ธันวาคม 7, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ทุนดำยึดรัฐ โครงการร้าง และความขัดแย้งในแนวหน้า: วิกฤตศรัทธาและการเมืองชายแดนใต้

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูร บินชาฟิอียฺ (อับดุลสุโก ดินอะ)

     บทความนี้วิเคราะห์ถึงการยกระดับของปัญหาคอร์รัปชันในพื้นที่ชายแดนใต้ จากการใช้เงินสกปรกทางการเมืองไปจนถึงการทุจริตในโครงการพัฒนาและงบประมาณความมั่นคง ซึ่งกำลังกัดกร่อนทั้งเศรษฐกิจ ศีลธรรม และความเชื่อมั่นของสังคมมุสลิมและเจ้าหน้าที่แนวหน้า


การกลายพันธุ์ของอิทธิพล: จาก “ฮาดิยะห์” สู่ “State Capture”

     การเมืองในชายแดนใต้ยืนอยู่บนทางแยกที่อันตราย เมื่อแนวโน้มการใช้อำนาจเงินพัฒนาสู่ขั้นที่เรียกว่า “คอร์รัปชันขั้นที่สี่” หรือ “State Capture” (การยึดรัฐ) ดังที่ พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ ได้วิเคราะห์ไว้

     เดิมที การซื้อเสียงหรือการสร้างอิทธิพลอาจใช้ “เงินสะอาด” หรือ “เงินเทาๆ” ที่พยายามฟอกตัวเองผ่านการอ้างหลักการบริจาคตามศาสนา (ฮาดิยะห์) แต่ในบริบทปัจจุบัน “เงินดำ” ที่มีต้นตอจาก อาชญากรรมข้ามชาติ และ โลกาภิวัตน์กลับด้าน กำลังเข้ามามีบทบาท นี่คือเงินที่สกปรกตั้งแต่แรก และเป้าหมายหลักคือการ “ฟอกขาว” ผ่านการยึดอำนาจรัฐเพื่อสร้าง “โครงการเทาๆ” ให้สามารถปั่นและใช้เงินรัฐได้อย่างอิสระ

บทสะท้อนต่อสังคมมุสลิม:
     การที่เงินที่มาจากแหล่งมืดพยายามแทรกซึมผ่านการเมืองที่ผูกโยงกับศาสนา เป็นการทำลายความบริสุทธิ์ของศรัทธา และใช้หลักการศาสนาเป็นเครื่องมือในการทุจริต ภาระการตักเตือนแรงๆ ตามหลัก “الدين النصيحة” (ศาสนาคือการตักเตือน) จึงตกอยู่กับผู้นำศาสนาและประชาชนที่ต้องกล้าปฏิเสธเงินและอิทธิพลสกปรกเหล่านี้ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงต่อ ความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ที่ทำให้คนในพื้นที่อ่อนไหวต่อการถูกใช้เป็น นอมินี หรือ สะพานฟอกเงิน


โครงการร้างหลายร้อยล้าน: หลักฐานความล้มเหลวเชิงระบบ

     เสียงเปิดโปงคอร์รัปชันโครงการต่างๆ โดยภาคประชาชน (เช่น ทีมงาน ไอซ์ และ @รัชนก ศรีนอก) ทำให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ ซึ่งเงินงบประมาณหลายร้อยล้านบาทกลายเป็น โครงการร้าง ที่ไม่สามารถใช้งานได้จริง

โครงการทุจริตและทอดทิ้ง งบประมาณรวม จุดเสียหายสำคัญ
สนามกีฬา จ.นราธิวาส (181 ล้านบาท) ผ่านมา 13 ปี ไม่เสร็จ (ฉายา “สนามกีฬาร้อยปี”) ใช้ MOU แทนสัญญา (ผิดกฎหมาย), พบ “แรงงานผี” (กว่า 200 ราย), เบิกค่าดินถมเกินจริง (ส่วนต่าง 5 ล.), แบบไม่เหมาะกับพื้นที่, โครงสร้างทรุดโทรม
สนามกีฬาปัตตานี (75 ล้านบาท) ลงนาม 2562 ปัจจุบันยังไม่เสร็จ ปรับแบบถึง 3 รอบ, งบไม่สัมพันธ์กับแผนเดิม
ศูนย์/โรงงาน OTOP ฮาลาล ปัตตานี (กว่า 196 ล้านบาท) สร้างเสร็จแต่ถูกทิ้งร้าง (รวมศูนย์ฯ 33 ล. และโรงงานฯ 163.4 ล.) ขาดการวางแผนระยะยาว และการบริหารจัดการที่ยั่งยืน

       กรณีสนามกีฬา นราธิวาส คือบทเรียนสำคัญของ การทำลายกลไกตรวจสอบ โดยการใช้ MOU แทน พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ ซึ่งนำไปสู่การทุจริตอย่างเป็นระบบ ทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณจนหมดแต่โครงการไม่เสร็จ และการนำเงินไปใช้ผิดประเภท


คอร์รัปชันในแนวหน้า: “กองทัพไม่ขาดแคลน” กับความจริงที่บาดใจ

ปัญหาความไม่โปร่งใสไม่ได้จำกัดอยู่แค่โครงการพัฒนา แต่ขยายไปยังงบประมาณความมั่นคงในภารกิจ “ไฟใต้” ตลอด 20 ปี ภายใต้ กอ.รมน.ภาค 4 สน.

