ทวีศักดิ์ เผยความสำเร็จในระดมปัญญาชนชายแดนใต้ “จันทร์เสี้ยว” เพื่อช่วยพี่น้องในมาเลเซียลงทะเบียนกลับไทย

ภายหลังที่ทราบข่าวว่า กระบวนการกลับไทย ของคนไทยที่อยู่ ณ ประเทศ มาเลเซีย มีความยากลำบาก ที่ จะขออนุญาต กลับไทย เนื่องจาก ต้องมีขั้นตอน การลงทะเบียน ผ่าน เว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ

ซึ่งในการลงทะเบียนนั้น มีขั้นตอนหลายอย่าง และได้ จำกัดจำนวนคนในแต่ละวัน จึงกลายเป็น อุปสรรคในการลงทะเบียน ให้ กับ พี่น้อง คนไทย ที่ อยู่ ณ ประเทศมาเลเซีย ในจำนวนหนึ่ง

คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการช่วยพี่น้องในมาเลเซีย สมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณสุข เห็นว่า ภารกิจนี้จะต้องมีทีมงาน ค่อยอำนวยความสะดวก ค่อยให้ การช่วยเหลือ พี่น้องคนไทย ที่ ประสงค์ จะกลับไทย จึงได้ เปิดรับ อาสาสมัคร เพื่อมาเป็นส่วนหนึ่ง ในทีมงาน รับอาสาลงทะเบียน ให้

เมื่อเปิดรับอาสาสมัคร ได้รับความสนใจมาก มี ผู้สนใจ อยากเข้ามา มีส่วนร่วม ยื่นมือ มาช่วยเหลือ พี่น้องคนไทย ด้วยกัน เป็นจำนวนมาก โดยมี ปัญญาชน ที่ เป็น นักศึกษา ทั้ง ป.ตรี ป.โท ทั้งใน และนอกประเทศ และมี ปัญญาชน ที่ พึ่งจบการศึกษาในระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโท และกลุ่มคนทำงานรับราชการ ภาคประชาสังคม และบริษัทเอกชนระหว่างประเทศ ร่วมกันเป็นทีมงาน

เรารับอาสาสมัครครั้งแรก 25 ท่าน โดยทุกๆคืน พี่น้อง อาสาสมัคร ของเรา จะทำงาน กันอย่างหนัก รอค่อย หน้าจอ โน๊ตบุ๊ค

เพื่อรอ ลงทะเบียนให้ กับ พี่น้องคนไทย พวกเขา ต้องเสียสละตัวเอง รอ ลงทะเบียน ในเวลา เที่ยงคืนของวัน เพื่อแย่งชิง โคว์ตา ที่มีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน

พวกเขา มีความพยายาม อย่างมาก ที่ จะทำให้ พี่น้องในมาเลเซีย ลงทะเบียนกลับไทยได้สำเร็จ และได้ จองโคร์ตา ในวันและเวลา ที่ พี่น้องได้ปราถนา ที่ จะกลับ ได้ อย่างที่ตั้งใจไว้

พวกเรา ปฎิบัติ ช่วยเหลือ เหมือนพี่น้องทุกคน เป็นคนในครอบครัวเราจริงๆ ซึ่ง เคสในแต่ละเคส ที่ ติดต่อเข้ามา เกือบ100% เราไม่เคย รู้จักกันมาก่อน เลย

เมื่อเคส ขอร้องขอการช่วยเหลือ ให้ เราลงทะเบียนให้ เราปฎิบัติกับทุกคน เป็นเหมือนญาติ คนใกล้ชิด ตั้งแต่ ต้นทาง ที่พำนัก ณ ประเทศมาเลเซีย เราได้ ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย ในการติดต่อประสานงาน เหมือนเปิดคอลเซ็นเตอร์ ระหว่างทางในช่วงการเดินทาง เราได้ ประสานติดต่อ ถามถึงปัญหา เมื่อทราบว่ามีปัญหา เราก็ประสานให้การช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วน มากที่สุด และ ปลายทาง เมื่อ พวกเขาพี่น้องคนไทยที่กลับเข้ามา ถึงสถานที่กักตัว เราก็ได้มีการ ประสานถามข่าวคราวทุกข์สุข อยู่เป็นประจำ

