เมษายน 27, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

นายกมาเลเซีย ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 วงเงิน 2.5 แสนล้านริงกิต “แพ็คเกจแห่งความห่วงใย” (สืบเนื่องจากโควิก 19)

แชร์เลย

สรุปความโดยดร. อาแซ สะยาคะ(Dr.Asae Sayaka )นักวิชาการจากสำนักดารุลริดวาน รัฐเปรัฐ ประเทศมาเลเซีย
(11 เมษายน 2563) 

Tan Sri Muhyiddin Yassin นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 วงเงิน 2.5 แสนล้านริงกิต

ภายใต้ชื่อว่า Pakej Prihatin หมายถึง “แพ็คเกจแห่งความห่วงใย” เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวมาเลเซียทุกคน ในจานวนนี้แบ่งเป็น 1.28 แสนล้านริงกิตสาหรับการดูแล สวัสดิการของประชาชน และ 1 แสนล้านริงกิต เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ รวมถึงวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม แพ็คเก็จนี้มีเป้าหมายเพื่อบรรเทาและเยียวยาความเดือดของประชาช(อันสืบเนื่องมาจาก COVID19) ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของประเทศมาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็นชาวนา ชาวสน ชาวประมง คนถีบสามล้อ ทำงานรับ รับราชการ ทำงานภาคเอกชน คนขายของตามตลาดนัด ทุกคนจะได้รับการดูแลผ่านแพ็คเก็จนี้ ที่ให้ความสำคัญต่อประชาชนและไม่ทอดทิ้งประชาชน ภายใต้สโลแกน No One Left Behind

นอกจากนี้ รัฐบาลมาเลเซีย ยังได้ประกาศให้ลูกจ้างที่จ่ายเงินเข้ากองทุนสารองเลี้ยงชีพอนุญาตที่มีอายุต่ากว่า 55 ปี สามารถถอนเงินจาก กองทุนได้ 500 ริงกิต นานสูงสุด 12 เดือน ส่วนงบประมาณอีกจานวน 130 ล้านริงกิต รัฐบาลจะดาเนินการ แจกจ่ายให้กับทุกรัฐอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่มีประเด็นทางการเมือง

สาระสาคัญของแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจมีดังนี้
1. กระทรวงสาธารณสุขได้รับจัดสรรงบประมาณ 500 ล้านริงกิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและทรัพยากร ของกระทรวงฯ และอีก 1 พันล้านริงกิต (RM1billion) เพื่อค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และการให้บริการเพื่อต่อสู้กับ COVID19
2. เพิ่มเบี้ยเลี้ยงพิเศษแก่พนักงานสาธารณสุขจาก 400 ริงกิตเป็น 600 ริงกิตต่อเดือนตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่สิ้นสุดการแพร่กระจายไวรัส COVID-19
3. เพิ่มเบี้ยเลี้ยงพิเศษจานวน 200 ริงกิตต่อเดือนแก่ผู้ที่ทำงานที่สถานีตารวจ ด่านตรวจคนเข้าเมือง และ กรมศุลกากร
4. โครงการให้ความช่วยเหลือ National Caring Aid วงเงิน 10,000 ล้านริงกิต เพื่อมอบเงินแบบครั้งเดียวจบให้กับกลุ่ม B40 และ M40 (กลุ่มประชากรรายได้ระดับล่างที่มีสัดส่วนร้อยละ 40 ของประชากรทั้งหมดหรือ Bottom 40 และประชากรระดับกลางหรือ Middle 40) ประกอบด้วยกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร และชาวประมง โดยมีเกณฑ์การมอบเงินประกอบด้วย
(1) มอบเงิน 1,600 ริงกิต แก่ครัวเรือนที่มีรายได้ 4,000 ริงกิตและต่ำกว่าจำนวน 4 ล้านครัวเรือน โดยจะมอบ 1,000 ริงกิตในเดือนเมษายน 2563 และ 600 ริงกิตในเดือนพฤษภาคม 2563
(2) มอบเงินช่วยเหลือ 1,000 ริงกิตแก่ครัวเรือนที่มีรายได้มากกว่า 4,000 ริงกิตจนถึง 8,000 ริงกิต จำนวน 1.1 ล้านครอบครัว โดยจะมอบ 500 ริงกิตในเดือนเมษายน 2563 และ 500 ริงกิตในเดือนพฤษภาคม 2563
(3) มอบเงินช่วยเหลือ 800 ริงกิตแก่ ชาวมาเลเซียผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่มีครอบครัวและมีรายได้ต่ากว่า 2,000 ริงกิต จำนวน 3 ล้านครอบครัว โดยจะมอบ 500 ริงกิตในเดือนเมษายน 2563 และ 300 ริงกิตในเดือนพฤษภาคม 2563
(4) มอบเงินช่วยเหลือ 500 ริงกิตแก่ชาวมาเลเซียที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่มีครอบครัวและ มีรายได้ระหว่าง 2,000 – 4,000 ริงกิต จำนวน 400,000 คน โดยจะจ่ายให้ 250 ริงกิตในเดือนเมษายน 2563 และ 250 ริงกิตในเดือนพฤษภาคม 2563
5. มอบเงินช่วยเหลือแบบครั้งเดียวจบจำนวน 200 ริงกิต ให้แก่นักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาต่างๆซึ่งเป็นวงเงินทั้งสิ้น 270 ล้านริงกิต โดยจะจ่ายให้ในเดือนพฤษภาคม 2563
6. จัดให้มีอินเทอร์เน็ตฟรีตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป จนถึงสิ้นสุดคาสั่งควบคุมการสัญจร (MCO)
7. รัฐบาลร่วมกับการไฟฟ้า (TNB) จะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมอีก 530 ล้านริงกิตเพื่อจัดส่วนลด ร้อยละ 15 – 50 สาหรับการใช้ไฟฟ้าสูงสุด 600 กิโลวัตต์ต่อเดือนเป็นเวลา 6 เดือนนับจากรอบบิลในเดือนเมษายน
8. รัฐบาลจะยกเว้นค่าเช่า People”s Housing Project และการเคหะเป็นเวลา 6 เดือน และรัฐบาลมาเลเซียได้ขอให้รัฐบาลของทุกรัฐพิจารณาให้ดำเนินการเฉกเช่นรัฐบาลกลาง
10. บริษัทประกันภัยและบริษัทประกันภัยตามหลักศาสนาอิสลาม (takaful) จะจัดตั้งกองทุนวงเงิน 8 ล้านริงกิต เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในการตรวจคัดกรองไวรัส COVID-19 ได้สูงสุดถึง 300 ริงกิตต่อ ผู้ถือกรมธรรม์ 1 คน
11. มอบเงินช่วยเหลือแบบจ่ายครั้งเดียวจบจำนวน 500 ริงกิตแก่ผู้ให้บริการรถรับจ้างในระบบ e-hailing จานวน 120,000 คน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 563
12. รัฐบาลและธนาคารออมสิน (Bank Nasional Malaysia จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจานวน 450 ล้านริงกิตแก่ผู้ประกอบการ SME และผู้ประกอบการ Micro enterprise
13. รัฐบาลจะจ่ายเงินเดือนที่ผู้รับจ้างต้องรับภาระในส่วนของภาคบริการ เช่น การทำความสะอาดและจัดหาอาหารในหน่วยงานราชการ
14. รัฐบาลจะมอบค่าแรงสมทบ 600 ริงกิตต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน สาหรับนายจ้างที่มีรายได้จาก ธุรกิจลดลงร้อยละ 50 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม เพื่อจ่ายค่าแรงแก่ลูกจ้างที่มีเงินเดือนต่ากว่า 4,000 ริงกิต
15. รัฐบาลจะดำเนินโครงการที่ได้รับจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ 2563 ทั้งหมด รวมถึงโครงการก่อสร้างทางรถไฟฝั่งตะวันออก (ECRL) โครงการรถไฟฟ้า (MRT2) และโครงการวางเครือข่ายใยแก้ว (NFCP) เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศจะมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
16. ยกเว้นการจ่ายเงินสมทบกองทุนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRDF) สาหรับทุกภาคธุรกิจเป็นเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2563
17. ยกเว้นค่าเช่าสถานที่ที่รัฐบาลดูแล อาทิ โรงอาหารของนักเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงอาหาร และร้านสะดวกซื้อ เป็นเวลา 6 เดือน
18.เลื่อนการชำระคืนเงินกู้ 6 เดือนสำหรับแก่ผู้กู้กองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน (PTPK) เช่นเดียวกันให้มีการเลื่อนการชำระเงินกู้จากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (PTPTN) เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2563
19.สำหรับผู้มีรายได้ต่ำ (ยากจน) และถูกกักตัว รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยรายได้เป็นจำนวน 50 ริงกิตต่อคนเป็นจำนวน 14 วัน
20.ข้าราชการระดับ 56 (Grade 56) และต่ำกว่า จำนวน 1.5 ล้านคร จะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นจำนวนเงิน 500 ริงกิต โดยจะจ่ายให้ในเอนเมษายน 2563
21. ข้าราชการเกษียณจำนวน 850,000 คน จะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นเงิน 500 ริงกิตต่อคน โดยจะจ่ายให้ในเดือนเมษายน 2563
22.รัฐบาลมาเลเซีย ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 1 พันล้านริงกิต (RM1 billion) เพื่อให้อาหารมีเพียงพอกับความต้องการของประชาชน รัฐบาลจะยังให้ความช่วยเหลือแก่เกษครกรและชาวประมงเพื่อส่งเสริมให้มีการผลิตภายในประเทศ

 2,056 total views,  2 views today

You may have missed