มีนาคม 28, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

#วิถีรอมฎอนกับโควิดปีที่2 ปัญหาและความท้าทาย” กรณีจังหวัดสงขลา

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน


วันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 เวลา 17.30-18.30 น.ผู้เขียนได้เสวนาร่วมกับบาบออะหมัด แอเก็มนายกสมาคมอิหม่ามอำเภอจะนะ และรองสภาอุลามาอ์จังหวัดสงขลาใน
หัวข้อ “วิถีรอมฎอนกับโควิดปีที่2 ปัญหาและความท้าทาย”
สถานการณ์โควิดในจังหวัดสงขลายอดวันนี้เกือบสองร้อยคน เป็นจังหวัดหนึ่งเดียวในภาคใต้ที่ติดกลุ่มสีแดง ทำให้วันที่ 14 สำนักกรรมการอิสลามจังหวัดสงขลาประกาศให้ทุกมัสยิดงดละหมาดตะรอเวียะ ละหมาดวันศุกร์ และกิจกรรมเลี้ยงละศีลอด ตามประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรีก่อนหน้านี้ว่าหากจังหวัดใดมีผู้ติดเชื้อโควิดเกิน 50 คนต้องปฏิบัติตามมาตราการดังกล่าวอย่างเคร่งครัดกอร์ปกับเมื่อ15 เมษายน ทางสาธารณสุขจังหวัดสงขลาได้เปิดเผยtimeline ผู้ติดตามโควิดคนหนึ่งร่วมละหมาดที่มัสยิดหนึ่งในสิงหนครโดยไม่สวมแมสต์ (หน้ากากอนามัย) ทำให้คำประกาศสำนักจุฬาราชมนตรียิ่งสำคัญยิ่งที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดในเดือนรอมฎอนอันมีเกียรติ อย่างไรก็แล้วแต่ยังมีมุสลิมหลายท่านสะท้อนว่า คนติดโควิดมาจากคลับ บาร์ทำไมต้องปิดมัสยิดห้ามละหมาด
การสร้างความเข้าใจหลักศาสนาในยามวิกฤติคือความท้าทาย
การสร้างองค์ความรู้ด้านศาสนาและเข้าใจตัวบทในยามวิกฤติแก่สังคมมีความสำคัญมากและมีความท้าทายยิ่งโดยเฉพาะผู้นำศาสนา ผู้นำองค์กรมัสยิด
“ความเข้าใจที่เป็นบ่อเกิดแห่งปัญญาจึงเป็นเป้าหมายสูงสุดในอิสลามและเป็นพรอันประเสริฐของอัลลอฮฺที่ทรงประทานให้แก่บ่าวของพระองค์ นบีมูฮำมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) กล่าวไว้ความว่า “ ใครก็ตามที่อัลลอฮฺประสงค์ให้ความดีแก่เขา อัลลอฮฺจะทรงให้เขาเข้าใจในกิจการศาสนา” (รายงานโดย อัล-บุคอรีย์/71และมุสลิม/1037) ศาสนาในที่นี้ก็คืออิสลามอันหมายถึงวิถีชีวิตของมนุษย์ที่ครอบคลุมและครบวงจร” ในยามวิกฤติ หลักการอิสลามมีการอนุโลม แม้ละหมาดวันศุกร์ในภาวะปกติเป็นหน้าที่ การละหมาดตะรอเวียะที่มัสยิดในเดือนรอมฎอนช่วงปกติศาสนาหนุนเสริม แต่ในนมวิกฤติโควิดหากการรวมคนมากๆในพิธีกรรมทางศาสนาจะทำให้โอกาสเชื้อโควิดยิ่งขยายอันจะนำไปสู่อันตรายทวีคูณต่อผู้คนศาสนาก็อนุโลมไม่ต้องปฏิบัติ

โดยที่อัลลอฮฺ ซุบหานาฮูวาตาอาลาได้ตรัสว่า

ولا تلقوا بأيديكم إلى التهلكة

“พวกเจ้าอย่าได้นำพาตัวเองไปสู่ความหายนะ”

