เลขาฯ ศอ.บต. ระดมสรรพกำลัง เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ชายแดนใต้ ย้ำเร่งช่วยเหลือ ปชช. ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

แชร์เลย

(11 พฤศจิกายน 2565) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี/ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) มีข้อสั่งการด่วนให้ทุกภาคส่วนเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยมี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.ผู้แทนสำนักกอง ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (เขื่อนบางลาง) ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมปฏิบัติการ ชั้น 3 ศอ.บต./ผ่านระบบ Zoom

จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ช่วงค่ำของคืนวันพฤหัสบดี ที่ 10 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นมา ทำให้ในหลายพื้นที่มีการระบายน้ำไม่ทันและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในเขตพื้นที่อาศัยของพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมากพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฯ จึงได้มอบหมายให้พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ประชุมหารือที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นการเร่งด่วน เพื่อร่วมกันติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในพื้นที่ทั้งจากฝนตกหนัก การระบายน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ของลุ่มน้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุน และรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานด้านน้ำที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้นำไปสู่การวางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกันของทุกส่วนครอบคลุมทุกลุ่มน้ำสามารถบริหารจัดการการทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นเอกภาพ ที่สำคัญเน้นการ มีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนที่ร่วมบริหารจัดการแผนในครั้งนี้ด้วย
ในการนี้พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้มีฝนตกหนักบางพื้นที่เริ่มมีน้ำท่วมขังหลายแห่ง ศอ.บต.ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อความยั่งยืน ที่ได้รับการแต่งตั้งและลงนามจากพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและครบวงจร ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการ ตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี ที่ห่วงใยประชาชนชายแดนใต้และมอบหมายศอ.บต. หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทาง ในการบริหารจัดการอย่างดีที่สุดและดำเนินการช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วนเพื่อไม่ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงและได้รับความเสียหายน้อยที่สุดในสภาวะวิกฤต
ขณะที่สถานการณ์ในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนบางลางที่ถือเป็นต้นน้ำหลักในการหล่อเลี้ยงพืชผลทางการเกษตรของประชาชน ในพื้นที่แต่ในฤดูฝนจะต้องมีการบริหารจัดการน้ำโดยล่าสุด (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 เวลา 00.00 น.) มีปริมาณน้ำในอ่าง มี 878.49 ล้าน ลูกบาศก์เมตร (60.4 %) สามารถรองรับน้ำได้อีก 575.87 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้ได้มีการระบายน้ำอยู่ที่ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่หากสถานการณ์ฝนยังคงตกหนักและอยู่ในสภาวะวิกฤตทางเขื่อนบางลางมีความจำเป็นที่จะต้องเริ่มระบายน้ำซึ่งออกไปอยู่ที่ 10 – 12 ล้านลูกบาศก์เมตรแต่ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการน้ำและการพิจารณาสถานการณ์ของปริมาณ น้ำในอ่างเก็บน้ำเป็นระยะๆ ที่เกิดขึ้นด้วย
ทั้งนี้ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง หาแนวป้องกันเสริม นำกระสอบทรายมาวางกั้นพื้นที่กลุ่มเสี่ยง พร้อมติดตามข่าวสารสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจากกรมอุตินิยมวิทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด