มุสลิมไทยกับกฎหมาย LGBTQ ที่ประกาศใช้: การถ่วงดุลระหว่างสิทธิพลเมืองและการธำรงชารีอะฮ์

โดย อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่าน และสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

     เมื่อ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ LGBTQ+ โดยเฉพาะกฎหมายที่ให้การรับรองสถานะการสมรสที่เท่าเทียม ได้รับการประกาศใช้อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ถือเป็นการนำประชาคมมุสลิมซึ่งเป็น ชนกลุ่มน้อยทางศาสนา เข้าสู่มิติใหม่ของความท้าทายในทางปฏิบัติและกฎหมาย

     นี่คือการทดสอบครั้งสำคัญในการประยุกต์ใช้ หลักนิติศาสตร์เฉพาะกิจ (Fiqh al-Aqalliyyat) เพื่อธำรงไว้ซึ่งหลักการศาสนา ในขณะเดียวกันก็ต้องอยู่ร่วมกับสภาพแวดล้อมทางกฎหมายและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป

1. ความมั่นคงทางศาสนา: การแยกสถานะทางกฎหมายและการปฏิบัติการศาสนกิจ

     หลักการของอิสลามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเพศยังคง มั่นคงโดยไม่เปลี่ยนแปลง — การสมรสที่ถูกต้องตามหลักชารีอะฮ์จะต้องเกิดขึ้นระหว่างชายและหญิงเท่านั้น การกระทำทางเพศแบบรักร่วมเพศ (ลิวาฏ/สิฮาก) ยังคงเป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม) ตามหลักฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์อย่างชัดเจน

• คำจำกัดความของการสมรส: สำหรับมุสลิมไทย การสมรสที่ถูกกฎหมาย (ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์) ไม่เท่ากับการสมรสที่ถูกต้องตามหลักศาสนา การที่รัฐไทยรับรองการสมรสของเพศเดียวกันจึงไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ ความถูกต้องทางศาสนา (หุกม์ ชัรอี) ของการสมรสอิสลาม (นิกะห์) เพราะมุสลิมยังคงใช้ พระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล และหลักศาสนาในการดำเนินการสมรสและการจัดการมรดก ซึ่งจะต้องเป็นไปตามชารีอะฮ์เท่านั้น

• ผลทางปฏิบัติ: ผู้นำศาสนาหรืออิหม่ามในมัสยิดจะ ปฏิเสธ ที่จะดำเนินการประกอบพิธี นิกะห์ ให้กับการสมรสของคนเพศเดียวกัน เนื่องจากขัดต่อบัญญัติอิสลามอย่างสิ้นเชิง

2. กลยุทธ์ทางกฎหมายและการใช้สิทธิพิเศษทางศาสนา

     การประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวทำให้มุสลิมไทยต้องใช้สิทธิที่กฎหมายมอบให้เพื่อปกป้องเอกลักษณ์ทางศาสนา (อัตลักษณ์) ของตนเองและลูกหลาน

• การเรียกร้องข้อยกเว้น: ในบริบทของการเป็นชนกลุ่มน้อย ชาวมุสลิมสามารถใช้สิทธิพลเมืองในการ เรียกร้องให้มีการยกเว้น (Exemption) หรือการรับรอง กฎหมายสถานะบุคคล (Personal Status Law) ของตนเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการธำรงรักษาสิทธิในการประกอบพิธีกรรมตามรัฐธรรมนูญ การแต่งงานของคนเพศเดียวกันจะไม่ถูกบันทึกในทะเบียนการสมรสอิสลาม และจะไม่มีผลทางมรดกหรือสถานะครอบครัวตามหลักชารีอะฮ์ในพื้นที่ที่ใช้กฎหมายอิสลาม

• การมีส่วนร่วมทางการเมือง: ชาวมุสลิมได้รับอนุญาตให้มีการ มีส่วนร่วมเชิงบวก ในการเมือง (ตามหลักฟิกฮ์สำหรับชนกลุ่มน้อย) เพื่อ แสวงหาผลประโยชน์ (ญัลบ์ มัศละหะฮ์) และ ป้องกันความเสียหาย (ดัรอุ มะฟสะดะฮ์) โดยอาจผลักดันให้เกิดนโยบายที่สนับสนุนการศึกษาศาสนาเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในหลักการอิสลามที่ถูกต้อง หรือการเรียกร้องให้องค์กรของรัฐ เช่น คณะกรรมการอิสลาม มีบทบาทที่ชัดเจนในการปกป้องสิทธิในการใช้กฎหมายอิสลามในเรื่องครอบครัวและมรดก

3. ท่าทีต่อบุคคลในประชาคมมุสลิม: ความเมตตาและการโอบอุ้ม

     การมีอยู่ของกฎหมายที่รับรองสิทธิ LGBTQ+ อย่างกว้างขวางในสังคมไทย อาจทำให้มีบุคคลในประชาคมมุสลิมที่อาจเปิดเผยรสนิยมทางเพศของตนมากขึ้น ท่าทีของประชาคมมุสลิมจะต้องถ่วงดุลระหว่างความมั่นคงในหลักการศาสนาและความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์

• ไม่กีดกัน (Non-Discrimination) ในระดับบุคคล: ประชาคมมุสลิมต้องปฏิบัติต่อ บุคคล ที่เผชิญกับรสนิยมทางเพศที่ไม่สอดคล้องกับอิสลามด้วย ความเมตตาและสติปัญญา ตามคำสอนของท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) โดย ไม่ทำการคุกคามหรือกีดกัน พวกเขาออกจากสังคมมุสลิม ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ละทิ้งศาสนา

• การศึกษาและเตาบะฮ์ (การสำนึกผิด): เน้นย้ำว่า ประตูแห่งการสำนึกผิดและการกลับใจยังคงเปิดกว้างเสมอ สถาบันการศึกษาและครอบครัวมุสลิมควรให้ความรู้ทางศาสนาที่เข้มแข็งเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และให้การสนับสนุนด้านจิตวิญญาณเพื่อช่วยให้บุคคลเหล่านั้น โอบอุ้มตัวเองกลับคืนสู่แนวทางของอิสลาม (ฟิฏเราะฮ์)

บทสรุป: การอยู่ร่วมกันอย่างมีหลักการ

     กฎหมาย LGBTQ+ ที่ประกาศใช้ในประเทศไทย คือความเป็นจริงที่มุสลิมไทยในฐานะชนกลุ่มน้อยต้องเผชิญ การรับมือคือการเดินบนทางสายกลาง — ยึดมั่นในหลักการของชารีอะฮ์ ว่าการสมรสที่ถูกต้องมีเพียงรูปแบบเดียวระหว่างชายและหญิง และ ใช้สิทธิพลเมือง ตามกฎหมายไทยเพื่อปกป้องสิทธิพิเศษทางศาสนาของตน (Personal Status Law) ในขณะเดียวกันก็ แสดงความเมตตาและสติปัญญา ในการปฏิบัติต่อบุคคลทุกคนในสังคมมุสลิม โดยไม่ประนีประนอมกับหลักการที่มั่นคงของอิสลาม

หมายเหตุสรุปจาก

1. ทำไมมุสลิมค้าน LGBTQ — อ่านเพิ่มเติมใน
   https://www.matichon.co.th/weekly/column/article_568855

2. การปะทะสังสรรค์: มุมมองมุสลิมไทยต่อความหลากหลายทางเพศในยุคโลกาภิวัตน์ — ถอดรหัสงานวิจัย ดร.จิระโรจน์ มะหมัดกุล
   https://share.csitereport.com/share2024.php?post_id=51964

 3,753 total views,  2 views today