อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
สถานการณ์ Covid – 19 จังหวัดยะลา ประจำวันที่ 2 พฤษภาคม 2564 ผู้ป่วยรายใหม่ 16 ราย ผู้ป่วยสะสม 71 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 0 ราย เสียชีวิตสะสม 1 รายผู้ป่วยสะสม แบ่งตามพื้นที่ ดังนี้ เมืองยะลา 19 ราย กรงปินัง 24 ราย รามัน 14 ราย เบตง 13 ราย บันนังสตา 1 ราย ทำให้สสจ.ยะลา เร่งคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในโดยเฉพาะหมู่บ้าน ต.บาลอ อ.รามัน เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด หลังพื้นที่ดังกล่าวพบผู้ติดเขื้อส่อขยายวงกว้างมากขึ้น เมื่อ วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ภายหลังจากที่ ศบค.ยะลา ออกหนังสือกำหนดพื้นที่เสี่ยงโควิด-19 เพิ่มเติมโดยห้ามมิให้ผู้ใดเข้าออกในพื้นที่ของ 5 หมู่บ้าน 2 อำเภอ ประกอบด้วย หมู่ 1 บ้านบาลอ ต.บาลอ อ.รามัน หมู่ 4 บ้านอุแบ ต.ยะต๊ะ อ.กรงปินัง หมู่ 2 บ้านตะโล๊ะซูแม ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง หมู่ 4 บ้านกีเยาะ ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง และหมู่ 5 บ้านแปแจง ต.สะเอะ อ.กรงปินัง ไปแล้วนั้น
.
ขณะที่ นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวว่า “ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่า วันนี้ยะลาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 ราย ส่วนที่ ต.บาลอ นั้นมีอีกประมาณ 10 คนที่ยังรอผลยืนยันจากการตรวจ จึงเป็นที่มาของการที่จะต้องมาทำการคัดกรองเชิงรุกในหมู่บ้าน และทางทีมสอบสวนโรคกำลังหาอยู่ว่าต้นตอมาจากที่ใด แต่มีความเชื่อว่ามีการเชื่อมโยงกับการทำกิจกรรมเปิดปอซอของผู้ที่ติดเชื้อ
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวเพิ่มติมว่า สาเหตุของการแพร่ระบาดที่ อ.รามัน ขณะนี้เป็นในลักษณะของการเกิดติดเชื้อกับคนใกล้ชิดมากขึ้น คนที่แข็งแรง คนที่มีการเคลื่อนไหว สามารถไปไหนมาไหนได้ ทำกิจกรรมได้ อันนี้เป็นสิ่งที่เรากำลังกังวลเพราะเริ่มนำเชื้อเข้าไปในบ้าน คือ พบผู้ป่วย 1 ราย การกระจายของเชื้อก็จะมาก ดังนั้น สาธารณสุขจึงต้องมีการขีดวงในการค้นหาให้กว้างขึ้น ส่วนการคัดกรองเชิงรุกวันนี้นั้นจะมีชาวบ้านจาก ม.1 และ ม.2 บางส่วนที่เข้ามาคัดกรองคาดจะใช้ระยะเวลา 1-2 วัน”(อ้างอิงจาก สวท.ยะลา)ทำให้ยะลาร่วมมือกันระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดกับประธานกกอ.ในประเด็นศาสนกิจ และเน้นเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เป็นความก้าวหน้าอีกประการในการประกาศซึ่งได้รับการตอบรับจากโลกโซเชี่ยลของมุสลิม เพราะไม่ประกาศเหมารวมทั้งจังหวัดเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ อย่างก็แล้วแต่ฝากคนพื้นที่เสี่ยงอย่าข้ามไปปฏิบัติศาสนกิจในที่ไม่เสี่ยง เพราะอาจจะสร้างความเดือดร้อนในภาพรวม ในขณะที่โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้จากมาเลเซียมีโอกาสเข้าชายแดนภาคใต้หากพวกเขาข้ามแดนชายแดนมาเลเซียกับชายแดนภาคใต้ตามที่หมอยงออกมาเปิดเผย
(อ่านเพิ่มเติมใน
https://mgronline.com/uptodate/detail/9640000041798?fbclid=IwAR0cwAlh4ebkzm-u2LpMf6RsKxORUC5UAVZPgMIauFEuvOCURWoEjWvPbyI)ในขณะที่อาจารย์รุสนันท์ เจ๊ะโซ๊ะ จากมหาวิทยาลัยมาลายา ประเทศมาเลเซียที่ได้ให้ข้อมูลผ่านเฟสบุ๊กว่า “ข้อมูลล่าสุด 2/5/2021 โควิดสายพันธุ์อินเดีย แอฟริกาใต้ ยูเค (อังกฤษ)ไนจีเรีย ในมาเลเซีย โดย
