ฟังสองด้านเก็บ DNA ทหารเกณฑ์ชายแดนภาคใต้

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

ข่าวดังชายแดนภาคใต้หลังรัฐประกาศเกณฑ์ทหารปลายเดือนกรกฎาคม 2563 น่าจะเป็นข่าว “การเก็บ DNA ผู้เข้ารับการเกณฑ์ทหารทีมีเฉพาะ จังหวัดชายแดนใต้ ดังนั้นจึงชวนผู้อ่าน ลองอ่านทัศนะทั้งสองที่กำลังเป็นกระเเสในสื่อดังนี้

1.ด้านสนับสนุนให้เก็บ(อ้างอิง
https://www.facebook.com/1435911773323697/posts/2718758341705694/?d=n)
#ต้องการอะไร ? กับการเก็บ DNA ผู้เข้ารับการเกณฑ์ทหารใน จังหวัดชายแดนใต้

กรณี น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้โพสต์ในเฟชบุ๊กว่าการตรวจคัดเลือกทหาร จะมีการตรวจเก็บ ดีเอนเอชายไทยทั่วประเทศหรือไม่ หรือเป็นการตรวจเก็บเฉพาะในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้

การจัดทำฐานข้อมูลตัวอย่างสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ผู้ที่เข้ารับการคัดเลือกทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) ประจำปี ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลานั้น อยู่ในแผนการพัฒนาการจัดเก็บข้อมูลตัวอย่างสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 อยู่แล้ว ซึ่งมีการจัดทำโครงการขออนุมัติงบประมาณจากรัฐบาลและได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ส่วนการเก็บ DNA ของผู้เข้ารับคัดเลือกทหารกองประจำการเริ่มมาตั้งแต่ ปี 2562 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลานั้น จะมีแบบให้กรอกความยินยอม หรือไม่ยินยอมก็ได้ ซึ่งหากดูสถิติย้อนหลังปี 62 ผู้ที่เข้ารับคัดเลือกทหารกองประจำการ พบว่าระหว่างวันที่ 1 – 8 เม.ย.62 ซึ่งยังไม่จบสิ้นการคัดเลือกมีผู้ที่ยินยอมให้จัดเก็บ DNA มีถึง 19,410 คน ไม่ยินยอม 49 คน และไม่มีการจัดเก็บ 582 คน เนื่องจากไม่รายงานตัวเข้ารับการตรวจเลือก

การจัดทำฐานข้อมูลตัวอย่างสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ไม่ได้มีการบังคับเป็นความสมัครใจซึ่งมีแบบฟอร์มชัดเจนในการแสดงเจตจำนง และไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามที่ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้กล่าวหา การแสดงท่าทีของ น.ส.พรเพ็ญ กับการลงทุนลงแรงเคลื่อนไหวในเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์อะไร? ก็คงไม่พ้นการสร้างผลงานเพื่อรวบรวมรายงานไปยังองค์กรต่างประเทศ เพื่ออะไร? ทุกคนคงทราบดี ในส่วนของผู้ที่ไม่ยินยอมนั้นไม่ว่ากัน!! เพราะเป็นสิทธิที่สามารถปฏิเสธได้ แต่ลึกๆ แล้วกลัวอะไร? หากไม่เคยทำผิดมาก่อนไม่ต้องกลัว หากบริสุทธิ์ใจจริงการเก็บ DNA ไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ เลย กลับเป็นประโยชน์กับตัวผู้ตรวจเก็บ DNA เอง กรณีระหว่างเป็นทหารถูกใส่ร้ายว่าไปก่อคดีฆ่าคน วางระเบิดเก็บ ก็สามารถใช้ฐานข้อมูล DNA พิสูจน์ยืนยันความบริสุทธิ์ได้เลย และมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สถานการณ์ดีขึ้นอีกด้วย
2.ด้านเห็นแย้ง
น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ให้ทัศนะ
“ว่าด้วยการตรวจเก็บดีเอ็นเอเกณฑ์ทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ผิดกฎหมายหรือไม่”

ในพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารราชการ พ.ศ. 2540 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วมีข้อกำหนดตามมาตรา 23 ว่าหน่วยงานของรัฐจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้เท่าที่เกี่ยวข้อง เพื่อการทำงานงานของรัฐตามวัตถุประสงค์เท่านั้น กรณีการที่กองทัพภาค4 ยืนยันว่าจะมีการตรวจเก็บดีเอ็นเองในการตรวจคัดเลือกทหารเกณฑ์ปีนี้ในวันที่28กค ถึง 9 สิงหาคม 2563 กองทัพต้องอธิบายให้ได้ว่าการเก็บ DNA นั้นเก็บไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร โดยมาตรา 23 วรรค 2 กำหนดให้ต้องแจ้งกับเจ้าของข้อมูลให้ชัดเจนว่าเป็นการขอข้อมูล “โดยสมัครใจ” หรือ “โดยที่มีกฎหมายบังคับ” ซึ่งถ้าเป็นการอ้างกฎหมายก็ต้องระบุให้อำนาจไว้ที่ไหนอย่างไร เป็นคำสั่งใคร ไม่ใช่อ้างแค่คำยินยอมที่เกิดจากความจำยอม หรืออ้างว่าตรวจดีเอ็นเอโดยไม่แจ้งวัตถุประสงค์. ไม่สามารถระบุว่าจะนำหลักฐานนี้ไปทำอะไรอย่างไรโดยใคร การแค่อ้างว่าเป็นข้อมูลฝ่ายความมั่นคงยิ่งมีปัญหาใหญ่ว่า. เก็บข้อมูลเอง เป็นผู้ควบคุมข้อมูลทางชีวภาพเอง เป็นผู้นำไปใช้เองด้วยอำนาจของทางการทหารตำรวจฝ่ายความมั่นคง อย่างนี้เรียกได้ว่าเผด็จการเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยหน่วยงานเดียว จะอ้างฐานคำยินยอมไม่ได้

#เราไม่ทนการตรวจดีเอ็นเอผิดกฎหมาย(อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/100000039316411/posts/3478140325530577/?d=n)
สองคำถาม ใหญ่?
1. หากเราบริสุทธ์ใจ. แต่เรากังวลอะไร?
2. การตรวจDNA สมัครใจ /จำยอม/โดนบังคับ?

คำตอบ วาทกรรม หนึ่ง
“หากเราบริสุทธ์ใจ. แต่เรากังวลอะไร

ว่าด้วยการเก็บดีเอ็นเอ เกณฑ์ทหาร”
https://www.facebook.com/100000039316411/posts/3476427762368500/?d=n
สอง
การตรวจDNA สมัครใจ /จำยอม/โดนบังคับ
ฟังประสบการณ์จริง จาก
“มูฮัมหมัดอามีน” : ผมถูกเก็บ DNA ในภาวะ ‘จำยอม’
มูฮัมหมัดอามีน เปิดเผยว่า “ดีเอ็นเอ”ของผมด้วย ผมถูกพูดจาข่มขู่และจัดเก็บ DNA ในภาวะ ‘จำยอม’ ซึ่งการเก็บ DNA นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงแรกที่ถูกควบคุมตัว ตอนเก็บ DNA นั้นเขายังไม่ได้แจ้งผมเลยว่าควบคุมตัวผมด้วยเหตุอะไรและยังไม่ได้ซักถามเกี่ยวกับประเด็นที่สงสัยในตัวผมเลย ซึ่งตรงนี้ผมรับไม่ได้”

.
(https://www.facebook.com/101284718174399/posts/171387564497447/?d=n)

 965 total views,  2 views today