ตชด.ลาดตระเวน พบชายเมียนมาร์นั่งร้องไห้ริมรั้วชายแดน ไทย-มาเลเซีย ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา บอกอยากกลับประเทศ แต่เถ้าแก่ยึดหนังสือเดินทางไว้ จึงแอบหนีมุดรั้วลวดหนามเข้าไทย

BETONG news รายงาน

วันที่ 14 ต.ค.64 ร.ต.ท.ณัฐธีร์ ปัญจศิริวิทย์ หัวหน้าชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่4405 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด. ออกเดินลาดตระเวนตามริมกำแพงรั้วลวดหนามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย บ้านกาแป๊ะฮูลู ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา พบชาย กำลังนั่งร้องไห้อยู่ริมรั้ว มีผ้าห่อด้วยโสร่งตั้งอยู่ข้างๆ จึงเข้าไปสอบถามขอตรวจค้น ไม่พบเอกสารประจำตัว ใดๆ ไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ เจ้าหน้าที่จึงประสาน ร.อ.เอกชัย ไชยสาลี ผบ.ร้อย.ปชด ที่ 1, ร.ต.อ.มาตุภูมิ ธรรมเนียม หัวหน้าชุดปฏิบัติการการข่าว ร้อย ฉก.ตชด.445, นายพิชัย แก้วจำรัส ปลัดอำเภอเบตง, เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเบตง และอีกหลายหน่วยงาน มาร่วมสอบถาม เนื่องจากในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ความสนใจ เรื่องการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติของบุคคลต่างด้าว และได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยกำลังในพื้นที่บูรณาการร่วมกัน ทั้งด้านการปฏิบัติงาน และด้านการข่าว

เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาที่ กองร้อย ตชด.445 ทราบชื่อนายปายี อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ทำงานในสวนทุเรียน ในหมู่บ้านตาเซ๊ะ เปิงกาลันฮูลู รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย อยากกลับบ้านที่ประเทศเมียนมาร์ แต่เถ้าแก่ ได้ยึดหนังสือเดินทางไว้ ยังไม่ยอมให้เดินทางกลับประเทศ ตนจึงแอบหนี แล้วลักลอบเข้ามาประเทศไทย โดยมุดรั้วลวดหนาม แล้วจะไปหาเพื่อนที่ จ.ราชบุรี ก่อนที่จะข้ามกลับประเทศ แต่พอข้ามมาฝั่งประเทศไทยแล้วไปไม่ถูก ตนจึงนั่งร้องไห้จนเจ้าหน้าที่ ตชด. ที่ลาดตระเวนมาพบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจ ATK ปรากฏผลเป็นลบ สอบถามทราบว่าฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในประเทศมาเลเซียแล้ว 1 เข็ม
เจ้าหน้าที่จึงได้หาข้าวหาน้ำให้กินก่อนที่จะนำตัวส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการกักตัว 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตุอาการ ตามมาตรการควบคุมโรค ก่อนที่จะดำเนินการผลักดันกับประเทศต่อไป

 9,958 total views,  2 views today