พฤศจิกายน 26, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

นักการเมืองใหญ่มาเลเซียยังแย่งตำแหน่งทางการเมือง ท่ามกลางประเทศกำลังเผชิญโควิดรอบใหม่:ข้อครหาที่มีต่อนักการเมือง?

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด และสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

(8 ตุลาคม2563 ) Astroawaniสื่อดังมาเลเซีย– ผู้นำฝ่ายค้านมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม แถลงว่า “เขาเตรียมเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ ชาฮ์แห่งมาเลเซียวันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม 2563
เพื่อกราบทูลว่า เขามีเสียงข้างมากในรัฐสภาอยู่ในมือเพื่อต้องการขึ้นเป็นผู้นำมาเลเซียคนใหม่แทน มูห์ยิดดิน ยัสซิน

(https://www.astroawani.com/berita-malaysia/saya-diperkenan-menghadap-ydp-agong-13-oktober-anwar-262701?fbclid=IwAR2CfNhyivbnj5dbF2o8abKLhcFDWlzllkC907Ph7oVzfFQ3nAVdDPvC_xQ) ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19ยอดผู้ติดเชื้อระบาดเพิ่มขึ้นต่อวันสูง ซึ่งทำให้ การเคลื่อนไหวของอันวาร์ครั้งนี้ ถูกตอบโต้จากฝ่ายรัฐบาล(โปรดดู
https://www.facebook.com/11726505964/posts/10157550927640965/?vh=e&extid=0&d=n)
ส่วนมุฟตีรัฐปีนังขอให้ทุกมัสยิดร่วมละหมาดฮายัตให้มาเลเซียปลอดภัยจากโควิด
(
https://www.astroawani.com/berita-malaysia/masjid-surau-di-pulau-pinang-diminta-adakan-solat-hajat-mufti-262810?fbclid=IwAR3QJoqJzqprjXDcQmf13_lIhnjqXb_ZbPKT3VNTYuqklAWHuxh0HT2Efhw)
สำหรับก่อนหน้านี้ของการเคลื่อนไหวอันวาร์ต่อเรื่องนี้กล่าวคือ
23 ก.ย.2563สื่อมาเลเซียและชายแดนภาคใต้โฟกัสไปที่อันวาร์ อิบรอฮีม ผู้นำพรรคฝ่ายค้านมาเลเซีย แถลงข่าวระบุว่าขณะนี้มีเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.ในรัฐสภามากเพียงพอที่จะโค่นล้มรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน และจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นบริหารประเทศแทน

นอกจากนี้ อันวาร์ ยังระบุว่า กำลังรอเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดี เพื่อกราบบังคมทูลของพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่อย่างเป็นทางการ หลังจากกำหนดการเข้าเฝ้าเดิม เมื่อช่วงกลางวันของวันดังกล่าวได้ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากพระองค์ต้องทรงเข้ารับการรักษาที่ศูนย์โรคหัวใจ

ขณะที่มูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ออกแถลงการณ์พร้อมประกาศว่า
“ยังคงดำรงตำแหน่งผู้นำมาเลเซียโดยชอบธรรมและไม่หวั่นไหวกับข้อกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยของอันวาร์ อิบรอฮีมเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจะต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและรัฐธรรมนูญของประเทศ และขณะนี้พรรครัฐบาลยังมีความแข็งแกร่งอยู่”สอดคล้องกับหะยีฮาดีผู้นำพรรคPAS ที่จะยังคงสนับสนุนมูห์ยิดดิน ยัสซิน และปฏิเสธว่าไม่มีส.ส.คนใดหนุนอันวาร์
24 กันยายน 2563

สมเด็จพระราชาธิบดีมาเลเซีย”จะไม่ให้ใครเข้าเฝ้าเป็นเวลา1สัปดาห์ เพราะจะเสด็จไปประทับที่โรงพยาบาล หลังจาก”อันวาร์ อิบราฮิม”แกนนำฝ่ายค้าน จะเข้าเฝ้าเพื่อทูลขอพระราชานุญาตจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ขณะที่”นายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน”ของมาเลเซีย ยังคงไม่หวั่นไหว
เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังมาเลเซีย แจ้งว่า คณะแพทย์ถวายคำแนะนำให้ สมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่าน อับดุลลาห์ ประทับที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อสังเกตพระอาการ ดังนั้น ในระหว่างนี้จะไม่ให้ผู้ใดเข้าเฝ้าทั้งสิ้น
Hara Shitaro นักวิชาการมลายูศึกษา ให้ทัศนะว่า “
หากติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิดพบว่า มีการชิงไหวชิงพริบด้วยแถลงการณ์สำคัญสามฉบับเกี่ยวกับการเมืองมาเลเซีย”
ฉบับแรกจากนายอันวาร์ อิบราฮิม (https://web.facebook.com/photo?fbid=10208485417648894&set=a.1116426326789) ตามด้วยแถลงข่าวจากมุฮ์ยิดดีนนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน (https://web.facebook.com/photo?fbid=10208486211828748&set=a.1116426326789) และจากฝ่ายพระราชวังแห่งชาติ (https://web.facebook.com/photo?fbid=10208486324231558&set=a.1116426326789)

