คกก.คุ้มครองสิทธิมนุษยชนจังหวัดชายแดนใต้ พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ ด่านชายแดนสุไหงโกลก เยี่ยมให้กำลังใจ จนท.และฟังสรุปช่วยคนไทยกลับประเทศ

ข่าวจาก นางพารีดะ อาลีซู..

วันที่ 2 พฤษภาคม 2563 เวลา 10.30น. นางสาวปาตีเมาะ เปาะอิแตดาโอะ นายกสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ WE PEACE ในนามคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจังหวัดชายแดนใต้ พร้อมคณะฯ  ลงพื้นที่ด่านพรมแดนไทยมาเลเซีย บริเวณด่าน ศุลกากรสุไหงโกลก เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน และประชาชนชาวไทย ที่กำลังข้ามด่าน กลับสู่ประเทศไทย

นายมงคล สินสมบูรณ์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู  ทีมกงสุล กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย นายด่านศุลกากร สุไหงโกลก นายจักกฤช อุเทนสุต ปลัดอาวุโส ปลัดอำเภอ สาธารณสุขอำเเภอหน่วยควบคุมโรค รพ.สุไหงโกลกร่วมแลกเปลี่ยนกับ คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษย์ชน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการทำงาน ตั้งแต่เปิดด่าน 18 เมษายนเป็นต้นมา ด่านสุไหงโกลกถือว่า มีคนไทยข้ามมามากที่สุด เห็นการทำงานความเสียสละของทุกฝ่าย และพยายามช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แรงงานไทย จากประเทศมาเลเซีย สามารถกลับคืนภูมิลำเนาได้อย่างปลอดภัยจนสุดความสามารถหลากหลายความเสี่ยงและความท้าทายคนไทยในประเทศมาเลเซีย เร่งเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น หลังมาเลเซียผ่อนคลายให้เดินทางข้ามรัฐได้ ตั้งแต่วันที่ 1-3 พฤษภาคม และต้องเดินทางมาให้ทันช่วงฮารีรายอในเดือนรอมฏอน ในวันที่ 23 พฤษภาคม ซึ่งเมื่อวานนี้มีคนไทยที่เข้าเมืองผิดกฏหมายมากกว่าผู้ที่ลงทะเบียน ซึ่งการหนีภัยโรคโควิด-19 กลายเป็นปรากฏการณ์อพยพครั้งใหญ่จากโรคระบาด

ในขณะที่คนไทยกลุ่มนี้ นั่งเรือข้ามแม่น้ำโกลกจากฝ่งประเทศมาเลเซียมาถึงฝั่งไทย ทหารที่ลาดตระเวนอยู่แนวชายแดน ได้เข้ามาควบคุมตัว เนื่องจากเป็นการข้ามแดนผิดกฏหมาย ก่อนจะให้แสดงบัตรประชาชน ซักถามประวัติ เพื่อควบคุมตัวไปยังด่านพรมแดนสุไหงโกลก ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับปรับตามความผิดลักลอบเข้าเมือง และคัดกรองโรคโควิด-19 ก่อนส่งตัวไปยังสถานที่กักตัวตามภูมิลำเนาสำหรับคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าอยู่จากจังหวัดอื่นต้องกักตัวที่จ.นราธิวาส คนไทยกลุ่มนี้มีทั้งครอบครัวที่มีเด็กและผู้หญิงตั้งครรภ์ซึ่งมีอาชีพเป็นเจ้าของร้านอาหาร ลูกจ้างตามร้านอาหาร ประกอบอาชีพประมงและรับจ้างกรีดยาง และได้ลงทะเบียนกับทางสถานทูตแต่ยังไม่ได้คิว บางคนจึงตัดสินใจกลับมาแบบผิดกฏหมาย และยอมถูกกักตัว 14 วัน เพื่อให้ทันวันฮารีรายอ หลังการถือศีลอดในเดือนรอมฏอนประมาณวันที่ 23 พฤษภาคม จึงต้องเลือกใช้เส้นทางนี้

คนไทยกลุ่มนี้เดินทางมาถึงในเวลา 17.00 น .ซึ่งด่านพรมแดนสุไหงโกลก ได้ปิดจุดคัดกรองคนไทยจากมาเลเซียไปแล้วตั้งแต่เวลา 14 นาฬิกา โดยนายพิชิต รุ่งประเสริฐ ปลัดอำเภอสุไหงโกลก รายงานให้คณะฯเราว่า คนที่เข้ามาใหม่ต้องไปนอนพักที่ทางอำเภอจัดให้ 1 คืน ก่อนจะนำตัวไปที่จุดคัดกรองด่านพรมแดนสุไหงโกลกในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะถูกจับปรับและนำตัวเข้าสถานที่กักตัวตามภูมิลำเนาต่อไป โดยมีรถมารับไปส่งที่พัก

สำหรับคนไทยที่เข้าเมืองผิดกฏหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ และถูกส่งตัวมาที่ด่านพรมแดนสุไหงโกลก พบว่าในเมื่อวันนี้มีมากถึง 201 คน ซึ่งถือว่ามากกว่าปกติ และมากกว่าผู้ที่เข้าเมืองถูกกฏหมายผ่านการลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่เข้ามาเพียงกว่า 50 คน ต่ำกว่าที่ได้โควต้าวันละ 100 คนที่ด่านสุไหงโกลก

โดยคนไทยที่เข้าเมืองผิดกฏหมาย ถูกส่งตัวมาที่จุดคัดกรอง ที่มีการจัดพื้นที่ไว้แยกกับกลุ่มที่เข้าเมืองถูกกฏหมาย ซึ่งทุกคนต้องคัดกรองโรคที่มีการเว้นระยะห่างและทำตามระบบสาธารณสุข ที่มีฉากกั้น ก่อนจะให้ไปจ่ายค่าปรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งต้องตรวจสอบประวัติ ก่อนจะส่งตัวไปทำประวัติแยกแต่ละจังหวัด แล้วส่งไปยังสถานที่กักในแต่ละจังหวัด

ท่านกงสุลใหญ่ ณ.เมืองโกตาบารู เล่าให้ขณะฯเรา ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน มีคนไทยกลับผ่านด่านสุไหงโกลก 2,110 คน เข้ามาถูกกฏหมาย 776 คน แต่พบว่าเข้ามาช่องทางธรรมชาติ 1,334 คน ซึ่งมากเป็น 2 เท่า หรือ 63 เปอร์เซ็นต์ มาจากปัญหาความยุ่งยากในการลงทะเบียนและการขอเอกสาร ฟิก ฟอร์ เทรเวล และใบรับรองแพทย์

สถานการณ์อพยพของคนไทยจากมาเลเซีย ที่แม้จะทุกคนจะยินยอมให้มีการจับกุมจ่ายค่าปรับและยอมกักกันโรค แต่มีคนไทยในมาเลเซียอีกไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคนที่หากสถานการณ์ในมาเลเซียยืดเยื้อต้องการกลับไทย จนอาจกลายเป็นการอพยพครั้งใหญ่ของคลื่นมนุษย์ที่หนีภัยโรคระบาดโควิด-19

 1,075 total views,  2 views today