มีนาคม 29, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

นักศึกษา มอ.ปัตตานีจัดแฟลชม๊อบ ยื่น 4 ข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี พร้อมเรียกร้องให้อธิการบดีออกมารับผิดชอบ กรณีมีคำสั่งห้ามการจัดกิจกรรมทางการเมือง

แชร์เลย

สาเล็ม ครู ข่าว
ตูแวดานียา มือรีงิง ภาพ


ปัตตานี วานนี้ (23 ก.ค 63) เวลา 16.30 น. ที่ หน้าอาคารกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี) กลุ่มองค์กรกิจกรรมนักศึกษา มอ.ปัตตานี ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมแฟลชม๊อบ หมุดหมายประชาธิปไตย เพื่อร่วมตัวกันแสดงออกถึงการไม่เอารัฐบาลเผด็จการภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรวมถึงการเรียกร้องให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทายลัยสงขลานครินทร์ ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่ได้ลงนามหนังสือประกาศห้ามไม่ให้นักศึกษาจัดกิจกรรมในครั้งนี้
โดยกิจกรรมเริ่มตั่งแต่เวลา 16.30 น. มีแกนนำนักศึกษา และกลุ่มองค์กรกิจกรรมนักศึกษา มอ.ปัตตานี นำโดย นายฟาห์เรนน์ นิยมเดชา นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์สาขาการปกครอง ได้จัดเตรียมเครื่องเสียง และแผ่นป้าย พร้อมนำภาพ บุคลที่ถูกบังคับให้สูญหายตั่งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ทั้งในพื้นทีจังหวัดชายแดนภาคใต้และทั่วประเทศอาทิเช่นภาพของฮัจยีสุหลง อับดุลกาเดร์ โตะมีนา ซึ่งท่านอูลามาอฺ (นักปราชญ์) ปาตานีที่โด่งดัง นำมาติดไว้โดยรอบของการจัดงาน


โดยเวลา 17.00 น.มีนิสิต นักศึกษา และนักเรียนและผู้สนใจทั้งบุคลากรและเอ็นจิโอที่รักประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ ทยอยเดินทางเข้ามาร่วมแฟลชม็อบอย่างต่อเนื่องกว่า 1000 คน โดยแกนนำกลุ่มนักศึกษาทยอยขึ้นเวทีปราสัย เพื่อเรียกร้องตามข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล 4 ข้อดังนี้ 1. หยุดการคุกคามประชาชนผู้เห็นต่าง 2. เรียกร้องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 3. เรียกร้องให้ยุบสภา และ 4. ยกเลิกมติ ครม. นิคมอุตสาหกรรมจะนะ ที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางเสียโห่ร้องขับไล่รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมีสื่อมวลชนกระแสหลักทั้งในและต่างประเทศและสื่อออนไลน์เกาะติดการชุมนุมในการครั้งนี้อย่างคึกคัก


จนกระทั่งเวลา 17.30 น. นายฟาห์เรนน์ นิยมเดชาหนึ่งในแกนนำนักศึกษาได้ขึ้นปราศรัย เพื่อขับไล่รัฐบาลเผด็จการ พร้อมทั้งอ่านคำแถลงการซึ่งมีใจความว่า แถลงการณ์กลุ่ม องค์กรกิจกรรมนักศึกษา มอ.ปัตตานี เรียกร้อง ขอเรียกร้องต่อรัฐบาล ภายใต้การบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า โควิด 19 รัฐบาลล้มเหลวในการจัดการอย่างสิ้นเชิง มีผู้ได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวาง ทั้งประชาชนที่กำลังตกงาน ขาดรายได้ ไปถึงขั้นมีผู้ตอมใจตายเพราะพิษเศรษฐกิจ จึงเป็นหลักฐานว่า การประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ในการควบคุมไวรัสโคโรน่า 2019 ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ ในการทำนุบำรุงสุข ประชาชน มีแต่ ทวีความเดือดร้อนให้กับประชาชน รัฐบาลใช้กฎหมายพระราชบัญญัติประกาศด้วยสถานการณ์ฉุกเฉิน กดขี่ผู้เห็นต่างมากมาย ประชาชน นิสิต นักศึกษา นักเรียน ผู้รักเสรีภาพ จนไม่อาจจะยอมรับและให้อภัย กับการกระทำอันไร้ความรับผิดชอบ ตลอดระยะเวลาการบริหาร ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้นำประเทศของเราถดถอยมาจากสภาวะที่ไร้การพัฒนา การกระทำของรัฐบาลยึดอำนาจแปลงกาย พยายามฉุดรั้งประเทศ อย่างยอมรับไม่ได้ มีต้นตอมาจาก รัฐธรรมนูญปี 60 อันไร้ความโปร่งใส ไม่ว่าในแง่ที่มา กายภาพ และกฎหมาย มีการใช้วิธีการต่างๆมากมาย เพื่อปิดกั้นผู้เห็นต่าง จึงนับได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นรัฐธรรมนูญ ของโจรลายพราง ที่จบฉกฉวยโอกาสเพื่อเถลิงอำนาจ ให้กับพวกพ้องและกับตนเอง จึงเรียนมาเพื่อส่งต่อข้อเรียกร้อง ต่อรัฐบาลดังนี้ 1 หยุดคุกคามประชาชนผู้เห็นต่าง 2 เปิดทางให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ไขยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ 3 ยุบสภาเดินหน้า สู่การเลือกตั้ง ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ว่าจะเอาหรือไม่เอา ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 4 ยกเลิกมติ ครม. นิคมอุตสาหกรรมจะนะ ที่กำลังจะเกิดขึ้น


