มหาเดร์สอบตกในขณะอันวาร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียกับวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งมาเลเซีย รวมทั้งความท้าทาย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บิน ชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)เรียบเรียง

#การเลือกตั้งทั่วไปมาเลเซียเมื่อวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ที่ผลออกมาแบบไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมากครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในขณะเดียวตุนมหาเดร์ก็มาสิ้นลายตอนแก่แพ้การเลือกตั้งขาดลอย รวมทั้งบิ๊กแนมอีกหลายคน ในทางกลับกัน‘อันวาร์ อิบรอฮีม’ จากพรรคยุติธรรมประชาชน (PKR) หรือ พันธมิตรในนาม(PH)เป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนที่10 แต่ต้องใช้เวลาถึง 5 วัน

วิเคราะห์ ผลการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์มาเลเซีย :อะไรคือสาเหตุ ?

คณะกรรมการการเลือกตั้งมาเลเซีย(https://youtu.be/ZacIvwvGomo)
เปิดเผยผลการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นเมื่อ(19 พ.ย.) ว่าพรรคPakatan Harapan (PH)หรือกลุ่มพันธมิตรแห่งความหวังของนายอันวาร์ อิบรอฮีม สามารถกวาดที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรไปได้ 82 ที่นั่ง ขณะที่พรรคพันธมิตรแห่งชาติ หรือ กลุ่มเปอริกาตันเนชั่นแนล PN ของนายมูห์ยิดดิน ยัสซินชนะ 73 ที่นั่ง ตามมาด้วยพรรคร่วมบาริซาน เนชันแนล BN ของรักษาการนายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซอบรี ยะอ์กูบได้คะแนนเสียงเพียง 30 ที่นั่ง จากทั้งหมด 220 ที่นั่ง ในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ จากผลการเลือกตั้งครั้งนี้ที่ไม่สามารถหาผู้ชนะกุมเสียงข้างมากเกิน 111 เสียงในสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซียได้ จำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมเพื่อแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ทั้งนายอันวาร์และนายมูห์ยิดดินต่างอ้างว่ายินดีจับมือกับทุกพรรคเพื่อประชาชน แต่ท้ายสุด อันวาร ก็เข้าวิน

อาจารย์รุสนันท์ เจ๊ะโซ๊ะ จากมหาวิยาลัยมาลายาได้วิเคราะห์ชัยชนะของ PN ที่มากกว่าที่คาดแต่ยังเป็นที่สองตามหลัง PH – ในนั้นคือชัยชนะของปาสด้วยเป็นหลักใหญ่ ว่ามาจากอะไร

1) มาจากสึนามิมลายู ครั้งนี้คนมลายูไม่เอาอัมโน (UMNO)เพราะเบื่อในความอื้อฉาวของข่าวคอรัปชั่น การชูคนที่มีคดีมานำพรรค และมลายูก็ไม่เลือก PH เพราะมีดีเอพี DAP ก็เทมาทางเลือกที่สามคือ PN ซึ่งจะว่าไปก็เป็นฐานเสียงเดียวกันกับอัมโน

2) คะแนนของ PH ได้จากฐานเดิม แต่สูญเสียคะแนนจากมลายู คนรุ่นใหม่ 18 ปีขึ้นไปก็มาเลือกตั้งน้อยกว่าที่คาด พรรคของซาดิค ได้แค่คนเดียวคือซาดิค

3) พรรคที่แพ้สุดคืออัมโน ได้มา 26 ที่นั่ง หนักสุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน และคนดังๆ ของพรรคหลายคนก็แพ้เลือกตั้งครั้งนี้ด้วย เช่น กูลี ไครี่ กูอัดนาน

4) ข้อสังเกต : ชัยชนะของปาสได้มา 49 ที่นั่ง มากกว่าทุกพรรค ได้ชนะขาดในกลันตัน ตรังฆานู รุกคืบมายังมะละกาได้ ปีนังด้วย ส่วนเกอดะห์ปาสเคยชนะรัฐนี้มาก่อน ครั้งนี้กลับมาชนะอีกครั้ง ส่วนที่โจโฮร์เกือบเอาชนะซัยยิด ซาดิค ได้คะแนนห่างกันแค่พันสามกว่าคะแนนเอง ปาสใช้กลยุทธ์แบ่งกันลงกับเบอร์ซาตู และลงในนาม PN รัฐอื่น ๆ นอกจากกลันตัน ตรังฆานู ใช้ธง PN และมีการส่งคนใหม่ๆ ลงเลือกตั้ง คนอายุน้อยๆ และมีผู้หญิงด้วยหลายคน ที่ปีนัง เขต kepala batas ชนะเป็นผู้หญิงด้วย

ทำไมปาสได้ที่นั่งมากสุดในครั้งนี้ ก็กลับไปดูข้อที่ 1

5) มาดูระดับตัวบุคคลอันวาร์ชนะนำห่างที่สองหมื่นกว่าคะแนน มุห์ยิดดินนำโด่งคู่แข่งถึงสองหมื่นกว่า และบาบออับดุลฮาดี ขาดลอยมากห่างคู่แข่งถึง 40000 กว่าคะแนน ซาฮิด ซามีดีเกือบแพ้ ชนะไม่มาก

6) ไม่มีพรรคไหนชนะขาด ยากต่อการก่อตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ถ้ามองในแนวคิดทางการเมืองจะมีสองขั้วคือคอนเซอเวอร์ทีฟกับก้าวหน้า เลือกตั้งครั้งนี้ทั้ง 2 แนวคิดสูสีกัน แต่ถ้าเจาะไปที่ระดับพรรคฝ่ายคอนเซอเวอร์ทีฟชนะมากกว่า (PN=73+BN=30รวม103 ในขณะที่ PH หัวก้าวหน้าได้82)

