ไม่ได้หมายความว่าเราทำงานไม่ได้ อยากให้พัฒนาการทำงานมากขึ้นในเชิงคุณภาพ เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหา ยกระดับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ร่วมกับรัฐ”

     การมอบนโยบายนี้เป็น ก้าวสำคัญ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับบทบาทของบัณฑิตอาสาฯ ในอนาคต ให้เน้นการทำงานเชิงรุกและการมีส่วนร่วมกับประชาชนมากขึ้น โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

     บทบาทของบัณฑิตอาสาในฐานะ “โซ่ข้อกลาง” นี้ คือหัวใจสำคัญของการพัฒนา เพราะพวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกในพื้นที่ และนำความต้องการที่แท้จริงของประชาชนไปสู่การวางแผนและปฏิบัติของภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาคุณภาพการทำงานตามนโยบายใหม่นี้ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ จชต. ก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

 28,968 total views,  2 views today