พฤศจิกายน 27, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

แม่ทัพภาค 4 ผู้ว่านราฯแถลงปืนราชการ อส.ล่องหน ยันหาย  26 กระบอก คืนได้ 6 กระบอก เน้นย้ำสอบสวน ใครเกี่ยวข้อง เอาผิดโทษทั้งวินัย และคดีอาญา ไม่มีการละเว้น

แชร์เลย

กองบรรณาธิการข่าว.. มีคลิป..

เวลา 11.30 .วันที่ 3 มิ.ย. 2564 ที่ห้องประชุม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน.ภาค 4 พล.ต.ธีรา แดหวา รองแม่ทัพภาค 4 นายเจษฎา เจตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส ร่วมแถลงข่าว กรณีปืน อส.ทางราชการหายไป  28 กระบอก  โดยมีรายละเอียดการแถลง  เรื่องอาวุธปืนสูญหายจังหวัดนราธิวาสขอชี้แจง กรณีอาวุธปืนเล็กยาว ขนาด 4.56 มม. รุ่น AK 102  ของกองร้อย อส.อ.เมืองนราธิวาส จำนวน ๒๘ กระบอก สูญหายตามที่ปรากฎเป็นข่าวสาร เพื่อได้ทราบข้อเท็จจริงโดยสรุป ดังนี้
เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๔ จังหวัดนราธิวาส ได้รับรายงานจาก อำเภอเมืองนราธิวาส ว่าได้มีอาวุธปืนเล็กยาว ขนาด ๕.๕๖ มม. รุ่น AK ๑๐๒ ของกองร้อย อส.อำเภอเมืองนราธิวาส หายไปจากคลังอาวุธ จำนวน ๒๘ กระบอก โดยนายอำเภอเมืองนราธิวาส ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดนราธิวาส และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด จึงได้รายงาน ผู้บังคับบัญชา ตามลำดับชั้น และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ พร้อมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุของการสูญหาย

 ซึ่งมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสนายไพโรจน์ จริตงาม เป็นประธานกรรมการ โดยมีคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีปลัดจังหวัดนราธิวาสเป็นกรรมการและเลขานุการ และเพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จังหวัดนราธิวาส ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ จากบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มาเป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนคณะกรรมการดังกล่าว โดยจังหวัดได้กำหนดให้ดำเนินการสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงในส่วนที่สำคัญภายใน 7 วัน และให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
บัดนี้ การสอบสวนได้ดำเนินการครบ * วัน จึงขอสรุปสาระสำคัญตามที่คณะกรรมการฯ ได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ ดังนี้
๑. ได้อาวุธปืนกลับคืนมา และปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของหน่วยงานรัฐจำนวน ๘ กระบอก ดังนี้
๑.๑ ตรวจสอบพบว่า มิได้สูญหาย จำนวน ๒ กระบอก เป็นแต่เพียงการผิดหลงทางธุรการ
๑) กระบอกที่.. เป็นกรณีที่กรมการปกครองได้เบิกจ่ายให้กับ กองร้อย อส.อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงชลา ไปตั้งแต่วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ แต่ปรากฎเลขหมาย
ประจำปืนมีอยู่ในบัญชีของอำเภอเมืองนราวาสด้วย แต่ในความเป็นจริงตัวอาวุธปิน อยู่ที่อำเภอสบย้อย จังหวัดสงขลา จึงได้ทำหนังสือตรวจสอบไป และได้รับการยืนยันว่า ปัจจุบันอยู่ในความครอบครอง ดูแล และไช้ปฏิบัติภารกิจปกติ อยู่ที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
๒) กระบอกที่.๒ ตรวจพบว่ายังคงอยู่ในคลังอวุธของกองร้อย อส. อำเภอเมืองนราธิวาส เป็นแต่เพียงในการตรวจนับจำนวนอาวุธปืน ของอำเภอเมืองนราธิวาส
ในขั้นตอนบันทึกข้อมูลผิดหลงทำให้จำนวนขาดหายไป แต่เมื่อคณะกรรมการฯ ร่มกับอำเภอเมืองนราธิวาสได้ตรวจสอบช้ำอีกครั้ง จึงปรากฏว่าอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว มีเลขหมายประจำ
ปืนถูกต้องตามบัญชีข้อมูลและสภาพปกติอยู่ในคลังอาวุธปืนของกองร้อย อส.อำเภอเมืองนราธิวาส


