โดย… อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
ที่ปรึกษาสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้

การปฏิบัติการกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าและอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ในจังหวัดนราธิวาสเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ภายใต้นโยบาย “NO Drugs NO Dealers” ของรัฐบาล ไม่ได้เป็นเพียงการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ศุลกากร หรือการควบคุมอาวุธปืนเท่านั้น แต่เป็นสัญญาณเตือนภัยอันตรายขั้นวิกฤต ที่กำลังคุกคามสุขภาพ อนาคตของเยาวชน และซ้ำเติมวิกฤตความมั่นคงทางสังคมและศรัทธาในพื้นที่ชายแดนใต้
การจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้าและหัวพอตจำนวนกว่า 800 ชิ้น ตอกย้ำถึงการแพร่ระบาดของสินค้าผิดกฎหมายที่เชื่อมโยงกับธุรกิจมืด ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการเรียกร้องไปยังผู้ค้าให้เห็นแก่ชีวิตลูกหลานมากกว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจ
ภัยคุกคามต่อสุขภาพที่ทำลายอนาคตเด็กนักเรียน
แม้ผู้ค้าจะโฆษณาว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็น “ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า” แต่ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ทั่วโลกยืนยันตรงกันว่า บุหรี่ไฟฟ้าคือ อันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่สุด:
-
สารนิโคตินทำลายพัฒนาการของสมอง: ของเหลว (e-liquid) ส่วนใหญ่มี นิโคติน ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารเสพติดร้ายแรงที่ ทำลายการเจริญเติบโตของสมอง ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ สมาธิ และความจำ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง นำไปสู่ปัญหา สมาธิสั้นลง ความจำและการตัดสินใจแย่ลง ส่งผลโดยตรงต่อการเรียนไม่จบ และการทำลายอนาคต
-
ทำลายระบบทางเดินหายใจและปอด: การสูบไอที่มีสารเคมีเป็นพิษ เช่น โพรพิลีนไกลคอล และสารแต่งกลิ่นรส ทำให้เกิดอนุภาคละเอียดที่เข้าสู่ส่วนลึกของปอดได้ง่ายกว่าบุหรี่ธรรมดา เพิ่มความเสี่ยงของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และนำไปสู่ภาวะ ปอดพัง หรือ โรคปอดอักเสบรุนแรง (EVALI) ซึ่งมีการรายงานผู้ป่วยเด็กไทยทยอยป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ
-
เพิ่มความชุกในนักเรียนหญิง: บุหรี่ไฟฟ้าได้กลายเป็นภัยร้ายตัวใหม่ที่ดึงดูด นักเรียนหญิง ที่ไม่เคยสูบบุหรี่มวนมาก่อนให้เข้าสู่วงจรการเสพติด ทำให้สัดส่วนของผู้สูบในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง
ผิดต่อกฎหมายไทยอย่างชัดเจน
การนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นการละเมิด คำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ว่าด้วยการห้ามขายหรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้าโดยเด็ดขาด ดังนั้น การกระทำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ จึงเป็นกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอย่างแท้จริง
ขัดต่อหลักการอิสลาม (หะรอม)
สถาบันศาสนาและนักวิชาการอิสลามส่วนใหญ่ออกคำวินิจฉัย (ฟัตวา) ว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็น สิ่งต้องห้าม (หะรอม) สถานะเดียวกับบุหรี่ธรรมดา เพราะ:
