พฤศจิกายน 26, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

Dr. Sara Royเขียน จดหมายถึงประธานาธิบดี โจ ไบเดน เรื่อง ฉนวนกาซา

แชร์เลย

ฉันกำลังเขียนถึงท่านเกี่ยวกับฉนวนกาซา ซึ่งเป็นสถานที่ที่ฉันได้ศึกษาและเขียนถึงในช่วง 35 ปีที่ผ่านมา เป็นสถานที่ที่ฉันคิดว่าเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีจิตใจดีงามและมีน้ำใจเป็นที่สุดเท่าที่ท่านจะเคยพบ – ไม่ทราบว่าท่านประธานาธิบดีเคยไปที่นั่นหรือไม่? แต่ที่ฉันเขียนจดหมายฉบับนี้ไม่เพียงแแค่ในฐานะนักวิชาการที่ศึกษาในภูมิภาคนี้ แต่ยังในฐานะที่ฉันเป็นชาวยิวที่มีพ่อและแม่เป็นผู้รอดชีวิตจากค่ายกักกันที่เอาช์วิทซ์

ฉันมีคำถามสำหรับท่านประธานาธิบดี คือ การตายของเด็กเป็นที่ยอมรับได้ตั้งแต่เมื่อใด? หรือบางทีฉันควรถามคำถามว่า เมื่อไหร่กัน ที่การตายของเด็กชาวปาเลสไตน์จึงจะไม่เป็นที่ยอมรับ?
ท่านเองก็เคยมีประสบการณ์ตรงกับการสูญเสียลูกของท่านอย่างไม่อาจบรรยายได้ ดังนั้น ท่านน่าจะตอบคำถามของฉันได้ดีที่สุดกว่าใครๆ

สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากชาวปาเลสไตน์ 87 คนในฉนวนกาซาถูกสังหารและบาดเจ็บอีกกว่า 500 คน ท่านระบุว่าท่านไม่ได้เห็น “การตอบโต้ที่เกินเลย” แต่อย่างใดของฝ่ายอิสราเอลต่อการโจมตีด้วยจรวดของกลุ่มฮามาส ในบรรดาผู้เสียชีวิตในเวลานั้นมีเด็ก 18 คน ซึ่งฉันก็ไม่ได้รู้จักเด็กๆ เหล่านั้น แต่ฉันรู้คนที่ทำ
ท่านกรุณาช่วยอธิบายให้เพื่อนๆ ของฉันฟังหน่อยได้ไหมว่า ทำไมการเสียชีวิตของเด็ก 18 คนนี้จึงไม่นับว่าเป็นการแสดงการตอบโต้ที่เกินเลย?

สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามอีกข้อหนึ่งสำหรับท่านประธานาธิบดี คือ ต้องให้มีเด็กอีกจำนวนเท่าไหร่ที่ต้องตายในฉนวนกาซาท่านจึงจะบอกได้ว่า อิสราเอลทำการตอบโต้อย่างเกินเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื่องจากท่านให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนว่าแก่นกลางของนโยบายต่างประเทศในสมัยของท่าน
ฉันจำเป็นต้องรู้เพื่อที่จะได้อธิบายให้เพื่อนๆ ฟัง เพราะขณะที่ฉันเขียนสิ่งนี้อยู่ มีเด็กชาวปาเลสไตน์กว่า 60 คนที่ได้ถูกสังหารโดยรัฐบาลอิสราเอล เด็กจำนวน 60 คนนั้น เพียงพอรึยังค่ะท่าน หรือว่ายัง?

ฉันพอรู้จักคนในรัฐบาลของเราที่ทำงานเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล – ปาเลสไตน์ ฉันอยากจะบอกท่านบางอย่างที่ฉันได้ยินจากหนึ่งในนั้นเกี่ยวกับการตายของเด็กๆ ในฉนวน
กาซา บุคคลผู้นี้บอกเป็นนัยว่า ผู้เสียชีวิตบางคนน่าจะเป็นลูกของพวกฮามาส ดังนั้น การตายของเด็กพวกนี้จึงไม่สำคัญแต่อย่างใด นั่นคือ การเสียชีวิตของพวกเขาเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ ดังนั้น นี่คือ คำตอบสำหรับคำถามแรกของฉันใช่หรือไม่? และนี่ควรเป็นวิธีที่ฉันอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังใช่ไหม? ท่านโปรดช่วยตอบฉันหน่อย?

ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเหลือเกินคือ หลังจากการศึกษาค้นคว้าและเขียนเรื่องนี้มายาวนานกว่าสามสิบปี ฉันได้พบว่า มันยังคงจำเป็นที่จะต้องโต้แย้งด้านมนุษยธรรมให้กับชาวปาเลสไตน์ต่อไป แม้กระทั่งกับคนที่เป็นประธานาธิบดีอย่างท่าน

อีกอย่างหนึ่งก่อนที่ฉันจะจบจดหมายฉบับนี้ถ้าท่านจะกรุณาไม่ถือสาฉันละก็ ฉันขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแม่ของฉันเองให้ท่านได้ฟัง คือ เมื่อครั้งเธอถูกคุมขังอยู่ที่ย่านลอดซ์ในช่วงที่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เธอได้เสี่ยงชีวิตของเธอโดยการซ่อนเด็กที่ถูกเลือกให้เนรเทศไปยังค่ายกักกันเอาช์วิทซ์และค่ายกักกันอื่นๆ แต่ในที่สุด พวกนาซีก็พบเด็กพวกนั้นและส่งพวกเขาไปตาย แต่แม่ของฉันได้พยายามช่วยพวกเขาถึงแม้ว่าเธอรู้ว่าเธอไม่มีอำนาจที่จะช่วยได้ก็ตาม และตลอดชีวิตของฉันที่รู้จักและเรียนรู้จากแม่ ฉันรับรองได้เลยว่า แม่จะทำแบบเดียวกันกับเด็กๆ ทุกคนที่ถูกคุกคามไม่ว่าพวกเขาจะเป็นชาวยิว หรือคริสต์ หรือมุสลิม และเธอคงต้องรู้สึกสยดสยองอย่างมากกับการเข่นฆ่าเด็กอย่างไร้สติในความขัดแย้งที่เลวร้ายเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นเด็กชาวปาเลสไตน์หรืออิสราเอล และเธอจะต้องตำหนิอย่างรุนแรงต่อความอยุติธรรมทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้น

และนี่คือคำถามสุดท้ายสำหรับท่าน: ทำไมท่านยังไม่ทำแบบเดียวกันนี้?

ด้วยความจริงใจ
Dr. Sara Roy

(CR: www. Counterpunch.org)

เรียบเรียง / เผยแพร่ :
ผศ.ดร.สุชาติ เศรษฐมาลินี

 8,465 total views,  4 views today

You may have missed