ดร.มังโสด รองเลขาธิการพรรคประชาชาติ “ไล่รัฐบาลลุงตู่”เซ่นโควิด

ล่าสุดสดๆร้อน ลงทะเบียนวัคซีน หมอพร้อม แต่กลับเป็น “หมอไม่พร้อม”ระบบยังไม่รัดกุม ซึ่งแอปและไลน์ออฟฟิเชี่ยล “หมอพร้อม” ไม่พร้อมเอาเสียเลย เล่นเอาการจองวัคซีนสับสนอลหม่านทั่วประเทศ

วันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ดร.มังโสด หมะเต๊ะ รองเลขาธิการพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ไล่รัฐบาลลุงตู่”เซ่นโควิด กล่าวคือ ตามที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ลุงตู่)ได้เข้ายึดอำนาจการปกครองและเข้าบริหารราชการแผ่นดิน รวมเวลาที่อยู่ในอำนาจเกือบ 7 ปีเต็ม แต่การบริหารประเทศของ พล.อ. ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรีกลับล้มเหลวเกือบทุกด้าน สร้างปัญหาและผลกระทบต่อประเทศและความทุกข์ยากเดือดร้อนแก่ประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะ “ล้มเหลวไม่เป็นท่าและมีความผิดพลาดในการจัดการการระบาดของโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดหาวัคซีน การกระจายวัคซีน การฉีดวัคซีน การไม่ให้ประชาชนมีสิทธิเลือกวัคซีน นอกจากนั้นรัฐบาลกลับเป็นต้นตอเสียเองในการระบาดทั้งสามระลอก ความล้มเหลวในการควบคุมการระบาด จนประชาชนออกมาด่าทุกวันที่คลิปปลิวว่อนในโลกโซเชี่ยลยืนยันในเชิงประจักษ์ สิ่งสะท้อนได้อย่างชัดเจนคือ การจัดการเรื่องเตียงและ ICU ผิดพลาดจนประชาชนหลายคนต้องนอนรอความตายโดยไม่สามารถเข้าสู่ระบบสาธารณสุขได้

ล่าสุดสดๆร้อน ลงทะเบียนวัคซีน หมอพร้อม แต่กลับเป็น “หมอไม่พร้อม”ระบบยังไม่รัดกุม ซึ่งแอปและไลน์ออฟฟิเชี่ยล “หมอพร้อม” ไม่พร้อมเอาเสียเลย เล่นเอาการจองวัคซีนสับสนอลหม่านทั่วประเทศ แต่รัฐบาล ก็ยังปากแข็ง ว่าพร้อม ไม่กล้ายอมรับความจริง เหมือนกับช่วงแรกๆที่ไม่กล้าเผชิญความจริง บอกความจริงเรื่องจำนวนผู้ป่วยโควิด จนเอาไม่อยู่ในการจัดการ สอดคล้องกับที่หมอสุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานแพทย์ชนบทออกมาสะท้อนต่อเรื่องนี้ว่า “หมอพร้อมยังไม่พร้อมก็รับสารภาพผิดกับประชาชนไปก็ได้ ปรับให้พร้อมแล้วค่อยเปิดระบบใหม่ การที่ให้ประชาชนโทรมาลงทะเบียนกับโรงพยาบาลนั้น ว่ามันสับสนมากๆ
ยังมีคำถามที่ไม่มีคำตอบ เช่น โรงพยาบาลต่างๆจะได้รับโควต้าการฉีดวัคซีนแห่งละกี่โดสต่อวัน จะได้นัดคนไข้ได้ถูก จำนวนโดสต่อวันที่จะได้รับยังไม่รู้เลย จะนัดคนไข้ได้อย่างไร อีกประเด็นคือ มีทั้งคนที่ลงในหมอพร้อม แล้วมีคนมาลงทะเบียนแบบหมอไม่พร้อมที่โรงพยาบาล ผลคือจะมีการนัดซ้อนวันกันจนล้นโรงพยาบาลไหม เกิดความแออัด เสี่ยงติดโควิดในวันที่ฉีดวัคซีนไหม อันนี้คือความไม่พร้อมอย่างยิ่งของระบบ”

นอกจากนี้ยังมีอีกสองปัจจัยคือ

หนึ่งล้มเหลวในการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจ ตลอดเวลาที่บริหารมาเกือบ 7 ปีกว่าก็ย่ำแย่อยู่แล้ว การระบาดของโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ล้มเหลวที่สุดในโลกด้านเศรษฐกิจ และเป็นหนึ่งในประเทศที่ฟื้นตัวช้าที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน ด้านเศรษฐกิจปากท้อง พี่น้องประชาชนยากลำบากจากมาตรการเยียวยาที่ผิดพลาด ไม่ตรงจุด ไม่เพียงพอ ธุรกิจล้มตายจำนวนมากเพราะมาตรการด้านสินเชื่อล้มเหลว แรงงานว่างงานมากสุดในรอบกว่าสิบปี พี่น้องประชาชนเข้าสู่ภาวะไม่ตายเพราะโรคก็ตายเพราะไม่มีจะกิน

สองล้มเหลวในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของคนทั้งประเทศ สนับสนุนพวกพ้อง ทำลายผู้เห็นต่าง สร้างความแตกแยกในสังคมอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน อาศัย พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เป็นเครื่องมือและข้ออ้าง เพื่อดำรงไว้ซึ่งผลประโยชน์และอำนาจของตน โดยไม่ได้ใช้เพื่อการควบคุมการระบาดแต่อย่างใด หลอกลวงประชาชนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงเพื่อต้องการรักษาอำนาจและต่อท่ออำนาจของตนเองให้ขยายออกไป นอกจากนี้ภายใต้กลไกของรัฐธรรมนูญปี 2560 แม้จะมีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นมากมาย แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเอาผิดได้ จนทำให้การทุจริตคอร์รัปชันในช่วงของรัฐบาลนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์” อย่างนี้จะให้ท่านอยู่ต่อได้อย่างไร

 13,072 total views,  2 views today