Dr Adham รมต.กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ได้สรุปตัวเลขสะสมทั้งหมดมีผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์แอฟริกา (B.1.351) 48 ราย สายพันธุ์ UK (B.1.351 ) 8 ราย สายพันธุ์อินเดีย ( B.1.617) 1 ราย และสายพันธุ์ไนจีเรีย ( B. 1.525) 2 รายสายพันธุ์อินเดีย 1 รายที่พบล่าสุดเป็นชาวอินเดียที่เดินทางเข้ามาก่อนหน้านี้ ตรวจพบที่สนามบิน KLIA ในจุดคัดกรอง – ตอนนี้มาเลเซียระงับเที่ยวบินไปอินเดียทั้งขาเข้าและขาออกแล้ว”
ท้ายนี้ ในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ขอให้พระเจ้าคุ้มครองคุณหมอ พยาบาล และทีมบุคลากรทางการแพทย์รวมทั้งทุกท่านให้แข็งแรง และเป็นกำลังใจหลักที่แข็งแรงให้พ้นวิกฤตินี้ไปได้ด้วยดี”
อย่างไรก็แล้วแต่ ผศ.ดร.ชลิตา บัณทุวงศ์ ไม่เห็นด้วยในข้อสังเกตหมอไทย โดยแสดงทัศนะว่า “ตั้งแต่การเกิด Covid-19 รอบแรกแล้วที่ #แรงงานข้ามแดนไทยมาเลเซีย จากชายแดนใต้ตกเป็นจำเลยของรัฐและสังคมว่าเป็นผู้นำเชื้อโควิดมาแพร่ในประเทศ ทั้งที่ความจริงแล้วตัวเลขแรงงานที่ติดเชื้อจากมาเลเซียรอบแรกแทบไม่มีเลย แม้แต่โควิดรอบนี้เองก็ตามก็มีน้อยมากๆ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรอบนี้ของ จชต. มาจากการแพร่ระบาดในเรือนจำนราธิวาสและจากสถานบันเทิงในเขตเมืองปัตตานีเป็นหลัก (แถมยังมีปัญหาเรื่องรัฐปกปิด timeline หรือ “timeline ทิพย์” ด้วย)การที่แรงงานข้ามแดนไทย-มาเลเซียถูกกล่าวหาเช่นนี้อยู่ตลอดเวลา เกี่ยวข้องอย่างมากกับอคติที่รัฐและคนไทยส่วนใหญ่มีต่อพวกเขา อคติเช่นนี้ถูกผลิตซ้ำอีกครั้งเมื่อ #หมอยง_ภู่วรวรรณ โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับ #ไวร้สโควิด19สายพันธุ์แอฟริกา ในมาเลเซีย อันอาจจะเป็นข้อมูลที่อาจจะคลาดเคลื่อนหากเปรียบเทียบกับข่าวต่างๆ ที่ อ.รุสนันท์ เจ๊ะโซ๊ะ Rosenun Chesofกรุณาสรุปมาและได้เขียนไปถามหมอยงแล้วในสเตตัสของเขา แน่นอนว่า การลักลอบข้ามพรมแดนธรรมชาติเป็นเรื่องที่ผิด แต่รัฐก็จะต้องมีวิธีในการจัดการหาทางรับมือที่ดีและช่วยโอบอุ้มคนเหล่านี้ ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีฐานะยากจนและต้องไปดิ้นรนทำงานหาเลี้ยงที่อย่างลำบากและหลบๆ ซ่อนๆ ในประเทศมาเลเซีย”
“ขอส่งกำลังใจให้กับบุคลากรการแพทย์และทุกท่าน สู้ๆ ไปด้วยกัน”
“คุณหมอและพยาบาลที่รัก รวมทั้งทุกภาคส่วนอย่าลืมดูแลสุขภาพ”
“ขอส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์และทุกท่านที่อดทน เสียสละ ต่อสู้กับโรคโควิด-19 เพื่อคนไทยทุกคน ขอบคุณมากๆ พวกคุณคือฮีโร่ของคนไทย”
“Everything will be okay. I believe in you.”เหล่านี้กำลังใจที่ทุกภาคส่วนร่วมรณรงค์
7,982 total views, 4 views today
More Stories
ด่วน ! INC ออกแถลงการณ์ ต่อรัฐบาล ยกเลิกใช้ พรก.ฉุกเฉิน จังหวัดชายแดนภาคใต้ หนุนพูดคุยโต๊ะเจรจาสันติภาพ (มีคลิปแถลง)
แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะผู้บริหารทางการศึกษาเอกชน,ผู้บริหารมูลนิธิตาดีกา แดนใต้ ร่วมหารือแก้ปัญหาพื้นที่เพื่อสันติสุข เน้นย้ำ ใกล้ถึงถึงเดือนศิลอด ขอทุกฝ่ายจับมือ “รอมฎอนสันติ” ไม่เกิดเหตุรุนแรง เดือนอันประเสริฐ
กลุ่มพลังมวลชน ผู้นำศาสนา นักเรียน นักศึกษา รวมกว่า 500 คน ”รวมพลังต่อต้านความรุนแรง” ทุกรูปแบบ หน้าแฟลตตำรวจนราธิวาสจุดเกิดเหตุบอมบ์