พฤษภาคม 4, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

สามพ่อลูกสัญชาติมาเลเซียขอความเมตตารัฐบาลมาเลเซียช่วยพวกเขากลับหลังจากตกค้างที่ยะลากว่า 9 เดือน

แชร์เลย

ตูแวดานียา มือรีงิง รายงาน


ยะลา (28 ธันวาคม 2563) ปัญหาชาวมาเลเซียที่ติดค้างในประเทศไทยยังมีให้เห็นอีกจำนวนหนึ่ง โดยเฉพะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาสและสงขลา ด้วยเหตุผลหลายประการด้วยกันเช่น กลับมาเยี่ยมญาติ เยี่ยมบ้านภรรยา ทำธุรกิจ เรียนหนังสือ และมาท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่ได้กลับมาเลเซียไปแล้ว แต่ยังมีคนมาเลเซียจำนวนหนึ่งที่ยังตกค้างและต้องการกลับไปยังประเทศมาเลเซียเช่นกรณีสาวไทยแต่งงานกับชายมาเลเซียภรรยาพาลูกสัญชาติมาเลเซียกลับไทยเพื่อจ็อบพาสปอร์ตแต่สามีไม่ได้เดินทางมาด้วยถึงเวลาอยากกลับไปหาสามี บางคนมาทั้งครอบครัวโดยภรรยาเป็นคนไทยแต่ภรรยาไม่มีวิซ่าพำนักในประเทศมาเลเซียต้องกลับมาจ็อบพาสปอร์ตทุกเดือนสามีและลูกๆ ตามมาด้วยถึงเวลาเปิดเทอมลูกๆอยากกลับไปเรียนต่อ บางคนเจ็บป่วยต้องการกลับไปรักษาที่ประเทศมาเลเซียเนื่องจากมีสิทธิในการรักษาฟรี นี่คือเรื่องปกติของคนที่อาศัยตามตะเข็บชายแดนไทยมาเลเซียที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน


ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีกรณีสามพี่น้องสัญชาติมาเลเซียอายุระหว่าง 4-12 ปี ได้เดินทางเข้าประเทศไทยพร้อมกับแม่ชาวไทยตังแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 และติดค้างที่รามัน ยะลาเป็นเวลากว่า 9 เดือนและได้เดินทางกลับไปยังมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อยเมืองวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นสถานกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา กอ.รมน.ภาค 4 สน. ฉก.ในพื้นที่ และที่สำคัญจากภาคประชาสังคมในพื้นที่สร้างความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นถึงแม้เพียงระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม
ยังมีอีกกรณีสามพ่อลูกชาวมาเลเซียที่ตกค้างกว่า 9 เดือนที่โกตาบารู รามัน ยะลาเช่นกัน ผู้สื่อข่าวได้ไปพบนายอิดรีส บิน มะสามัน 53 ปี นางสาวสือเมาะ เจ๊ะเลาะ 49 ปี เป็นคนโกตารู รามัน ในช่วงโควิคระบาดได้อาศัยที่บ้านน้องสะใภ้ที่บ้านปูลาตีงี เขตเทศบาลโกตาบารู รามัน นายอิดรีส เขาเป็นชาวอำเภอจิตรา รัฐเคดา ได้แต่งงานกับนางสาวสือเมาะ เป็นเวลา 18 ปีแล้วและได้ลูกสาวสองคนคือ ดญ.นูรอาลียา อาลีซา 12 ปี กำลังศึกษาที่เกอบังซาอันสือรีมูดาชั้น ป.6 และนส.นูรอาตีกะฮ์นัจวา 16 ปีกำลังเรียนที่โรงเรียนมัธยมตึงกูอินดราปูรีชั้น ม. 4
นายอิดรีสเริ่มเป็นโรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตหลังจากที่อาการโรคเบาหวานและความดันกำเริบเมื่อหลายเดือนก่อนเขาอยู่ได้ด้วยการกินยาบรรเทาอาการเท่านั้น
“เรากลับมาเยี่ยมญาติและพาลูกๆมาด้วยเพราะเป็นช่วงโรงเรียนปิดภาคเรียนโดยไม่คิดว่ากลับมาตั้งแต่ วันที่ 16 มีนาคม 2563 แล้วก็ติดค้างนานจนถึงทุกวันนี้ ดิฉันต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษาตัวสามีและเงินที่เก็บไว้เริ่มหมด ดิฉันจำเป็นต้องจำนำรถยนต์ส่วนตัวให้กับน้องชายเพื่อนำเงินรักษาสามีที่ป่วย ตอนนี้อยู่ได้ด้วยเงินขายกล้วยทอดวันละ 200-300 บาท” นางสาวสือเมาะกล่าว


นางสาวสือเมาะฮ์กล่าวต่ออีกว่า ตนเองและสามีได้เช่าร้านอาหารอยู่ในเคดาห์ซึ่งเป็นทีมาของรายได้หลักของครอบครัว ส่วนสามีทำงานรับจ้างเลี้ยงวัวตามบ้าน
“ตอนนี้ร้านอาหารมีญาติโทรมาบอกว่าร้านถูกคนร้ายเข้าไปขโมยของในร้านเกือบหมด ไม่รู้ว่าหากได้กลับไปจะอย่างไรกับร้านอาหารเหมือนกัน” เธอกล่าวด้วยน้ำตลคลอเบ้า
เธอเล่าให้ฟังว่าเธอและลูกสาวได้เดินทางไปยังสถานกงสุลมาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านเพื่อทำเรื่องขอกลับมาเลเซียแต่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าทีกงสุลว่ากลับได้เฉพาะคนมาเลเซียเท่านั้น ส่วนแม่เป็นคนไทยไม่สามารถเข้ามาเลเซียได้ โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้ทางออกหรืออธิบายทางออกให้กับเธอและลูก เธอจึงกลับไปด้วยความผิดหวัง
แต่หลังจากที่เธอทราบข่าว่าจะมีเจ้าหน้าที่กงสุลมาเลเซียเดินทางมาเยี่ยมบ้านสากีนาและลูกๆที่โกตาบารู รามันในวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา เธอและลูกสาวคนเล็กมารอพบและร้องเรียนเรื่องนี้ให้กับกงสุลมาเลเซียว่าตอนนี้สามีป่วยหนักไม่สามารถขยับตัวได้อยากให้ทางการมาเลเซียให้การช่วยเหลือพาสามีและลูกๆ กลับมาเลเซีย
“ผมอยากขอความเมตตาและความเห็นใจจากรัฐบาลมาเลเซียช่วยพาผมและภรรยาผมกลับไปมาเลเซียด้วยเนื่องจากผมจำเป็นต้องมีคนดูแล” นายอิดรีสกล่าวด้วยน้ำตาในขณะที่นอนติดเตียงไม่สามารถขยับตัวได้
ในขณะที่ลูกสาวทั้งสองคนเล่าให้ฟังว่าตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมาเธอเรียนหนังสือผ่านระบบออนไลน์และเธออยากกลับบ้านเพื่อไปเรียนหนังสืออีกครั้งในวันที่ 20 ม.ค 64 ซึ่งเป็นวันเปิดเทอมใหม่
“หนูติดอยู่ที่นี่ 9 เดือนแล้ว หนูอยากกลับไปเรียนหนังสือและอยากพาพ่อไปรักษาตัวโดยเร็วและอยากขอความเมตตาจากรัฐบาลมาเลเซียช่วยพาแม่หนูไปด้วยเพราะพ่อต้องการคนช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดหนูและน้องต้องเรียนหนังสือ”นูรูลอาตีกะห์นัจวา กล่าว

 526 total views,  2 views today

You may have missed