สกู๊ปพิเศษ..SOUTH : รอง ปธ.กอจ.นรา ชี้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ถือว่าทำได้ไม่บาป เป็นการรักษาโรคภัยอย่างหนึ่งที่อิสลามส่งเสริม

แชร์เลย

หนุ่มใต้ รายงาน..

.
สถานการณ์การระบาดไววรัสโควิด-19 ในประเทศไทยมีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนทุกที่ทั่วประเทศต่างต้องเฝ้าระวังตัวเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ให้ได้ และมีข่าวดีสำหรับประเทศไทยเอง ที่ทางรัฐบาลกำลังเร่งจัดสรรค์ จัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างที่ทุกคนเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด แม้กระทั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จากได้รับข้อมูลยืนยันจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสว่า จะได้วัคซีนมาใช้กันภายในเดือนมิถุนายน 2564 นี้แล้ว พร้อมทั้งยืนยันเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนที่จะมาใช้ประชาชนในประเทศด้วย ขณะเดียวกันหากมองในแง่ของหลักการศาสนาอิสลามแล้ว วัคซีนที่จะเป็นตัวสร้างเกราะ สร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันไวรัสโควิด-19 นี้ พี่น้องมุสลิมสามารถฉีดเพื่อใช้ในการป้องกันโควิด-19 นี้ ถือว่าได้รับการอนุมัติหรือไม่ เพราะมีพี่น้องมุสลิมบางพื้นที่ บางแห่งยังเข้าใจความเชื่อที่คาดเคลื่อน หรืออาจจะได้รับข้อมูลมาผิดหรือไม่อย่างไร

ด้านนายอับดุลอาซิซ เจ๊ะมามะ รองประธานคณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดนราธิวาส และเป็นกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า วัคซีนที่ทางนักวิจัยหลายประเทศกำลังเร่งพัฒนา เพื่อมาใช้สร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน ในป้องกันไม่ให้โควิด-19 ระบาดไปมากกว่านี้ ถือเป็นเนี๊ยอฺมัตอย่างหนึ่งที่พระเจ้าให้ขึ้นมาแก่มวลมนุษย์ ที่กำลังตกในสภาวะตึงเครียดใกล้ตัวของแต่ละคนทั่วโลก ว่าเราเองนั้นจะติดเชื่อไวรัสโควิด-19 นี้เมื่อไหร่ได้บ้าง การมีวัคซีนเพื่อมาป้องกันไวรัสโควิด-19 นี้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ทุกคนได้ใช้ เพื่อปกป้องตัวเองได้ และถือเป็นการรักษาโรคอย่างหนึ่งที่อิสลามส่งเสริมให้เรานั้นทำมันได้ ถือเป็นที่อนุญาตสำหรับการฉีดวัคซีน เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่อพี่น้องมุสลิม

.
ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า หากวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาถึงแล้วจะสมัครใจที่จะไปฉีดวัคซีน เพื่อได้ป้องกันตัวเองรวมถึงครอบครัวคนรอบข้างอย่างสบายใจ และเต็มใจที่จะรักษาโรคเหล่ากับยาหรือวัคซีนที่ดีที่สุด และเราจะปลอดภัยห่างไกลจากไวรัสตัวนี้ไปพร้อมๆกัน

.
กรณีนี้จุฬาราชมนตรี ผู้นำศาสนาอิสลามของประเทศไทยเคยมีคำวินิจฉัย (ฟัตวา) ในปี 2556 ต่อประเด็นคำถามที่ว่า “การให้วัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ สามารถกระทำได้หรือไม่ ?” ซึ่งใจความสรุปว่า “ได้” เพราะ “…เป็นการป้องกันและรักษาไว้ซึ่งความสมบูรณ์ของร่างกาย ที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้… และอัลลอฮ์ทรงใช้มนุษย์ให้ดูแลตนเองให้มีสุขภาพลานามัยที่สมบูรณ์และให้หลีกห่างภยันตรายอย่างสุดความสามารถ…” เป็นคำตอบในแง่ที่ว่าการฉีดวัคซีนก็ถือเป็นการป้องกันและรักษาโรคอย่างหนึ่ง โดยสภานิติศาสตร์อิสลามนานาชาติในองค์การที่ประชุมอิสลาม (OIC) ซึ่งได้รณรงค์ และส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกร่วมมือ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำจัดโรคต่างๆ ให้หมดไปด้วยเช่นกัน
#หนุ่มภาคใต้