คำยืนยันของกองทัพว่า “ไม่ขาดแคลน” ยุทโธปกรณ์ กลับสวนทางกับเสียงสะท้อนจากแนวหน้า ที่ถูกเปิดเผยผ่านการบริจาคของภาคประชาชน

  • ยุทโธปกรณ์หมดอายุ: กำลังพลต้องเสี่ยงชีวิตจากเสื้อเกราะ/หมวกกันกระสุนที่เสื่อมสภาพ/หมดอายุเกิน 5 ปี
  • การรักษาภาพลักษณ์: กำลังพลต้องควักเงินซื้ออุปกรณ์ความปลอดภัยเอง ในขณะที่ผู้ใหญ่ให้ความสำคัญกับการ “รักษาภาพลักษณ์ของกองทัพมากกว่ารักษาความปลอดภัยของกำลังพล”
  • การทุจริตเงินเดือน/สวัสดิการ: มีข้อครหาเรื่องการเบียดบัง/ล่าช้าในการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ เช่น เงิน พชค. (เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว) ที่ล่าช้าถึง 18 เดือน และปัญหา “กำลังพลผีมีชื่อ” ในบัญชีรับเงินเดือน

ซึ่งเรื่องทั้งหมด หน่วยความมั่นคงก็ปฏิเสธผ่านสื่อตลอดมาใน
https://www.facebook.com/share/1AHYMEf4Bn/?mibextid=wwXIfr

(อ้างอิงและอ่านเพิ่มเติมใน)
https://www.matichon.co.th/weekly/column/article_603422
https://www.facebook.com/share/16e5zFpN23/?mibextid=wwXIfr


จุดอ่อนของกลไกยุติธรรม: การลดหย่อนโทษที่น่ากังขา

     วิกฤตศรัทธาถูกตอกย้ำด้วยกรณีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีเว็บพนัน (สส.ชื่อดังทางสื่อกำลังจับตา ซึ่งภายใต้พรรคที่มีแกนนำที่สังคมไม่เคยไว้วางใจทุกรัฐบาล) ที่แม้จเรตำรวจฯ จะชี้ว่าคณะพนักงานสอบสวนบกพร่อง และมีมูลความผิดวินัย แต่ ผบก.สงขลา กลับมีคำสั่ง “ยุติเรื่อง” และลงโทษเพียง “ว่ากล่าวตักเตือน/ภาคทัณฑ์” โดยอ้างเหตุผลลดหย่อนโทษ

     การตัดสินใจที่สวนทางกับผลการตรวจสอบจากหน่วยงานกลางนี้ แสดงให้เห็นถึง ความอ่อนแอของระบบการตรวจสอบภายใน และการใช้ดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการนำผู้กระทำผิดมาลงโทษอย่างจริงจัง และเปิดช่องให้ ทุนดำ สามารถอยู่รอดได้ในกระบวนการยุติธรรม


สรุป: การกอบกู้อนาคตด้วยความโปร่งใส

ชายแดนใต้กำลังเผชิญกับภัยคุกคามสามด้านพร้อมกัน คือ เงินดำทางการเมือง, การทุจริตงบประมาณพัฒนา (โครงการร้าง), และ การทุจริตงบประมาณความมั่นคง (เงินสวัสดิการทหาร) ความกล้าหาญของประชาชนและผู้เปิดโปง (เช่น ไอซ์) คือสัญญาณสำคัญที่เรียกร้องให้รัฐบาลต้อง:

  • บังคับใช้กฎหมายฟอกเงินอย่างจริงจัง: เพื่อตัดวงจรเงินดำที่เข้ามาสู่การเมืองและเศรษฐกิจ
  •  ปฏิรูปการจัดซื้อจัดจ้าง: ยกเลิกช่องโหว่ทางกฎหมาย เช่น การใช้ MOU แทนสัญญา และนำผู้รับผิดชอบโครงการร้างมาลงโทษ
  •  สร้างความโปร่งใสในงบประมาณความมั่นคง: ตรวจสอบการบริหารจัดการทรัพยากรของ กอ.รมน. อย่างเข้มงวด เพื่อให้กำลังพลแนวหน้าได้รับสวัสดิการและยุทโธปกรณ์ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง

 14,024 total views,  4 views today

You may have missed