ผบ.ฉก.ปัตตานี แถลงผลการปฏิบัติงานเชิงรุก และการควบคุมพื้นที่ สรุปสถานการณ์​ปี 64​ ดีขึ้น​

มะยือมิง รายงาน

23​ กย.64​ที่เรือนรับรอง​ มทบ.46​ พลตรีคมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี​ จัดแถลงถึงการปฏิบัติงานของ จนท.3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง การปฏิบัติงานในการกำกับควบคุมดูแลพื้นที่และปฏิบัติการเชิงรุกใน จ.ปัตตานี ในห้วงปี 2564 โดยมีเจ้าหน้าที่​ส่วนที่เกี่ยวข้อง​ พร้อมหน่วยความมั่นคงทุกฝ่าย​ รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าร่วม​ กว่า​100​ ​คน

ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ปฏิบัติงานเต็มความสามารถ​จนทำให้สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ จ.ปัตตานี ดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด​  เกิดเหตุการณ์​น้อยลง​  เพราะการควบคุมพื้นที่ และการปฏิบัติการเชิงรุกต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณที่ดี ที่ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับคืนสู่สันติสุข

และนอกจากนั้น​ ขณะเดียวกัน​อีกด้านหนึ่ง​ ผบ.ฉก.ปัตตานียังกล่าวขอขอบคุณ พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดปัตตานีทุกท่าน รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ต่างช่วยกันในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ใน จ.ปัตตานี ให้ดีขึ้นตามลำดับ​ ยอดการติดเชื้อ  และเสียชีวิตของประชาชน จ.ปัตตานี ลดลงมาก​ เพราะได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย

พลตรีคมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี​ กล่าวว่า สถิติการก่อเหตุความรุนแรงทั้งสิ้น 27 เหตุการณ์ โดยอยู่ในห้วง ต.ค.63 – มี.ค. 64 จำนวน 16 เหตุการณ์ และห้วง เม.ย.- ก.ย. 64 จำนวน 11 เหตุการณ์ เปรียบเทียบในห้วง 6 เดือนแรกและ 6 เดือนหลัง ลดลง 5 เหตุการณ์ เหตุการณ์ลดลง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย สามารถติดตามจับกุมบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในห้วงปีงบประมาณ 64 มีสถิติการติดตามบังคับใช้กฎหมายสามารถวิสามัญกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้รวม 5 ครั้ง ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตจำนวน 9 ราย รวมหมายจับ ป.วิอาญาทั้งสิ้น 34 หมายจับ ซึ่งผู้ก่อเหตุรุนแรงทั้ง 9 คนนี้ ล้วนแต่เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงที่สำคัญในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี เคยร่วมก่อเหตุที่สำคัญมาจำนวนมาก เช่น เหตุการณ์ปล้นร้านทองสุธาดา ในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อ 24 ส.ค. 62 เหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง      ในพื้นที่ กทม. เมื่อ 2 ส.ค. 62 เหตุการณ์คนร้ายยิง อส.ชคต.ประจัน ในโรงเรียนบ้านบูโกะ ในพื้นที่ อ.ยะรัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 6 ราย เมื่อ 10 ม.ค. 62 เหตุการณ์คนร้ายลอบยิง ร.ต.ท.วีระศักดิ์ สารพร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ เสียชีวิต  ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ เมื่อ 7 ธ.ค. 63 และอีกหลายเหตุการณ์สำคัญในพื้นที่ จ.ปัตตานี
รวมทั้ง มีการตรวจยึดยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาวุธปืนพก ปืนเล็กยาว และระเบิดแสวงเครื่อง ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้ในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ โดยมีสถิติการตรวจยึดอาวุธปืนทั้งสิ้น 17 กระบอก เป็นปืนเล็กยาวจำนวน 6 กระบอก ปืนลูกซองจำนวน 4 กระบอก ปืนพกสั้นจำนวน 6 กระบอก และปืนกลมือ M3 อีกจำนวน 1 กระบอก​ ติดตามปืนหายซึ่งคนร้ายนำไปจากเหตุการณ์​ปล้นปืน​ และล่าสุดยึดปืนในการปิดล้อมป่าจาก​ที่กะดุนง​  นอกจากการติดตามบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จนทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น ทั้งหมดนี้ผมต้องชื่นชม เจ้าหน้าที่ที่คอยกำกับดูแลและอำนวยความสะดวกตามจุดตรวจจุดสกัดต่างๆในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่มีเสรีในการปฏิบัติ ส่งผลให้เหตุการณ์ความรุนแรงลดลงอย่างมาก