เราปฎิบัติเหมือนกัน โดยไม่เลือก ว่า พี่น้องคือใคร ทำอาชีพอะไร และ ศาสนาใด ซึ่ง จากข้อมูล ที่ เราได้ประสานอำนวยความสะดวก 30% เป็น พี่น้องจากจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

60 % เป็นพี่น้องในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 10 %เป็นพี่น้องในภูมิภาคต่างๆของประเทศไทย (อนึ่ง เปอร์เซ็นต์เป็นการคาดการณ์จากยอดตัวเลข)

ในเวลาหลายสัปดาห์ พวกเราได้ทำการลงทะเบียน ให้ พี่น้อง ที่ประสงค์จะกลับไทย ได้ในจำนวน 310 คน

บัดนี้จำนวนเคสที่ ให้ลงทะเบียน ก็เริ่ม คลีคลาย เบาบาง ลงมากแล้ว เนื่องจาก พี่น้อง ก็ได้ กลับประเทศ กัน หลายส่วนแล้ว และ ส่วนหนึ่งได้ ตัดสินใจ เปลี่ยนใจ จะอยู่ต่อ ในประเทศมาเลเซีย เพื่อหวังจะได้ทำงาน ภายหลังจาก มาเลเซีย ได้ ผ่อนปรน MOC

กระผม ในฐานะ หนึ่งในทีมประสานหลักขอขอบคุณ ทุกคน ที่เสียสละ แรงกาย แรงใจ และแรงทุน (ค่าอินเทอร์เน็ตความเร็วสุง) ในการช่วยเหลือพี่น้องในครั้งนี้ สำหรับผู้เสียสละหลังม่านผมขอนับถือน้ำใจของพวกเราทุกๆคนอินซาอัลลอฮเราจะมีการพบปะและต่อยอดความเป็นอาสาสมัครของเราหลังจากนี้

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเราจะได้ ต่อยอดการทำงานเป็นนักอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่ ตกทุกข์ ยาก ได้ทุกสถานการณ์ ในอนาคต

ความดี และ ความเสียสละของพวกเรา จะถูกบันทึกเป็นประวัติ ที่ครั้งหนึ่งได้ อุทิศตน สร้างคุณูปการ อันยิ่งใหญ่ เพื่อช่วยพี่น้อง ที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก เป็นความภาคภูมิใจ ที่ควรแกการจดจำ ว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตเมื่อประเทศชาติ เกิดวิกฤต เราในฐานะ ปัญญาชนคนหนึ่ง ได้ใช้โอกาสที่ตัวเองมีวิชา ใช้เพื่อช่วยเหลือ พี่น้องร่วมประเทศ

โควิดแบบนี้ ร้อยปีมีแค่ครั้งเดียว ในชีวิตเรา ได้เจอโควิดในครั้งนีั และอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอ กับ มันอีกเลย …. ความดีเช่นนี้ จะประเมินค่า ไม่ได้ หากเทียบกับ ความสุขของพี่น้องที่ได้กลับบ้าน

การทำงานอาสา ไม่มีวันสิ้นสุด ตราบใด ที่เรายังมีใจ ภารกิจงาน จะไม่สิ้นสุด ตราบใด ที่เรายังมีพลัง
วันหนึ่ง ถ้าพี่น้องทุกคนได้ ลงทะเบียนกลับบ้านหมด

เราก็สามารถต่อยอด ความมีจิตอาสา ในการช่วยเหลือพี่น้องในขั้นอื่นต่อไป

ด้วยความนับถือ อย่างสูง
ซาวาวี/ทวีศักดิ์
13 รอมฎอน/6 พ.ค.

 885 total views,  2 views today