ศอ.บต. นำฮุจญาต 112 คน เข้าพบกงสุสใหญ่ ณ เมืองเจดดาร์ ป.ซาอุดีอาระเบีย

วันนี้ 10 ธันวาคม 2564

ตามเวลาประเทศซาอุดีอาระเบีย ผู้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนการประกอบพิธีอุมเราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2564 ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จำนวน 112 คน นำโดยนายประเวศ หมีดเส็น ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจการพิเศษ เดินทางไปยังกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อเข้าพบนาย นายสรจักร บูรณะสัมฤทธิ กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ในโอกาสที่เดินทางมาไปร่วมประกอบพิธีอุมเราะห์ พร้อมกันนี้ได้มีการพูดคุย ผ่านระบบ Zoom ร่วมกับ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็น 1 ในหลายๆโครงการที่ ศอ.บต.หยิบยื่นโอกาสให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยครั้งนี้เป็นกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

นายสรจักร บูรณะสัมฤทธิ กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ต้อนรับกลุ่มคนไทยที่ ศอ.บต. นำมาประกอบพิธีอุมเราะห์ หลังจากที่คนไทยไม่ได้เดินทางเข้ามาประกอบพิธีทางศาสนาในประเทศซาอุดิอาระเบีย รวมระยะเวลา 1 ปี 9 เดือน หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้น ซึ่งที่นี่เปรียบเสมือนบ้านของคนไทย มีอะไรที่จะให้ความช่วยเหลือได้ทางสถานฑูตมีความยินดียิ่ง

ด้านพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวผ่านระบบ zoom ขอบคุณสถานฑูตฯ ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และในกิจกรรมครั้งนี้ ทุกคนล้วนได้รับการคัดเลือกให้เป็นแขกของอัลลอฮ (ซล.) ที่ได้เดินทางไปเยือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสถานที่ฝังศพของศาสดามูฮัมหมัดและไปเยือนมัสยิดฮารอม ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของเอกองค์อัลลอฮ (ซล.) รวมทั้งได้ผ่านการประกอบ พิธีอุมเราะห์และผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ ความคาดหวังของทุกคนที่เดินทางไปคือต้องการอุมเราะห์ที่เอกองค์อัลลอฮตอบรับ โดยในคัมภีร์อัลกุรอานซูเราะห์อัรเราะฮ์ดู อายัตที่ 11 ได้ระบุว่า แท้จริงอัลลอฮจะไม่ทรงเปลี่ยนแปลงสภาพของชนกลุ่มใด จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงสภาพของพวกเขาเอง (ก่อน) เท่านั้น และสิ่งที่แสดงว่าอุมเราะห์ได้รับการตอบรับ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในแนวทางที่ดีขึ้นทั้งในมิติทางศาสนา และมิติสังคม ตามฮาดิษของท่านนบีมูฮัมหมัด (ซล.) ที่ได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่อัลลอฮทรงรักที่สุดในหมู่มนุษย์คือผู้ที่ทำประโยชน์มากที่สุด โดยเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงตนเองไปสู่ครอบครัวและไปสู่ชุมชนตลอดจนสังคมในที่สุด หลังจากนี้ ศอ.บต. เตรียมพร้อมทำหน้าที่ในการสร้างโอกาสให้กับเครือข่ายที่ทุกคนได้ลงมาร่วมคิด ร่วมทำ และจะนำไปร่วมพัฒนาเพื่อให้เกิดสังคมสันติสุข ตามที่ทุกท่านคิดหวังต่อไป

ในโอกาสนี้ เลขาธิการ ศอ.บต. ขออำนวยพรให้ทุกท่านเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ และขอให้การประกอบพิธีอุมเราะห์ในครั้งนี้ เป็นอุมเราะห์ที่ “เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนสังคม” อย่างที่ทุกคนตั้งใจไว้

ด้าน นางสาวรอมีด๊ะ แดวอสนุง จาก อ.ยะหา จ.ยะลา หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสามีถูกยิงเสียชีวิต เมื่อปี 2550 ปัจจุบันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีบุตรสาว 4 คน ได้กล่าวขอบคุณ ศอ.บต. ที่ให้โอกาสมาครอบครัวมาตลอด ทั้งด้านอาชีพ การศึกษาของบุตร ตลอดจนการได้เดินทางมาประกอบพิธีอุมเราะห์ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นความหวังสูงสุดของทุกคนที่ตั้งใจจะใกล้ชิดกับองค์อัลลอฮและเดินทางมาดินแดนแห่งนี้ ขอบคุณที่ทำให้ตนเองได้รับโอกาสเหล่านั้น หลังจากนี้ตนพร้อมที่จะกลับมาเป็นเครือข่ายในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยกัน ซึ่งในพื้นที่ของตนเองนั้นก็ถือว่าไม่ได้สันติสุขมากนัก แต่ก็ต้ังใจจะนำศาสนาขัดเกลากันไป โดยเริ่มต้นจากครอบครัวตนเอง และจากนั้นค่อยไปในชุมชนน และสังคมอื่นๆต่อไป

 7,325 total views,  2 views today