พฤษภาคม 6, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ผอ.ศปพร. แถลงแผนการปฎิบัติงานศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปีงบประมาณ 2565 พร้อมทั้งมอบนโยบาย แนวทางการการดำเนินงาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา “งานตามพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”

แชร์เลย

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ที่ บก. ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางมาเป็นประธานการประชุมแถลงแผนการปฎิบัติงานศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (ศปพร.) ได้ดำเนินงานตาม แผนเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2565 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รับผิดชอบในการบูรณาการงานการแก้ปัญหา งานการป้องกันปัญหา และการเสริมความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2565 เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น และนำสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน ภายใต้บริบทของสังคมพหุวัฒนธรรม โดยพลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  มีเจตนารมณ์ สร้างความเชื่อมั่นศรัทธา มุ่งแก้ไขปัญหาของพี่น้องประซาชนในพื้นที่ จชต. ด้วยการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วนในการทำพื้นที่ให้ปลอดภัย และแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วม องค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีความเข้าใจและ ให้การสนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหานำไปสู่ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” และการอยู่ร่วมกัน   อย่างสันติสุขอย่างแท้จริงภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร   มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้แก่ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และ “การพัฒนาตามภูมิสังคม”รวมทั้ง พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ  “การสืบสาน รักษา ต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” และแนวพระราชดำริ “จิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เป็นยุทธศาสตร์หลัก โดยมี พันเอก มานิตย์ เผ่าพงษ์จันทร์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ , พันเอก อังคาร พร้อมสุข เสนาธิการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ,หัวหน้าคณะทำงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ 1-4 /ผู้แทน ,ฝ่ายอำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เข้าร่วมการประชุม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
กล่าวว่า ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีวิสัยทัศน์ โดยการน้อมนำยุทธศาตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และพระราชปณิธาน ที่จะ “สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา” งานตามพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน        เพื่อมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างแท้จริง ตามนโยบายของ พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ซึ่งศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีภารกิจ
ในการขับเคลื่อนแผนการสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ งานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามพระราชเสาวนีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และชุมชนล่อแหลมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจประจำจังหวัด พร้อมทั้งวางแผน อำนวยการ ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนโครงการเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่ประชาชน และดำเนินการจัดทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียงในรูปแบบของศูนย์สาธิตหรือฟาร์มตัวอย่างฯ และให้บูรณาการแผนงาน/โครงการ ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาภาค 4 ส่วนหน้า รวมถึงจัดทำข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับชุมชนล่อแหลม ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทาง ในการแก้ไขปัญหา ตลอดจนเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้กับสมาชิกผู้ปฏิบัติงานหรือหน่วยงานที่ดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจน งานตามนโยบายของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดย ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดำเนินงานเพื่อประโยชน์สุข ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ ให้ได้รับความรู้ ความเข้าใจในวิธีการที่จะนำแนวคิด สู่แนวทางการปฏิบัติของโครงการต่างๆ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และทำให้เกิดความรักความสามัคคี ในหมู่คณะ พร้อมทั้งแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สืบไป

 5,732 total views,  2 views today

You may have missed