ด้านฝ่าย พ.ต.อ.ไมตรี สันตยากุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า​ ด้านการก่อเหตุโจรกรรมคนร้ายในห้วงปีที่ผ่านมา ยอดของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่พี่น้องประชาชนได้แจ้งหายไว้ นั้น​มียอดการได้คืนเป็นที่น่าพอใจ โดยมีสถิติรถหายจำนวน 83 คัน ติดตามได้คืนจำนวน 77 คัน จับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวน 40 คน  และที่สำคัญคือการติดตามคดีของผู้ต้องหาคดีความมั่นคง​ ทราบว่าศาลได้พิพากษาตัดสินให้ผู้กระทำความผิดต้องโทษที่ตนเองได้กระทำไว้จำนวนมาก ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาทั้งสิ้น 20 คดี รวมจำเลยทั้งหมด 35 คน แบ่งเป็นลงโทษคดีสิ้นสุดจำนวน 14 คดี รวมจำเลยที่ต้องโทษจำนวน 23 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ต้องหาต้องโทษประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิตจำนวน 9 คดี จำเลยรวม 13 คน เป็นผลทำให้สถิติของการก่อเหตุการณ์ความรุนแรงลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยทางตำรวจเราขอให้คำมั่นว่าไม่ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงจะเป็นอย่างไร​ พร้อมจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน และพร้อมรับใช้พี่น้องประชาชนทุกเมื่อ 24 ชั่วโมง

ส่วนทางด้านป้องกัน จ.ปัตตานี​ นายเอกรัฐ ชูหวาน ปลัดฝ่ายป้องกัน จ.ปัตตานี ในนามของ จนท.ฝ่ายปกครอง จ.ปัตตานี   กล่าวว่า​  จนท. ทั้ง 3 ฝ่ายได้มีการติดตามจับกุมผู้เสพ และผู้ค้ายาเสพติด ในพื้นที่ จ.ปัตตานี เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ยาบ้า เฮโรอีน กัญชา ยาไอซ์ และพืชกระท่อมที่ผิดกฎหมาย โดยมีสถิติการจับกุมทั้งสิ้น 4,546 คดี ของกลางเป็น ยาบ้า 2 ล้านเม็ด เฮโรอีน 615 กรัม กัญชา 600 กิโลกรัม และพืชกระท่อมอีก 17,000 กิโลกรัม

พลตรีคมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี​ ได้กล่าวอีกว่า​
สรุปสถานการณ์ในห้วงปี 2564  จะเห็นได้ว่าหากพวกเรา พี่น้องชาวจังหวัดปัตตานี ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ช่วยกันในการเป็นหูเป็นตา ให้ความร่วมมือกับทาง จนท. แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลต่าง ๆที่เป็นประโยชน์ต่อ จนท. ก็จะทำให้เหตุการณ์ความรุนแรงในจ.ปัตตานี ลดลง ทำให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ ในอำเภอ ในตำบลในหมู่บ้านของท่าน ทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากพี่น้องประชาชนไม่ร่วมมือกัน ผมหวังว่าในปีต่อ ๆ ไป จะได้รับความร่วมมือที่ดีอย่างนี้ตลอดไป

 983 total views,  2 views today