พฤศจิกายน 26, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ลำดับสถานการณ์ โจรใต้ป่วนนราวางระเบิดเผาห้างและร้านค้ารวม 3 จุดเสียหายพังยับ เชื่อคนร้ายพยายามแสดงศักยภาพ คณะโอไอซี จะเยือน 3 จังหวัดแดนใต้

แชร์เลย

เหตุการณ์สถานการณ์ความไม่สงบ เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 24 ก.พ. 61 พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ 2 จุด จุดแรกที่บริเวณร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก ไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งอยู่ ถ.ระแงะมรรคา จุดที่ 2 บริเวณห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ เลขที่ 24/2 ถ.จำรูญนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานไปยังหน่วยบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลเมืองนราธิวาส และพื้นที่ใกล้เคียง จำนวนกว่า 20 คัน เพื่อสนับสนุนในการแยกย้ายฉีดน้ำสกัดเพลิงทั้ง 2 จุด พร้อมระดมเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อทำการปิดกั้นการจราจร และอำนวยความสะดวกรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำดับไฟ

โดยจุดแรกต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูกไม่มีชื่อและเลขที่ ซึ่งปลูกสร้างในลักษณะใช้สังกะสีมุงหลังคาและกั้นเป็นฝาผนัง ซึ่งเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อยู่ที่จุดวางสินค้าประเภทพลาสติก ซึ่งตั้งอยู่กลางร้าน และได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วที่ร้านจำหน่ายปลาสวยงามที่อยู่ติดกัน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการฉีดน้ำสกัดกั้นต้นเพลิงนานเกือบ 2 ชั่วโมง จึงสงบลงและพบว่าร้านค้าถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คูหา

ส่วนจุดที่ 2 ซึ่งเป็นห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ ที่ใหญ่ที่สุดของ จ.นราธิวาส และเคยถูกคนร้ายลอบวางเพลิงได้รับความเสียหายมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณล็อกวางสินค้าประเภทไวไฟที่บรรจุไว้ในกระป๋อง และขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังฉีดน้ำสกัดกั้นต้นเพลิง ก็ได้ยินเสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นระยะๆ จนกระทั่งไฟได้ลุกลามไปยังที่วางสินค้าส่วนต่างๆของห้าง ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี โดยที่เจ้าหน้าที่กระทำได้เพียงฉีดน้ำดับไฟเพื่อไม่ให้ต้นเพลิงได้ลุกลามไปไหม้บ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณด้านข้างของห้าง จนเวลาผ่านไปนานประมาณ 4 ชั่วโมง เพลิงจึงได้สงบลงทำให้ห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ ได้รับความเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นความเสียหาย คาดรวมประมาณ 15 ล้านบาท

แต่ถึงอย่างไรก็ตามในช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่ หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องจะเดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุทั้ง 2 จุด เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

คืบหน้าจนท.เร่งหาหลักฐานที่เกิดเหตุระเบิดเผาร้านค้า

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 ก.พ. 61 พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส น.อ.เลอศักดิ์ คชนันทน์ ผบ.ฉก.นย. พ.ต.ต.ศราวุธ เกาะสมัน นักวิทยาศาสตร์ สบ.2 กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ร.ต.อ.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบร้านจำหน่ายปลาสวยงาม เลขที่ 41 ถ.ระแงะมรรคา ต.บางนาค ซึ่งมีนายชูชาติ ศิลามาศ อายุ 44 ปี เป็นเจ้าของ และร้านติดกันซึ่งจำหน่ายสินค้าราคาถูก ไม่มีเลขที่ ซึ่งมีน.ส.นริมนต์ สังข์สุวรรณ อายุ 42 ปี เป็นผู้เช่า ที่เป็น 1 ใน 2 จุด ที่ถูกคนร้ายลอบก่อเหตุในช่วงคืนที่ผ่านมา จนทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้ง 2 หลัง

โดยเจ้าหน้าที่ได้แยกย้ายกันหาหลักฐานในที่เกิดเหตุด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีซากสินค้าภายในร้านและหลังคาสังกะสี ได้ทับถมลงมา เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการขนย้ายซากสิ่งของต่างๆออกจากกัน และขนย้ายไปเก็บไว้ริมถนนด้านนอก เพื่อที่จะหาหลักฐานต่างๆที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะ จึงจะสามารถสรุปได้ว่าเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ คนร้ายได้ลอบแฝงตัวนำวัตถุระเบิดหรือสิ่งอื่นใดที่เอื้อต่อการเกิดเพลิงไหม้ปะปนแฝงตัวกับประชาชนที่เป็นลูกค้า ไปแอบไว้ในร้านก่อนที่เจ้าของร้านจะปิดกิจการ แล้วได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นในเวลาต่อมา แต่ที่แน่ชัดคือจุดเพลิงไหม้เกิดจากร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก แล้วได้ลุกลามไปยังร้านจำหน่ายปลาสวยงาม

ด้าน พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส หลังเกิดเหตุได้สั่งเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามเสาไฟฟ้า จุดเกิดเหตุทั้ง 2 จุด เพื่อติดตามพฤติกรรมของกลุ่มคนร้าย ซึ่งคาดว่าอย่างน้อยน่าจะมีจำนวน 2 ชุด คือ ชุดที่ 1 ลอบก่อเหตุที่ร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก และชุดที่ 2 ลอบก่อเหตุที่ห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์

แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบหลักฐานเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปตรวจสอบจุดที่ 2 ที่ห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ ต่อไป

โจรใต้ป่วนนราไม่เลิกตำรวจกู้ระทึกอีก1จุด ผู้การฟันธง3จุดเป็นระเบิดกระเป๋าสตางค์

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ก.พ. 61 พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส ร.ต.อ.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้รับแจ้งจากนายคำ โรจน์แก้ว เจ้าของร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก ซึ่งตั้งอยู่ข้างหอนาฬิกา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดที่ตั้งซุกไว้บริเวณกองหมอนและผ้าห่ม ซึ่งอยู่ด้านขวามือของร้าน มีเสียงดังขึ้น 1 ครั้ง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ

และพบว่าวัตถุต้องสงสัยดังกล่าวเป็นระเบิดกระเป๋า ซึ่งใช้กระหนังของสุภาพบุรุษเป็นภาชนะในการซุกระเบิด ซึ่งภายในมีนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอดได้ต่อพ่วงกับจงจรอีเล็กทรอนิกส์ ที่ต่อพ่วงอีกชั้นหนึ่งกับไม้ขีดไฟและแอลกอฮอลแห้ง ซึ่งระเบิดกระเป๋าใบดังกล่าวได้ทำงานแล้วแต่วงจรไม่สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เชือกดึงออกมาจากร้าน และได้ทำการเก็บกู้บนถนนหน้าร้าน

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ รายงานจากฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ แจ้งว่า ที่เกิดขึ้นทั้ง 3 จุด ต่อเนื่องกัน เป็นเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบ  และ มีรายงานว่า คณะของ โอไอซี มีกำหนดการจะเดินทางดูมาเยือนในพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ ในราววันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2561 เชื่อว่าคนร้ายพยายามแสดงศักยภาพ ก่อเหตุป่วนสถานการณ์ขึ้นดังกล่าว

โดย ร.ต.อ.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ได้เปิดเผยถึงการทำงานของระเบิดกระเป๋า ที่ได้มีการวิวัฒนาการเพื่อนำมาอำพรางก่อเหตุในการตบตาเจ้าหน้าที่ และง่ายต่อการเล็ดรอดเข้าไปก่อเหตุในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งระเบิดกระเป๋าทำงานแบบง่ายดาย คือ ตั้งเวลาปลุกจากนาฬิกาดิจิตอลเพื่อให้วงจรทำงานจนเกิดความร้อน และจากความเร็วดังกล่าวจะเป็นตัวจุดหัวไม้ขีดให้เกิดเปลวไฟ แล้วไปทำให้แอลกอฮอลแห้งเกิดลุกไหม้ ซึ่งเป้าหมายของกลุ่มคนร้ายมักจะแฝงตัวไปวางไว้บริเวณที่มีสินค้าไวไฟ ก็จะทำให้เกิดไฟไหม้อย่างรวดเร็ว

ด้าน พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุบริเวณร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก ซึ่งตั้งอยู่ข้างร้านจำหน่ายปลาสวยงาม ถ.ระแงะมรรคา ต.บางนาค และร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูกของนายคำโรจน์แก้ว ซึ่งตั้งอยู่ข้างหอนาฬิกานั้น และบริเวณห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ ทั้ง 3 จุด ค่อยข้างชัดเจนแล้วว่าคนร้ายได้ก่อเหตุด้วยระเบิดกระเป๋า ที่สามารถเล็กรอดการตรวจตราของ จนท.และเจ้าของร้านค้า

แต่ถึงอย่างไรก็ตามจุดเกิดเหตุบริเวณภายในอาคารห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังคงใช้พยายามในการหาหลักฐาน แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบพบ เนื่องจากมีสิ่งปรักหักพังรวมทั้งสินค้าได้ถูกเพลิงไหม้หล่นมาทับถมกัน จึงเป็นอุปสรรคที่เจ้าหน้าที่ยังคงใช้ความพยายามที่จะค้นหาเศษซากของระเบิดกระเป๋า โดยเจ้าหน้าที่ขอเวลาระยะหนึ่งในการค้นหา

แต่ในส่วนของร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูกรวมทั้งร้านจำหน่ายปลาสวยงามนั้น หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดกระเป๋าแล้ว ได้มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่องค์การโทรศัพท์ มาทำการซ่อมแซมส่วนที่ได้รับความเสียหาย เพื่อที่จะทำการจ่ายกระแสไฟฟ้าและระบบการสื่อสาร เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ สามารถใช้งานได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ รายงานจากฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ แจ้งว่า ที่เกิดขึ้นทั้ง 3 จุด ต่อเนื่องกัน เป็นเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบ  และ มีรายงานว่า คณะของ โอไอซี มีกำหนดการจะเดินทางดูมาเยือนในพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ ในราววันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2561 เชื่อว่าคนร้ายพยายามแสดงศักยภาพ ก่อเหตุป่วนสถานการณ์ขึ้นดังกล่าว

ทีมข่าวบรรณาธิการ SPMCNEWS รายงาน

 

 1,295 total views,  4 views today

You may have missed