หลังจากสิ้นการแถลงการณ์ ทางนักศึกษาที่รวมตัวกันชุมนุแฟลชม็อบ ได้รวมตัวกันถ่ายภาพ และเปิดแฟลชมือถือเพื่อส่องแสงสว่างให้กับประเทศ ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับในช่วงเวลา 18.30 น.
“กิจกรรมในวันนี้เป้าประสงค์แรกก็คือ การจัดแฟลชม๊อบเพื่อ ทวงหาความยุติธรรม เพื่อขับไล่เผด็จการที่ได้มาโดยความไม่ชอบธรรม ออกไป เพื่อนำไปสู่การเรียกร้องที่นักศึกษาทั่วประเทศได้เรียกร้องก็คือ 1 หยุดการคุกคามประชาชนผู้เห็นต่าง 2 เรียกร้องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และ 3 เรียกร้องให้ยุบสภา แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ท่าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ ได้ออกประกาศซึ่งเป็นประกาศที่ไม่ปกติ หลังจากที่รับรู้ว่าจะมีการจัดม็อบ เลยได้ออกประกาศห้ามไม่ให้มีการชุมนุม ในมหาวิทยาลัย ทั้งๆที่ในชีวิตมหาวิทยาลัยทั้ง ที่โรงอาหาร ห้องเรียน ก็มีการวมตัวของนักศึกษา แต่กลับมาห้ามการจัดแฟลชม็อบ ทางนักศึกษาเลยเปลี่ยนมารวมตังเพื่อไล่อธิการบดี ที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน และส่งเสริมระบบประชาธิปไตยหรือไม่ และไม่ปกป้อง สิทธิ เสรีภาพ ของนักศึกษาที่ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งนี้เป็นสิทธิที่สำคัญ และถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเกิดขึ้นในสถานศึกษาได้ สิ่งเหล่านี้จะไปเกิดขึ้นที่ตรงไหนในสังคมไทย นี้คือสิ่งที่ต้องถกเถียงกับอธิการบดีว่า คุณเชื่อในประชาธิปไตยหรือไหม เชื่อในสิทธิเสรีภาพหรือไม ถ้าเชื่อ ทำไมถึงมีการห้ามไม่ให้มีการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ และในวันนี้เราก็จะมีการไล่รัฐบาลเช่นเดียวกัน” นายฟาห์เรนน์ นิยมเดชา นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์สาขาการปกครอง


โดยข้อเรียกร้องจะเพิ่มจากเดิมที่มีอยู่ 3 ข้อ คือ เราขอยกเลิกมติ ครม.ว่าด้วยนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ที่กำลังเป็นที่กังขา และกังวลว่าจะเกิดรอยราวและเกิดความขัดแย้งระลอกใหม่ ซึ่งถ้าหากรัฐบาลจะยังคงดำเนินการนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้า ก็ต้องมีการนับหนึ่งใหม่ ให้ความรู้กับประชาชนใหม่ ทำประชาวิจารณ์ใหม่ และรับฟังผู้เห็นด้วยและเห็นต่าง โดยที่รัฐต้องฟังในรอบด้าน นายฟาห์เรนน์ นิยมเดชา นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์สาขาการปกครองให้สัมภาษณ์ปิดท้ายการชุมนมโดยสงบโดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง

 836 total views,  4 views today