#สาเหตุมหาเดรสิ้นลายตอนแก่แพ้เลือกตั้ง
สำหรับคนลังกาวีแล้วมหาเดรคือรัฐบุรุษยังจดจำสิ่งที่ทำให้ประเทศให้เสมอแต่ด้วยอายุที่ท่านมากเกินไปนั้นมิใช่ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่(น่าจะ)อยากให้ท่านได้พักผ่อน ให้คนอื่นทำบ้าง ดังคลิปดังหลังจากท่านประกาศลงศึกเลือกตั้งอีกครั้ง
“ท่านเสียตำแหน่ง นับว่าเป็นการพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกในรอบ 53 ปี ด้วยวัย 97 ปี หลังครองอำนาจทางการเมืองของมาเลเซียมาเป็นเวลาหลายสิบปี โดยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 ถึง พ.ศ. 2546 และได้รับยกย่องว่าประเทศมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1980”

#ความท้าทาย อันวาร อิบรอฮีม

จากการที่ ซาฮิด ฮามิดิ (Zahid Hamidi) ประธานพรรค UMNO ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพัฒนาชนบท และดินแดนสหพันธรัฐในรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำนายAnwar Ibrahim นั้นสร้างความผิดหวังทั้งคนมาเลเซียและนับวันกระเเสนี้ยิ่งดังขึ้นจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะนักวิชาการ (อ่านเพิ่มเติมใน https://www.astroawani.com/berita-politik/dilantik-tpm-ini-bukan-kemenangan-tetapi-permulaan-cabaran-ahmad-zahid-394947)

อย่างไรก็ตาม เส้นทางหลังจากนี้ของนายอันวาร์ อิบรอฮีมในวัย 75 ปี ยังคงเต็มไปด้วยความท้าทายมากมายที่รอเขาอยู่ หนึ่งในนั้นคือปัญหาทางเชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรมซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้เรื่องนี้โจมตีกันแรงมากๆยิ่งผลการเลือกตั้งเป็นแบบนี้จะยิ่งเติมเชื้อไฟพร้อมประทุตลอด สอดคล้องกับข้อสังเกตของนายทวีศักดิ์ ปิ นักกิจกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสังเกตการณ์การเลือกตั้งมาเลเซียตลอดมา สะท้อนว่า

“ผลการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากระแสความนิยมการเมืองอิสลามในกลุ่มคนมุสลิมรุ่นใหม่มีสูงมากนำหน้าเรื่องชาตินิยมมลายูไปแล้ว เห็นได้จากที่กลุ่มเปอริกัตตันของนายมูห์ยิดดินได้ถึง 73 ที่นั่งอย่างคาดไม่ถึงมาก่อน ในจำนวนนี้เป็นคะแนนของพรรค PAS ที่ชนะเลือกตั้งในรัฐกลันตันและตรังกานูทุกที่นั่งอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนรวม 22 ที่นั่ง ขณะที่พรรคอัมโน (UMNO) ที่เน้นเรื่องชาตินิยมมลายูกลับแพ้เลือกตั้งอย่างราบคาบ” นายทวีศักดิ์ กล่าว

นายทวีศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนพันธมิตรแห่งความหวังของอันวาร์ อิบราฮิม แม้จะได้ที่นั่งมากที่สุด แต่ก็ได้จากกลุ่มคนในเขตเมือง นักธุรกิจและกลุ่มคนเชื้อสายจีน โดยเฉพาะในรัฐปาหัง ปีนังและกัวลาลัมเปอร์ แต่ไม่ได้คะแนนเสียงจากกลุ่มคนมลายูรุ่นใหม่มากนัก แม้แต่พรรคของไซด์ ซาดีค อดีตรัฐมนตรีเยาวชนและกีฬาวัย 28 ปีที่ประกาศตัวเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่คล้ายๆ กับพรรคก้าวไกลในไทยก็ได้มาเพียงหนึ่งที่นั่งเท่านั้น”
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พระราชาธิบดีและนักวิชาการมาเลเซีย ออกมาย้ำเรื่องรัฐบาลแห่งเอกภาพของคนในชาติ แม้จะต่างพรรคต่างอุดมการณ์ (https://fb.watch/h3Uk8XO1Zv/)รวมทั้งนักการศาสนาสายกลางที่มีเชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นดร.อัสรีและอุสาซอัซฮัร อิดรุส ที่ขอให้คนเห็นต่างยอมรับเมื่อพระราชาธิบดีตัดสินใจ ผ่านระบบการเลือกตั้งแล้วแต่ก็จำเป็นติดตามว่าได้ทำตามสัญญาหรือไม่อย่างไร (https://fb.watch/h3UKPqQfRA/)และ(https://fb.watch/h3UNmOMK6E/)
ความท้าทายเร่งด่วนที่สุดคือเศรษฐกิจและการคอรัปชั่นของมาเลเซีย
แม้ราคาหุ้นจะขึ้นตอบรับอันวาร แม้อันวารจะเริ่มงานใหม่ปรามคอรัปชั่นที่คนของรัฐก่อน

โดยประกาศ การบริหารประเทศด้วย
1.ไม่รับเงินเดือน ไม่ซื้อของใหม่เข้าสำนักงานท่าน
2.ห้ามคนของรัฐใช้งบประมาณ ทรัพย์สมบัติของรัฐเอื้อผลประโยชน์ตัวเองและพวกพ้อง
เรียกได้ว่าก่อนจะแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศนั้นเริ่มที่ตนเองและของของรัฐก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจเชิงจิตวิทยาเท่านั้นแต่มันมิใช่ของจริง

 9,815 total views,  2 views today