พฤศจิกายน 26, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

กอ.รมน.ภาค4 ยันคลิปฉาวกล่าวหาทหาร เรียกรับผลประโยชน์ เจ้าของโรงแรมป่าตองตัดต่อบิดเบือน ยันดำเนินคดีผู้เผยแพร่ ทำให้กองทัพเสียหาย

แชร์เลย


( 2 เมษายน 2561 เวลา 09.00น.) พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข่าวในสื่อออนใลน์ข้อความกล่าวหาเจ้าหน้าที่ทหารใช้อำนาจตามมาตรา 44 เรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต ดังที่ได้มีการแชร์เผยแพร่และแสดงความคิดเห็นเชิงลบอย่างกว้างขวางในช่วงที่ผ่านมานั้น
กองทัพภาคที่ 4 / กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้
1. จากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 27 มีนาคม 2561 ณ โรงแรมป่าตอง พารากอน จังหวัดภูเก็ต โดย ร้อยตรี วัฒนชัย คล่องประดิษฐ์ หัวหน้าชุกรักษาความสงบเรียบร้อยกรมทหารราบที่ 25 ได้รับคำสั่ง ให้เดินทางไปประสานกับผู้บริหารโรงแรมดังกล่าวว่า พันโท สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม คณะทำงานชุดเฉพาะกิจกองทัพภาคที่ 4 จะเดินทางมาพบ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากพนักงานของโรงแรมป่าตอง พารากอน ว่าถูก นายวิศิษฐ์ เอี่ยมวิโรชน์ฤทธิ์ กรรมการบริหารโรงแรมดังกล่าว และพวกข่มขู่และกดดันให้ออกจากการเป็นพนักงานของโรงแรม ทำให้เกิดความหวาดกลัวและรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากนายวิศิษฐ์ฯ และพวกแต่อย่างใด ดังปรากฏข้อความและคลิปที่ได้เผยแพร่ไปแล้ว และต่อมาพันโท สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม ได้เดินทางมาชี้แจงรายละเอียดและเหตุผลในการขอตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยนายวิศิษฐ์ฯ แจ้งว่าขอเวลารวบรวมเอกสารหลักฐาน และจะเดินทางไปชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ในวันที่ 2 เมษายน 2561
2. การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ดำเนินการภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายมาตรา 44 และคำสั่งที่ 13/2559 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่าถูกข่มขู่ และคุกคามจากผู้มีอิทธิพล ทำให้เกิดความหวาดกลัวและไม่ปลอดภัย ซึ่งถือเป็นพฤติการณ์ที่เข้าข่ายกระทำความผิดอาญาที่เป็นอันตรายต่อความสงบเรียบร้อย จึงจำเป็นต้องเข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหนังสือร้องเรียน โดยปฏิบัติตามระเบียบ และขั้นตอน ทุกประการพร้อมกันได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานโดยชอบ ด้วยกฎหมายมิได้มีการทำร้ายร่างกาย ใช้กำลังบังคับขู่เข็ญ เพื่อเรียกรับสินบนหรือผลประโยชน์แต่อย่างใด


3. การเผยแพร่คลิปที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการตัดต่อเพียงบางส่วนพร้อมข้อความอันเป็นเท็จ นอกจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้ว ถือเป็นการเจตนาสร้างความเสื่อมเสียให้เจ้าหน้าที่รัฐและทำลายภาพลักษณ์ของกองทัพภาคที่ 4 ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อจัดระเบียบสังคมขจัดอิทธิพล อำนาจมืด ธุรกิจผิดกฎหมาย ความไม่เป็นธรรมในสังคม ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนที่ช่วยกันแจ้งเบาะแส จนนำสู่ การแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว สำหรับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่จงใจเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จดังที่ปรากฏ กองทัพภาคที่ 4 / กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จะพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายตามความเหมาะสมต่อไป

……………
อับดุลหาดี เจ๋๊ะยอ SPMCNEWS จ.ยะลา รายงาน

 835 total views,  2 views today

You may have missed