ดร.มหาเธร์ มุฮัมมัด ให้ทัศนะว่า:”นี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่อันวาร์ประกาศแบบนี้ “
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “การเล่นเกมส์ทางการเมืองเเย่งชิงตำเเหน่งผู้นำประเทศของเล่าผู้อาวุโสทางการเมืองไม่ว่า อันวาร์ อิบรอฮีม มหาเธร์ และเครือข่ายนายิบและนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินครั้งนี้ส่งผลให้ประชาชนทั่วไปมาเลเซียเริ่มเอื่อมระอานักการเมืองเหล่านี้ โดยเฉพาะช่วงวิกฤติโควิด ดังที่นักวิชาการมาเลเซียวิเคราะห์เช่นอาจารย์รุสนันท์ เจ๊ะโซ๊ะ นักวิชาการชาวไทยเชื้อสายมลายูปาตานีปัจจุบันเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมาลายา ประเทศมาเลเซียกล่าวว่า
“การเมืองน่าเบื่อ แต่ประชาชนเขาฉลาดพอไม่ตะอ์ซูป(บ้าคลั่งตาม)ต่อนักการเมือง แต่ยังไงก็มุห์ยิดดีนก็เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปจนกว่าโควิดจะคลี่คลาย คนส่วนใหญ่ไม่อยากให้เปลี่ยนตัว แม้แต่คนจีน มลายูที่ไมไ่ด้ชอบมุห์ยิดดีน ก็ยังอยากให้เขาเป็นต่อ”
การแย่งชิงอำนาจของผู้อาวุโสทางการเมืองเหล่านี้ อาจส่งผลต่อดีต่อวัยรุ่น คนรุ่นใหม่
ทั้งนี้ อายุเฉลี่ยของนักการเมืองมาเลเซียอยู่ที่ราว 55 ปี ในขณะที่ที่ประชากรมาเลเซียจำนวน 32 ล้านคน มีอายุเฉลี่ยที่ 29 ปี
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เห็น

นายซัยยิด ซอดิค (Syed Saddiq bin Syed Abdul Rahman) อายุ 27 ปี
นักการเมืองรุ่นใหม่มาเลเซียตั้งพรรคการเมืองใหม่เพราะในอนาคตมาเลเซียอาจปกครองโดยคนรุ่นใหม่
ซึ่งเขาได้แรงบันดาลใจก่อตั้งพรรคจาก อนาคตใหม่ (ของไทย)อองมาร์ช(ฝรั่งเศส)
กล่าวคือ วันที่ 3 กันยายน 2563 รายงานว่า หนึ่งในนักการเมืองที่เด็กที่สุดของมาเลเซีย จะเริ่มการจัดตั้งพรรค ที่มีฐานเสียงเป็นคนรุ่นใหม่ในเดือนนี้ ด้วยความหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การเมืองในประเทศ ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของนักการเมืองรุ่นเก่าและธนกิจการเมืองมายาวนาน

นายซัยยิด ซอดิค (Syed Saddiq bin Syed Abdul Rahman)

กล่าวว่า พรรคที่ยังไม่มีชื่อของเขานั้นจะทำงานเพื่อสร้างความเท่าเทียมให้ผู้หญิงและคนรุ่นใหม่ในรัฐสภา พร้อมกับล้มล้างระบบเส้นสายทางการเมือง ที่นักวิจารณ์มองว่าเป็นบ่อนทำลายความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

“เราต้องการถอดโซ่ตรวนมาเลเซียออกจากการเมือง ประเภทที่ยึดการเงินและอำนาจเป็นหลัก และเติมพลังด้วยคนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจเป็นธรรม มีสติปัญญา และความเอาใจใส่ ซึ่งสามารถขับเคลื่อนมาเลเซียไปข้างหน้าได้”
นายซัยยิด ซอดิคเผยด้วยว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจในการตั้งพรรคจาก พรรคอองมาร์ชของ “เอ็มมานูเอล มาครง” ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และ พรรคอนาคตใหม่ของประเทศไทย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเขย่าวัฒนธรรมทางการเมือง ที่ขับเคลื่อนโดยนักการเมืองสูงวัยมานานหลายทศวรรษ
ถ้าจำกันได้ที่ผ่านมานายซัยยิด ซอดิค เริ่มมีชื่อเสียงในระดับประเทศ หลังร่วมมือกับ ดร.มหาเธร์ เพื่อขับไล่รัฐบาลในปี 2018 ก่อนที่เขาจะกลายเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่เด็กที่สุดของมาเลเซีย โดยได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนและกีฬา ภายใต้รัฐบาลของ ดร.มหาเธร์ อย่างไรก็ตาม มหาเธร์ให้สัมภาษณ์เมื่อหลังจากที่รู้ข่าวการตั้งพรรคใหม่นี้ว่าเขาไม่มั่นใจว่ากลุ่มของ ซัยยิด ซอดิค จะประสบความสำเร็จ เพราะแม้ว่าคนรุ่นใหม่จะเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ในหมู่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่ปัจจัยนี้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาชนะ
แม้ดร.มหาเธร์จะไม่เชื่อมั่นเขาและคนรุ่นใหม่แต่อย่าลืมว่า “
พลังเงียบของคนรุ่นใหม่ ที่ออกมาใช้สิทธิเลือกครั้งที่ผ่านมาทำให้พันธมิตรฝ่ายค้านปากาตัน ฮาราปัน ยัดเยียดความปราชัยให้กับพรรครัฐบาล ที่ครองอำนาจมากกว่าหกทศวรรษ และส่งผลให้ มหาเธร์
กลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุมากที่สุดในโลก ฟันเฟืองหลักที่ช่วยสร้างความสำเร็จของ ดร. มหาเธร์ ในการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซียที่ผ่านมา คือ วัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่มีเขาเป็น
หัวหน้าปีกยุวชนพรรคสหประชาชนมาเลย์ (Parti Pribumi Bersatu Malaysia) หรือ PPBM ผู้ถึงพร้อมด้วยรูปร่างหน้าตา สติปัญญา และ วาทศิลป์”

 982 total views,  4 views today

You may have missed