๑.๒ ตรวจสอบพบว่า อยู่ในความครอบครองของหน่วยงนรัฐ เนื่องจากเป็นหลักฐานเกี่ยวข้องทางคดี จำนวน ๖ กระบอก โดยได้มาจากการตรวจยึดหรือจับกุมบุคคล
ที่ครอบครองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 6 กระบอก ดังนี้
๑) กระบอกที่ .เป็นอาวุธปืนที่ สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จับกุมบุคคลได้พร้อมอาวุธปืน เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๗ ปัจจุบันอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว
สภ.สบาย้อย จสงขลา ได้ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี ส่วนห้วงเวลาของการสูญหายอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบข้อมูล
๒) กระบอกที่ ๒ เป็นอาวุธปืนที่ สภ.สิงหนคร จ.สงขลา จับกุมบุคคลผู้ก่อเหตุในพื้นที่ อ.สิงหนคร เมื่อวันที่ ๓ด มกราคม ๒๕๖๔ ปัจจุบันอาวุธปืน สภ.สิงหนคร
ได้ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี ส่วนหัวงเวลาของการสูญหายอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบข้อมูล
๓) กระบอกที่ . เป็นอาวุธปินที่ สภ.ระแงะ จนราธิวาส ตรจค้นสถานที่และบุคคลเป้าหมาย เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ปัจจุบัน สภ.ระแงะ ได้ตรจยึดไว้ดำเนินคดี
ส่วนห้วงเวลาของการสูญหาย และรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบข้อมูล
๔) กระบอกที่ ๔.เป็นอาวุธปินที่ สภ.เมืองนราธิวาส ทำการตรวจคันบ้านของราษฎรที่มีอาชีพเกี่ยวกับทำประมงในพื้นที่ แล้วได้ตรวจยึดอาวุธปืนไว้
เมื่อวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕’๖๔ ปัจจุบัน สภเมืองนราธิวาส ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี ส่วนห้วงเวลาของการสูญหายและรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบข้อมูล
กระบอกที่เป็นอาวุธปืนที่หน่วยทหารยึดคืนได้จากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิตที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จากเหตุการณ์ปะทะต่อสู้กับหน่วยเฉพาะกิจ
นาวิกโยธิน กองทัพเรือ ที่บังคับใช้กฎหมาย เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ปัจจุบันอาวุธปืน สภ.บาเจาะ ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี ส่วนห้วงเวลาของการสูญหาย และรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่าง
สืบสวนสอบสวน และตรวจสอบข้อมูล
๖) กระบอกที่ ๒.เป็นอาวุธปืนที่ สภเมืองนราธิวาส ได้คืนมาจากการจับกุมบุคคลท้องที่ ต มะนังตายอ อเมืองนราฮิวาส พร้อมอาวุธปิน เมื่อวันที่ 10 เมษายน ๒๕๖o
และปัจจุบันอาวุธปืน สภ.เมืองนราธิวาส ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี ส่วนห้วงเวลาของการสูญหายและรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบข้อมูล

สรุปได้ว่า มีอาวุธปืนที่สูญหาย เพียง 26 กระบอก แต่ได้กลับคืนมาแล้ว จำนาน 6 กระบอก คงยังมีอาวุธปืนที่สูญหาย และอยู่ระหว่างเร่งคำเนินการให้ได้มา
จำนาน  20 กระบอก ส่วนอีก ๒ กระบอก มิได้เกิดการสูญหายมาตั้งแต่ต้น เป็นแต่เพียงการผิดหลงทางธุรการของการปฏิบัติงานทางด้านธุรการ ซึ่งอำเภอเมืองนราธิวาส
ได้แจ้งไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาสทราบแล้ว
สำหรับอาวุธปืนที่สูญหาย อีกจำนวน 20 กระบอกนั้น จังหวัด และหน่วยเกี่ยวข้องรวมทั้ง คณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างการสอบสวน สืบสวน ตรวจ สอบ
รวมรวมข้อเท็จจริงของการสูญหายเพื่อให้เกิดความรอบคอบ ชัดเจน ถูกต้อง และประการสำคัญคือ ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ใช้ความพยายามที่ จะให้ได้อาวุธปืนกลับมา เพื่อมิให้บุคคล  ที่พฤติกรรมไม่ดีนำไปใช้ก่อเหตุรุนแรง สร้างความไม่สงบเรียบร้อยหรือความวุ่นวายในสังคมได้ สำหรับความคืบหน้าเพิ่มเติมจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป

โดยพลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ มทภ.4 ยังกล่าวสรุปว่า ในกระบวนการสอบสวน ได้กำชับไปยัง พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว. นราธิวาส ทำการสืบสวนสอบสวน ทุกระดับชั้น  ที่สงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับปืนหาย อย่างตรง ตรงไปมา สอบให้ถึงผู้เกี่ยวข้อง ไม่จะเป็นผู้เบิกจ่าย อาวุธปืน ผู้ดูแล หรือ ผู้นำอาวุธปืนไปใช้ ร่วมถึงผู้รับผิดชอบ ไม่จะเป็นใคร หรือ นายอำเภอ  หากผลสอบตรวจพบ เจ้าหน้าที่คนไหนเกี่ยวข้อง กับกรณีปืนราชการหาย  จะต้องถูกลงโทษ ทั้งทางวินัย และดำเนินคดีอาญาอย่างเด็ดขาด        

นอกจากนี้กำชับทุกพื้นที่ ทั้งทหาร ตำรวจ ปกครอง ให้ตรวจสอบอาวุธปืน และยุทธปกรณ์ ทางราชการ ให้มีการเข้มงวด ร่วมถึงอาวุธปืนทางราชการ ที่อยู่กับ กำนัน ผู้ใหญ่ และ ชรบ.ทุกแห่ง ให้ตรวจเช็คอย่างเข้มงวด ต้องเคร่งครัดระเบียบวินัย เพื่อป้องกันไม่ให้ปืนหายในลักษณะนี้อีกเด็ดขาด  และกำชับกำลังพล ชคต.หรือชุดความปลอดภัยประจำตำบล ที่เป็นจุดปฎิบัติการร่วมในพื้นที่ ทุกตำบลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  วางกำลังให้เต็มอัตรา ไม่ประมาทฝ่ายตรงข้ามและ พร้อมปฎิบัติ สับเปลี่ยนกำลังดูแลพื้นที่ 24 ชม. นอกจากกำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่เข้าแผนปฎิบัติการตามมาตรการรักษาความสงบในพื้นที่ และความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชานแดนภาคใต้ที่มีอยู่แล้ว

 3,129 total views,  6 views today

You may have missed