- ทำลายสุขภาพ: ขัดต่อหลักการสำคัญของอิสลามที่ ห้ามทำความเสียหายแก่ตนเองหรือผู้อื่น (لا ضرر ولا ضرار) และการดูแลรักษาชีวิตและสุขภาพ
- สิ้นเปลืองเงินทอง: การใช้จ่ายในสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตรายและไร้ประโยชน์ถือเป็น การฟุ่มเฟือย และการใช้ทรัพย์สินในทางที่ไม่ชอบธรรม
ผลกรรมจากการบริโภคทรัพย์สินหะรอม (โดยมิชอบ)
ศาสนาอิสลามถือว่าการบริโภคทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบ (หะรอม) เป็นบาปใหญ่ที่มีผลร้ายแรง:
- ผลกรรมในโลกนี้: การถอนความจำเริญ (บะเราะกะฮฺ) ออกจากชีวิต เป็นอุปสรรคต่อการตอบรับ การวิงวอน (ดุอาอ์) และการงานเคารพภักดี (อิบาดะฮฺ) ทำให้หัวใจแข็งกระด้าง และอาจนำไปสู่ความทุกข์ยากในชีวิต
- ผลกรรมในโลกหน้า: มีการเตือนอย่างรุนแรงว่า “แท้จริงเนื้อใดที่งอกเงยมาจากสิ่งที่ได้มาโดยมิชอบ… ไฟนรกย่อมคู่ควรกับมันยิ่งกว่า” และอาจถูกกีดกันหรือล่าช้าในการเข้าสวรรค์
แนวทางการเตาบะฮ์ (สำนึกผิด) สำหรับผู้ค้าบุหรี่
ผู้ค้าบุหรี่ไฟฟ้าที่ต้องการกลับเนื้อกลับตัว (เตาบะฮ์) จำเป็นต้องดำเนินการตามเงื่อนไขของการสำนึกผิดอย่างบริสุทธิ์ (เตาบะฮ์นะศูฮ์):
- เลิกกระทำบาปทันที: ยุติการขายและค้าขายบุหรี่ไฟฟ้าโดยเด็ดขาด
- ความเสียใจ: รู้สึกเสียใจอย่างแท้จริงต่อการกระทำที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและทรัพย์สินของผู้อื่น
- ตั้งใจว่าจะไม่หวนกลับไปทำอีก: ตั้งเจตนาที่บริสุทธิ์และแน่วแน่ว่าจะไม่กลับไปขายสิ่งต้องห้ามอีก
- กำจัดทรัพย์สินที่หะรอม: ต้องนำกำไรทั้งหมดที่ได้จากการขายบุหรี่ไฟฟ้าไป บริจาคหรือใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและกิจการสาธารณะของมุสลิม (เช่น การช่วยเหลือคนยากจน) โดยไม่ถือเป็นการทำทานเพื่อรับผลบุญ แต่เป็นการกำจัดทรัพย์สินที่ไม่ดี
อ้อนวอน: โปรดหยุดทำลายลูกหลานในพื้นที่
ขอเรียกร้องไปยังพ่อค้า แม่ค้า และผู้ลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่: การกระทำของท่านกำลัง ทำลายลูกหลาน ซึ่งเป็นอนาคตของชุมชน และ ทำลายศาสนาและศีลธรรม ของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ การนำสิ่งต้องห้าม (หะรอม) มาจำหน่ายในชุมชนมุสลิมคือการ ทำลายศรัทธา ของตนเองและผู้อื่น
ความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยจะเกิดขึ้นได้เมื่อทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ ร่วมมือกัน และ แจ้งเบาะแส การกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อปกป้องลูกหลานของเราจากภัยร้ายนี้ให้สอดคล้องกับมาตรการ Zero Drugs Zero Dealers และ Zero Vaping ของรัฐบาล
หมายเหตุ: หากท่านมีเบาะแส โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 191 ตลอด 24 ชั่วโมง
68,542 total views, 2 views today

More Stories
จุฬาราชมนตรี-กอ.อิสลามฯ เปิดแบบสำรวจข้อมูลศพผู้สูญหายมุสลิม อำนวยความสะดวกจัดการ “มัยยิต” เหยื่ออุทกภัยภาคใต้ปี 2568
เงินเยียวยาศพ (มุสลิม) 2 ล้านบาท แนะ สำนักจุฬาราชมนตรีเร่งออกฟัตวาเป็นลายลักษณ์อักษร
มหาอุทกภัยจะนะรอบ 100 ปี “กระทบกับคนทั้งอำเภอ”: บทเรียนราคาแพงจาก “พื้นที่รับน้ำ” ที่ถูกถมทิ้ง พร้อมบทสะท้อนทำไม คนจะนะจึงคัดค้านโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐตลอด