ทำลายทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย​ คือการสร้างความเสื่อมในแผ่นดิน​ المفسدون في الأرض อิหม่าม ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ

ทะเลสาบสงขลาเคยอุดมไปด้วยทรัพยากรอย่างยากจะหาที่ใดเหมือน​ แต่ปัจจุบันนี้​ความอุดมสมบูรณ์ดังกล่าวถูกทำลายลงไปอย่างมหาศาล​ ส่วนใหญ่ด้วยน้ำมือของคนรอบทะเลสาบสงขลาเอง​ จากการใช้เครื่องมือจับสัตว์น้ำแบบล้างผลาญฟุ่มเฟือย​ เช่น​ อ้ายโง่​ อวนรุน​ อวนลาก​ ยาเบื่อ​ เป็นต้น​ ไม่รวมการทิ้งขยะและการปล่อยน้ำเสียผ่านคลองสาขาต่าง​ ๆ​ ที่ไหลงลงสู่ทะเลสาบอันทรงคุณค่าแห่งนี้

ความโลภโมโทสันมักทำให้คนเราขาดความยั้งคิดและกระทำการอย่างโง่เขลา​ หากมิใช่เพราะความโลภ​ คนเราก็ควรคิดได้ว่าทุกคนต้องอนุรักษ์ทรัพยากรเอาไว้เพื่อเป็นแหล่งปัจจัยการดำรงชีวิตที่มั่นคงแก่ลูกหลานในอนาคต​ ทรัพยากรไม่ควรถูกทำลายจนสิ้นในรุ่นของเรา​ แล้วปล่อยให้ลูกหลานเคว้งคว้างหาที่ทำกินไม่ได้ในวันข้างหน้า​ เพียงเพราะคนบางกลุ่มต้องการเงินมาจับจ่ายอย่างฉาบฉวยในวันนี้

อุบัติการณ์โควิด​ 19​ ควรทำให้นักทำลายเหล่านี้ฉุกคิดได้บ้าง​ เพราะหลายคนที่เคยฝากท้องกับบริษัท​ ห้างร้าน​ โรงงานอุตสาหกรรม​ บ้างถูกปลด​ บ้างโรงงานปิด​ แล้วก็ต้องซมซานกลับบ้าน​ อยู่ที่บ้านจะลำบากอย่างไร​ หากท้องทะเลสาบสงขลายังมีกุ้งปลาให้จับ​ ชีวิตก็ดำเนินต่อไปได้ไม่ลำบากมากนัก​

แต่จะเกิดอะไรขึ้น​ หากทะเลสาบมีแต่น้ำเปล่าไร้กุ้งปลาอาศัย​ เพียงเพราะความโลภของคนไม่กี่คน​ ?

การปล่อยพันธุ์กุ้งปลาในทะเลสาบ​ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอย่างหนึ่ง​ ปล่อยไปแล้วหากหยุดการทำลายล้างผลาญทรัพยากรไม่ได้​ กุ้งเหล่านั้นคงไม่ทันโตก็ถูกจับเสียก่อนแล้ว​ คนทำกินถูกกฎหมายก็เดือดร้อนอยู่ดี

สำหรับมุสลิม​ ควรตระหนักว่าการทำมาหากินแบบล้างผลาญทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย​ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยหลักอิสลาม​ ศาสนาซึ่งสอนให้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม​ ประกอบอาชีพสุจริต​ ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น​ ที่สำคัญสอนให้คำนึงถึงอนาคตให้มาก​ ทั้งอนาคตบนโลกนี้และอนาคตในโลกหน้า​ ซึ่งคนที่จะประสบความสำเร็จได้​ ต้องไม่เป็นคนล้างผลาญฟุ่มเฟือย

เพราะการล้างผลาญฟุ่มเฟือยเป็นมิตรชิดใกล้อย่างยิ่งกับซาตาน​ !!!
หมายเหตุภาพประกอบ
13​ มิถุนายน​ วันคลองภูมี​ คลองสาขาหนึ่งของทะเลสาบสงขลา​ ร่วมปล่อยพันธุ์กุ้งปลาเพื่อเลสาบเรา

 39,485 total views,  4 views today