เมษายน 18, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

#ใคร จะรับผิดชอบ IO ชายแดนใต้โดยใช้ภาษี ประชาชน หากทำร้ายประชาชน?

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

จากข่าวเฟซบุ๊กสั่งปิดบัญชีและเพจที่ทาง กอ.รมน. ใช้ทำไอโอ หลังพบว่ามีพฤติกรรมสวมรอยเพื่อปล่อยข้อมูลหนุนกองทัพ กล่าวคือ

วันที่ 3 มี.ค. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า เฟซบุ๊ก (Facebook) ได้ลบ 185 บัญชีและกลุ่มที่ตรวจจับได้ว่าสมัครเข้ามาเพื่อปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือ ไอโอ โดยมีส่วนเชื่อมโยงกับกองทัพไทย นับเป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊กถอดบัญชีในไทยที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลออก เมื่อดูรายงานพบว่า เฟสบุ๊ก ได้ยก 3 ตัวอย่างเพจIO (ความจริงปัตตานีบ้านฉัน รู้ทันขบวนการและทันข่าวสามจังหวัดชายแดนภาคใต้) ที่ได้ดำเนินการดังกล่าว
รอมฎอน ปันจอร์ ให้ทัศนะต่อเรื่องนี้ผ่านเฟสบุ๊ก ว่า “มีรายละเอียดน่าสนใจพร้อมตัวอย่างประกอบ 3 เพจ เฟสบุ๊กระบุว่าเนื้อหาส่วนใหญ่นั้นเกี่ยวข้องกับ “…การสนับสนุนทหารและสถาบันกษัตริย์ไทย เรียกร้องการไม่ใช้ความรุนแรง อัพเดทสถานการณ์โควิดในพื้นที่ ความรุนแรงที่กล่าวหาว่ามาจากกกลุ่มก่อความไม่สงบ และวิพากษ์วิจารณ์พวกแบ่งแยกดินแดนและขบวนการปลดปล่อย”

ใน 185 รายการมี 77 บัญชี 77 เพจ 18 กลุ่ม และ 18 บัญชีอินสตาแกรม ทั้งหมดนี้อยู่ในเข้าข่ายที่เฟสบุ๊คระบุว่ามี #พฤติกรรมปลอมแปลงที่เชื่อมประสานกัน หรือ Coordinated Inauthentic Behavior ซึ่งแม้ว่าคนที่ใช้งานบัญชีเหล่านี้จะพยายามปกปิดตัวตนและการเชื่อมประสานระหว่างกัน แต่การสืบสวนของเฟสบุ๊คก็ไปพบต้นตอว่าทั้งหมดนี้เชื่อมโยงไปยัง กอ.รมน.นั่นเอง

ข้อมูลระบุไปถึงขั้นว่าทั้งหมดนี้มีคนติดตามซ้ำ ๆ กันถึงกว่า 7 แสนบัญชี และที่สำคัญใช้งบประมาณ 350 ดอลลาร์ในการยิงแอดด้วย (ซึ่งเงินนี้เป็นภาษีประชาชนแต่กลับมาทำร้ายประชาชน)

ตัวอย่างที่ยกมานี่ก็น่าสนใจครับ โดยเฉพาะการต่อต้านแนวคิด #ดารุลฮัรบี ซึ่งทางการไทย (โดยเฉพาะ กอ.รมน.) หมกหมุ่นเอามาก ๆ เพราะเป็นปมปัญหาที่แก้ไม่ตกตลอดมา แนวคิดนี้ให้ความชอบธรรมในการปลดปล่อยปาตานีเป็นเอกราช พวกเขาเลยมุ่งโจมตีซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นเวลาหลายปี ส่วนเอ็นจีโอนั่นเป้าโจมตีมาโดยตลอดอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ทหารมองอย่างกับขี้ นั่นก็เพราะประเด็นเหล่านี้ไปจำกัดอำนาจอันล้นเกินของพวกเขา และเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะ #ยกระดับ ปัญหาชายแดนใต้ไปสู่เวทีระหว่างประเทศ

ซึ่งพวกเขากังวลขี้ขึ้นสมองมาโดยตลอด

รอบนี้เลยโดยสอยไปทั้งยวง เรียกได้ว่าขาดเครื่องมือในยุทธการข้อมูลข่าวสารไปล็อตใหญ่ทีเดียว รอฟังคำแถลงจากพี่ ๆ นะครับ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า – เพจใหม่

