
กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 นายรอมฎอน ปัญจอ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคประชาชน เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) คุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งได้หยิบยกกรณี “ลอยแพฮุจญาต (ผู้แสวงบุญ)” เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์มาพิจารณา โดยพบว่าการบริหารจัดการกิจการอุมเราะห์ในประเทศไทยมี “ช่องว่างมากมาย” ที่เอื้อต่อการหลอกลวงและแสวงหาผลประโยชน์จากผู้แสวงบุญ
ผู้เสียหายโดน “เท” ซ้ำซ้อน: ทั้งอุมเราะห์และสุ่มเสี่ยงฮัจญ์
นายรอมฎอนเปิดเผยข้อมูลล่าสุดจากตัวแทนผู้เสียหายว่า กรณีที่ บริษัทรุส ฮัจย์ แอนด์ ทราเวล ลอยแพผู้แสวงบุญเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหายรวม 110 คน โดยมี 18 คน ที่ต้อง “ไปตายเอาดาบหน้า” จัดการเดินทางไปมักกะห์ด้วยตนเอง พร้อมควักเงินเพิ่ม และยังมีเงินบาทจำนวนมากที่ฝากไว้เพื่อแลกเงินซาอุดีอารเบียที่ยังไม่ได้รับคืน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่ามีผู้เสียหาย 21 คน ที่ซื้อแพกเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ในปีหน้ากับบริษัทเดียวกัน แต่รายชื่อส่วนใหญ่ “ยังไม่ปรากฏว่าได้จ่ายเงินประกันสัญญาในระบบของกรมการปกครอง” ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายว่าผู้เสียหายกลุ่มนี้อาจถูก “เทฮัจญ์” ซ้ำอีกด้วย
สถานะบริษัท: กรมการปกครองยืนยันว่า บริษัทรุส ฮัจย์ แอนด์ ทราเวล ไม่ปรากฏรายชื่ออยู่ในบัญชีผู้ประกอบการฮัจญ์ที่ได้รับการรับรองโดยคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์ฯ 104 ราย ที่ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้

กลไกเยียวยาติดขัด – การกำกับดูแล “หละหลวม”
- คดีความ: ผู้เสียหายจำนวนหนึ่งเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองปัตตานี ในข้อหาฉ้อโกง ขณะที่กรมการท่องเที่ยวได้แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทฯ ในการดำเนินการที่ขัดต่อกฎหมายธุรกิจนำเที่ยว (ดีเอสไอยังไม่รับเป็นคดีพิเศษ)
- ข้อจำกัดการเยียวยา: การใช้เงินจากกองทุนธุรกิจท่องเที่ยวฯ เพื่อเยียวยาผู้เสียหายนั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากระเบียบมีการวางกรอบไว้อย่างแน่นหนา ที่ประชุมจึงมีข้อเสนอให้ฝ่ายบริหารเร่งปรับปรุงระเบียบดังกล่าวในระยะสั้น
ทางออกระยะสั้น-ยาว: รื้อระบบกำกับดูแล
ปัญหาพื้นฐานเกิดจากการที่ “อุมเราะห์” (เป็นการแสวงบุญตลอดทั้งปี ยกเว้นช่วงฮัจญ์) ถูกมองต่างจากฮัจญ์และยังไม่ถูกกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ทำให้มีการอาศัย “แซะห์” หรือผู้จัดนำทาง ที่ผู้แสวงบุญเชื่อใจ ซึ่งเปิดช่องให้เกิดการหลอกลวงได้ง่าย
ข้อเสนอเพื่อแก้ไขปัญหา:
- การตรวจสอบความน่าเชื่อถือ: ผู้แสวงบุญต้องตรวจสอบทั้งการจดทะเบียนกับกรมการปกครอง (กรณีฮัจญ์) และกรมการท่องเที่ยว (กรณีอุมเราะห์) รวมถึงต้องมั่นใจว่าบริษัทได้ส่งรายงานงบการเงินครบถ้วน
- ปรับโครงสร้างระยะยาว: เนื่องจากไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย มีข้อเสนอให้มีการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการและกำกับดูแลธุรกิจอุมเราะห์ไปพร้อมกับกิจการฮัจญ์อย่างจริงจัง
- แก้กฎหมายฮัจญ์: ในระยะยาวต้องมีการแก้ไขกฎหมายฮัจญ์ให้ครอบคลุมการบริหารจัดการทั้งฮัจญ์และอุมเราะห์ หรือยกร่างกฎหมายใหม่ เพื่อปิดจุดอ่อนที่หน่วยงานรัฐมีข้อจำกัดในการดูแลให้ผู้แสวงบุญได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรมและโปร่งใส
นายรอมฎอนทิ้งท้ายว่า “คงต้องปิดจุดอ่อนตรงนี้ ก่อนที่จะก่อให้เกิดวิกฤตศรัทธามากไปกว่านี้” โดยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเพื่อสร้างหลักประกันให้กับผู้แสวงบุญทุกคน
5,293 total views, 2 views today

More Stories
เงินเยียวยาศพ (มุสลิม) 2 ล้านบาท แนะ สำนักจุฬาราชมนตรีเร่งออกฟัตวาเป็นลายลักษณ์อักษร
มหาอุทกภัยจะนะรอบ 100 ปี “กระทบกับคนทั้งอำเภอ”: บทเรียนราคาแพงจาก “พื้นที่รับน้ำ” ที่ถูกถมทิ้ง พร้อมบทสะท้อนทำไม คนจะนะจึงคัดค้านโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐตลอด
มหาอุทกภัยจะนะ รอบ 100 ปี ความช่วยเหลือยังไปไม่ถึงหลายชุมชนที่รอคอย สะท้อนวิกฤต ในการบริหารของผู้นำ