ศอ.บต. เดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มโอรังอัสรี ลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและติดตามความเป็นอยู่ พร้อมเร่งประสานดำเนินการออกบัตรประชาชนเพื่อให้เข้าถึงสิทธิของรัฐ

BETONG news รายงาน

นายประเวศ  หมีดเส็น  ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ        และกิจการพิเศษ (กปค.ศอ.บต.) เปิดเผยว่า ในห้วงวันที่ 25- 26 สิงหาคม นี้ ทางคณะเจ้าหน้าที่ของ ศอ.บต. นำโดยกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเบตง ตำรวจท่องเที่ยวเบตง เดินทางเข้าเยี่ยมกลุ่มโอรังอัสรี ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 9 บ้านนากอ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จำนวน 58 ราย เพื่อติดตามความเป็นอยู่และดูแลคุณภาพชีวิตของกลุ่มโอรังอัสรีในภาพรวม พร้อมกันนี้           ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ข้าวสาร น้ำปลา น้ำมันพืช น้ำตาล ปลากระป๋อง เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

สำหรับการลงพื้นที่เยี่ยมกลุ่มโอรังอัสรีในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานต่อเนื่องของ ศอ.บต.ที่ร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาพรวมทุกพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมา ศอ.บต. ร่วมกับอำเภอเบตงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มโอรังอัสรีเป็นพิเศษเพราะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มสุดท้ายที่ยังคงมีวิถีการดำรงชีวิตแบบคนป่า โดยมีการสำรวจข้อมูล ที่อยู่อาศัย วิถีชีวิต และสิทธิขั้นพื้นฐานต่าง ๆ รวมทั้งด้านการศึกษา ซึ่งพบว่า กลุ่มโอรังอัสลี ยังไม่เข้าถึงสิทธิ หรือสวัสดิการขั้นพื้นฐานของรัฐ และยังไม่ได้รับสถานะบุคคลตามสัญชาติไทย จึงได้ประสานผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและออกบัตรประชาชน

โดยปัจจุบันดำเนินการออกบัตรประจำตัวประชาชนให้กลุ่มโอรังอัสลีไปแล้วกว่า 90 % และยังคงสำรวจกลุ่มโอรังอัสรี เพิ่มเติม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงสิทธิ์ต่างๆ ของรัฐ ด้วยการมีบัตรประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นคนไทยอย่างสมบูรณ์ต่อไปและในการลงพื้นที่ครั้งนี้ คณะฯ ได้เดินทางไปที่หมู่ 8 ตำบลอัยเยอร์เวง  อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อไปเยี่ยมและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยเหลือและลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ นางอามีเนาะ (ไม่มีนามสกุล)  เนื่องจากยังไม่ได้ทำบัตรประจำตัวประชาชน เพราะครอบครัวของ     นางอามีเมาะได้เสียชีวิตทั้งหมด และเป็นผู้พิการขาขวา ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด เมื่อครั้งโจรคอมมิวนิสต์มาลายาเข้ามาในพื้นที่ ปัจจุบันประกอบอาชีพกรีดยาง และอาศัยอยู่ในพื้นที่ ของนายจ้างพร้อมกับหลานชายอีก 2 คน
สำหรับการดำเนินการช่วยเหลือนางอามีเนาะนั้น จะมีการสอบหาญาติและซักประวัติเพื่อจัดทำ บัตรประชาชน เพื่อให้เข้าถึงสิทธิการบริการของรัฐต่อไป

 1,142 total views,  2 views today