ผู้ที่สนใจดูรายงานฉบับเต็มของเฟสบุ๊ค ไปที่นี่ครับ https://about.fb.com/wp-content/uploads/2021/03/February-2021-CIB-Report.pdf”
หากผู้อ่านติดตามเรื่องนี้พบว่าในปีที่ผ่านมาส.ส.วิโรจน์ จากก้าวไกล อภิปรายในสภาผู้แทนราษฏร (และผู้เขียนเคยเขียนบทความในเรื่องนี้ https://www.matichonweekly.com/column/article_284308)
ในขณะที่วันนี้ (4 มีนาคม2564) นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ และนายวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ และทีมทนายความ ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้มีคำสั่งให้กองทัพบกหยุดการทำปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือ ไอโอ กับประชาชน หลังจากที่ผ่านมาพบว่ามีนักวิชาการ นักกิจกรรมที่เห็นต่างทางการเมืองมีการถูกกระทำปฏิบัติการไอโอของกองทัพบกในช่วงที่มีกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมาจำนวนมาก

นายยิ่งชีพ ระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน รวมทั้งเป็นการทำที่มุ่งโจมตีกลุ่มที่เห็นต่างทางการเมืองโดยใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย และถือว่าเป็นการนำงบประมาณของรัฐไปใช้อย่างไม่เหมาะสม จึงร้องขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งให้กองทัพบกหยุดปฏิบัติการดังกล่าว แต่ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหาย เนื่องจากเห็นว่าเงินที่จะนำมาจ่ายให้ก็ถือว่าเป็นเงินของรัฐซึ่งถือว่ามาจากภาษีของประชาชน(อ้างอิงจาก https://news.thaipbs.or.th/content/302083)
#เมื่อความจริงปรากฏ จึงขอเรียกร้องผู้รับผิดชอบสูงสุดที่อยู่เบื้องปฏิบัติการ IO นี้แสดงความรับผิดชอบทั้งทางวินัยและอาญา ในขณะที่ประชาชนและสื่อมวลชนกำลังติดตามต่อเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
อนึ่ง ล่าสุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอต่อเรื่องนี้ ว่า “ได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมเข้าไปตรวจสอบแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันในสภาฯ ก็ให้ไปดูว่าเป็นอย่างไร หลายอย่างก็เป็นประเด็นทางการเมือง ตนก็ถามว่าวันนี้เฟซบุ๊คทำเช่นนี้ก็มีหลายทางด้วยกัน เราก็ทราบดีอยู่แล้วต้องทำให้เกิดความชัดเจน เคลียร์ให้ชัดให้ได้ “

ในขณะที่ กอ.รมน.ออกมาชี้แจงแล้ว ว่า “เฟซบุ๊กปิด 185 บัญชีเป็น ‘บัญชีส่วนบุคคล’ ยืนยันไม่มีนโยบายทำ IO” โดย
กอ.รมน. ไม่ทราบถึงการถูกถอดบัญชีเฟซบุ๊กตามที่เป็นข่าว เนื่องจากการใช้งานของเฟซบุ๊กเป็นบัญชีส่วนบุคคล ไม่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กร (กอ.รมน.) การลบบัญชีจากเฟซบุ๊กถือเป็นการลบบัญชีส่วนบุคคล ปัจจุบันเฟซบุ๊กของ กอ.รมน. ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
.
กอ.รมน. ไม่มีนโยบายให้หน่วยดำเนินงานตามที่เป็นข่าว จากนโยบายของ กอ.รมน. มีหน้าที่เป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนประสานงานในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความเดือดร้อน ซึ่ง กอ.รมน. ได้ยึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติงานมาโดยตลอด
.
พล.ต. ธนาธิป ระบุว่าการใช้งานโซเชียลมีเดียของ กอ.รมน. มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมผลงานของ กอ.รมน. สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรับทราบความต้องการของประชาชนเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ตรงตามความต้องการ และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล
.
โดยปัจจุบัน กอ.รมน. ได้มีคอลเซ็นเตอร์ 1374 รับแจ้งเหตุความมั่นคงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้การดำเนินชีวิตของประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
อ้างอิงจาก https://thestandard.co
#TheStandardNews

____________________________

 1,043 total views,  2 views today

You may have missed