อำเภอเบตงเร่งสวอบชาวบ้านชุมชนบ้านกาแป๊ะกอตอนอกพร้อมฉีดวัคซีน-19 เชิงรุก หลังพบผู้ติดเชื้อกว่า 30 คน

ว(6ก.ย.64) ที่อาคารโรงเรียนตาดีกามัสยิดนูรุ้ลยากีน ชุมชนบ้านกาแป๊ะกอตอนอก อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง นายศิริ มงคลประจักษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองเบตง นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง นำบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลเบตง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเบตง เร่งสวอบชาวบ้านชุมชนบ้านกาแป๊ะกอตอนอกในช่วงเช้า หลังจากพบผู้ติดเชื้อกว่า 30 คน จากประชากร 452 คน 147 หลังคาเรือน โดยมาจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อและคลัสเตอร์ล้งผลไม้รายย่อย ก่อนจะพาเชื้อขยายเข้ามาในชุมชน โดยมีชาวบ้านกลุ่มเสี่ยงสูงและกลุ่มเสี่ยงต่ำรับการสวอป จำนวน 136 ราย และช่วงบ่ายได้ออกหน่วยฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ชาวบ้าน จำรวน 356 คน เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายเชื้อ ไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่นอกชุมชน เนื่องจากชุมชนยังมีจุดเชื่อมต่อกับชุมชนอื่นได้ ซึ่งชุมชนบ้านกาแป๊ะกอตอนอก ได้รับการฉีดวัคซีน 85.40 เปอร์เซ็นต์

นายศิริ มงคลประจักษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองเบตง กล่าวว่า ได้ประสานประธานชุมชน และ อสม บริหารจัดการภายในชุมชนบ้านกาแป๊ะกอตอนอก โดยการตรวจคัดกรองประจำวัน แยกกลุ่มคนเปราะบาง ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวให้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ส่วนกลุ่มคนที่มีอาการป่วยให้แยกออกมา Swap หากพบว่าติดเชื้อก็จะนำตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันที รวมถึงการสร้างแกนนำภายใน เพื่อติดตามสถานการณ์ และรายงานข้อมูลมายังภายนอก เพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านนายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ยังคงน่าเป็นห่วง โดยวันนี้ (6ก.ย.64) พบผู้ป่วยยืนยัน รายใหม่. 18 ราย พบในชุมชนกาแป๊ะกอตอ จำนวน 14 ราย , ชุมชนกาแป๊ะ กม.3 จำนวน 1 ราย , ม.1 ต.ยะรม จำนวน 1 ราย , ม.8 ต.อัยเยอร์เวง จำนวน 1 ราย และ ม.2 ต.อัยเยอร์เวง จำนวน 1 ราย เป็นกลุ่มเชิงรุก ATK จำนวน 3 ราย กลุ่มจากคลินิก ARI จำนวน 15 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 676 ราย โดยแยกเป็นผู้ป่วยในอำเภอเบตง จำนวน 666 ราย พบจากพื้นที่อื่น 7 ราย และพบใน state Quarantine จำนวน 3 ราย กำลังรักษา 103 ราย รักษาหายแล้ว 566 รายมีผู้เสียชีวิต 7 ราย ซึ่งขณะนี้ประชาชนใน อ.เบตง เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว จำนวน 88.23 เปอร์เซ็นต์ โดยแบ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ฉีดวัคซีนแล้ว จำนวน 109.02 เปอร์เซ็นต์ กลุ่ม อสม.ฉีดวัคซีนแล้ว จำนวน 85.63 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มอายุ 18-59 ฉีดวัคซีนแล้ว จำนวน 82.64 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ฉีดวัคซีนแล้ว จำนวน 99.82 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้แม้จะฉีดวัคซีนแล้ว เราก็ยังต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง สวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง ไม่เข้าไปในสถานที่เสี่ยง และสถานที่แออัด

 6,221 total views,  2 views today