เมษายน 29, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

คณะประสานงานสันติสุข (สล.3) รับข้อเสนอ “พื้นที่กลางกับการจัดการความขัดแย้ง กรณีจะนะเมืองอุตสาหกรรม”

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน


เมื่อวันที่ 15 ​ก.ค. เวลา 10.00 น.ที่​ รร.​ปาร์ควิว​ อ.เมือง​ปัตตานี​ มีการประชุมของคณะประสานงานสันติสุขระดับพื้นที่​ (สล.3)โดยมี พลโท​พรศักดิ์​ พูลสวัสดิ์​ แม่ทัพภาคที่​4​, พล​.ต.เกรียง​ ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4,พล.ต.ธิรา​ แดหวา,​ มีคณะประสานงาน​8​กลุ่มงาน เข้าร่วม​กว่า ​50​ คน ซึ่งเป็นตัวแทนภาคประชาสังคมหลังจากไม่มีการประชุม​ มานานถึง​3เดือน​ เพราะสถานการณ์​โควิด​19​ ในที่ประชุมได้กล่าวพูดคุยสรุปสถานการณ์​ในช่วงที่ผ่านมา​ ว่าแม้ในช่วงสถานการณ์​โควิด​ แต่คณะทำงาน​ ตามส่วนต่างๆที่รับผิดชอบ​ 8​ กลุ่ม​ สายงาน​ในทุกมิติ ยังคง​ เดินสายทำงานลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง​ ในที่ประชุมได้สะท้อนการแก้ปัญหา​ ทั้งด้านความมั่นคง​ ปัญหายาเสพติด​ แต่ปัญหาประเด็นร้อนที่สุดคือปัญหาการจัดการโครงการจะนะเมืองอุตสาหกรรม


กล่าวคือหลังรัฐจัดเวทีวันที่ 11 กรกฎาคมที่โรงเรียนจะนะวิทยาเสร็จในที่ประชุม เห็นสอดคล้องกันว่า “ไม่ได้มาตรฐานสากลของเวทีรับฟัง”ด้วยหลากหลายเหตุผล

เช่นปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เห็นต่างและประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบแต่ไม่อยู่ในพื้นที่ 3 ตำบล (ต.สะกอม ต.ตลิ่งชัน ต.นาทับ) อ.จะนะจ.สงขลา และสร้างบรรยายกาศที่ไม่นำไปสู่การรับฟังอย่างปลอดภัย ด้วยการใช้กองกำลังจำนวนมากในการควบคุมการจัดเวที การปิดเส้นทางผ่านเวทีการประชุม การคุกคามประชาชนผู้เห็นต่างรวมทั้งนักวิชาการ ทั้งหมดล้วนเป็นการแสดงออกถึงความไม่โปร่งใสและไม่ชอบธรรมในการจัดทำโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ มิอาจสร้างความน่าเชื่อถือและความวางใจได้ ว่าโครงการดังกล่าวที่จะนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และรักษาปกป้องธรรมชาติสิ่งแวดล้อม​


​แม้เวทีครั้งนี้สามารถผ่านไปได้ด้วยดี ด้วยการ ระดมกำลังตำรวจจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายร้อยนาย ตรึงกำลังตั้งแต่ก่อนวันจัดงานหลายวัน กระทั่งวันจัดเวทีดังกล่าวมีการคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด
ข้อสังเกต จากเวทีนี้ว่า “เป็นการให้ข้อมูลด้านเดียว ถูกกล่าวหาว่านำคนเห็นด้วยมาค้างคืนก่อนเวทีหนึ่งคืน ไม่มีประเด็นที่พูดถึงการเปลี่ยนแปลงของวิถีชุมชน สิ่งที่น่ากังวลคือ ไม่มีการเปิดพื้นที่ให้กับชาวบ้านที่มีความคิดเห็นแตกต่าง ไม่รับฟังชาวบ้านที่ต้องการจะพูดถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของพวกเขา การปิดป้ายคนนอกห้ามเข้า ล้อมลวดหนามเฉพาะกิจ ตั้งด่านสกัดประชาชน นี่คือมาตรฐานเวทีรับฟังความคิดเห็น?เป็นเวทีที่ไม่ได้สนใจจะรับฟัง เอามากๆ”

นอกจากนี้จากการที่รัฐที่จะทำอย่างไรให้โครงการนี้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
จนเห็นคนเห็นต่างเป็นศัตรู สร้างวาทกรรม ดิสค์เครดิตคนเห็นต่างทุกวิธีทาง มีทั้งIO มีทั้งคอลัมนิสต์ชื่อดังบางท่านจับแพะชนแกะกล่าวหา ที่คนอ่านข่าว เสพข่าวว่า เป็นแนวร่วม BRN ที่ร้ายกว่านั้นผู้ที่ทำงานหน่วยความมั่นคง(บางท่าน) นำบทวิเคราะห์นี้ไปต่อจิ้กซอ ว่า เป็นBRN จริงๆ เพราะ น้องไครียะห์เห็นว่าเรียนปอเนาะก็อุปโลกน์เป็นเยาวชนBRN มีโต๊ะครูบางท่านก็เป็นBRN อันเนื่องมาจากแสดงความคิดเห็น ต่างจากรัฐ ไม่ยอมเดินตามหลัง นำคนไปไล่หมอสุภัทรก่อนจัดเวที ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไอโอว่าท่านเสียๆหายๆ จนกระแสตีกลับเพิ่มมวลชนให้หมอและคนเห็นต่าง

ด้วยหลักการและเหตุผลดังกล่าวผู้เขียนจึงเสนอให้สล.3ตั้งคณะทำงานโดยอาจขอช่วยดร.ศรีสมภพ จิตภิรมย์ศรีเพื่อออกแบบเครื่องมือในการสร้างพื้นที่กลางที่โปร่งใส ครอบคลุม เป็นธรรมและตรวจสอบได้

“การให้พื้นที่ได้รับการพัฒนา พี่น้องประชาชนมีความสุข มีความมั่นคง มั่งคั่งและมีความยั่งยืนโดยรัฐแสดงสปิริตยอมกลับมาถอยหนึ่งก้าวแล้ว “ออกแบบ” ร่วมกันเพื่อให้ ทุกภาคส่วนไม่ว่า ประชาชน กลุ่มประมง กองทัพ ศอ.บต. ภาคประชาสังคม ส่วนผลสุดท้ายก็สุดเเล้วแต่ประชาชนในการกำหนดอนาคตของเขาเองซึ่งแน่นอนว่า ทุกภาคส่วนก็ต้องรับให้ได้สอดคล้องกับหลัก คำว่าพลเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย”ซึ่งทางพลโท​พรศักดิ์​ พูลสวัสดิ์​ แม่ทัพภาคที่​4​มอบหมายให้พล.ต.ธิรา​ แดหวาร่วมปรึกษาหารือกับคณะสล.3เพื่อดำเนินการให้เร็วที่สุดซึ่งที่ประชุมก็เห็นสอดคล้อง

 

 889 total views,  2 views today

You may have missed