ในขณะที่ผู้นำมุสลิมอย่างจุฬาราชมนตรีประกาศให้ปฏิบัติก็เป็นหน้าที่สำหรับมุสลิมทุกคนต้องปฏิบัติตามหากหลีกเลี่ยงก็จะเป็นบาปอีกต่างหาก อีกประการมุสลิมในฐานะพลเมืองไทยที่อยู่ในชุมชนก็ต้องมีภาระหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อสังคมมิฉะนั้นก็จะสร้างความเสื่อมเสียต่อศาสนาอิสลามในที่สุด
สิ่งเหล่านี้เป็นความท้าทายใหญ่โดยเฉพาะผู้นำมัสยิดทุกมัสยิดที่ต้องร่วมแก้ปัญหาและสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากโควิดกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะการใช้หลักการชูรอ(ปรึกษาหารือ)จนเป็นหุกมปากัต หรือธรรมนูญชุมชน
อนึ่งจากการลงพื้น(นักข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ)ที่ติดตามบรรยากาศตามมัสยิด และสุเหร่าต่างๆ ใน จ.สงขลา ทุกแห่งได้ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำสั่ง โดยเฉพาะในวันนี้ซึ่งงดละหมาดวันศุกร์ หรือละหมาดญุมอะฮ์เป็นวันศุกร์แรก พร้อมกับทำความสะอาดมัสยิด และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19
ในขณะเดียวกันนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะเปิดเผยต่อผู้เขียนว่า “ผลการตรวจโควิดมหกรรมมวยจะนะออกมาแล้ว…หลังลุ้นกันสุดๆทุกฝ่ายกล่าวคือจากการที่ทีมโรงพยาบาลจะนะและสาธารณสุขอำเภอจะนะ ร่วมตรวจกลุ่มเสี่ยงที่เข้าร่วมกิจกรรมมหกรรมมวย จำนวนทั้งสิ้น 258 ราย และส่ง lab ไปตรวจที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จากการรอคอยที่ยาวนาน เมืองจะนะเงียบไปทั้งเมือง คนจะนะลุ้นกันอย่างหนัก

ผลอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว เป็นตารางระบุผลทั้ง 258 คน ผลระบุชัดครับว่า “ Undetectable” หรือ “ไม่พบผู้มีสารพันธุกรรมของไวรัสโควิดทั้ง 258 คน”

นับว่าเป็นข่าวดียิ่ง ต่อชาวจะนะ จังหวัดสงขลารอดไปอีกเปราะ ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดจากกรณีมหกรรมมวยรวมพลคนจะนะ ”

สำหรับการตรวจเชื้อโควิดครั้งนี้ จัดขึ้นในวันที่ 15 เมษายน ห่างจากวันที่จัดมวยในวันที่ 8 เมษายน อยู่ที่ 7 วัน ซึ่งหากมีการติดเชื้อก็มีโอกาสสูงที่จะตรวจพบเชื้อ (ปกติหากไม่มีอาการจะตรวจหลังจากสัมผัสสถานที่เสี่ยง 5 วัน) ดังนั้นจึงค่อนข้างสบายใจได้ว่า “จะนะยังปลอดเชื้อ”

อย่างไรก็ดี ไม่มีอะไร 100% ทางการแพทย์ ดังนั้น ผู้ที่มีความเสี่ยงได้เข้าไปมีภารกิจหรือเชียร์มวยในสนามมวย ก็ควรเคร่งครัดใส่หน้ากาก ขยันล้างมือ งดเข้าที่ชุมชนหนาแน่น จนครบ 14 วันคือวันที่ 22 เมษายน 2564 เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของชุมชนครับ

ส่วนกลุ่ม VIP ที่มาจากกรุงเทพ หรือแดนไกล รวมทั้งนักมวยและพี่เลี้ยง ซึ่งเสี่ยงสูงมากไม่แพ้กลุ่มกองเชียร์จะนะ ได้ไปตรวจหาเชื้อโควิดบ้างหรือไม่ ผลเป็นอย่างไร ผมเองไม่มีข้อมูล อันนี้ทาง ศอ.บต.รับภารกิจไปติดตามแล้ว คาดว่าจะแจ้งผลต่อสาธารณะเร็วๆนี้

หมายเหตุฟังย้อนหลังใน
https://www.facebook.com/jariyathamsuksaschool/videos/934231180670009/

 643 total views,  2 views today