เมษายน 23, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

“อารีเพ็ญ” เห็นพ้องบีอาร์เอ็นประกาศพักรบสู้ภัยโรคระบาดโควิด 19

แชร์เลย

 

ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ รายงาน..

“อารีเพ็ญ” เห็นพ้องบีอาร์เอ็นประกาศพักรบสู้ภัยโควิด ถามผู้ปกครองหากต้องการความสงบสุขย่อมรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร?
(6 เม.ย.63) นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ อดีต ส.ส.นราธิวาสหลายสมัย ได้โพสต์เฟสบุ๊คแสดงความคิดเห็นภายหลังจากมีข่าวว่ากลุ่มบีอาร์เอ็น (BRN: Barisan Revolusi Nasional) ได้ออกแถลงการณ์หยุดเคลื่อนไหวทั้งหมดชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขได้ปฏิบัติงานในช่วงที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่ระบาด เมื่อวันที่ 3 เมษายนนั้น

โดยนายอารีเพ็ญ ได้โพสต์เฟสบุ๊คแสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า “เห็นคำประกาศการหยุดการก่อเหตุร้ายในพื้นที่การต่อสู้ด้วยอาวุธกับรัฐไทยที่ปาตานีเพื่อเรีกร้องอิสระภาพหรือเอกราชของ BRN เนื่องจากเกิดวิกฤตโควิด-19 แล้ว ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมกับสถานการณ์ความเดือดร้อนของมนุษยชาติทั้งโลก ต้องยอมรับและเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ปัญหาความไม่สงบในดินแดนปาตานี เป็นเรื่องการต่อสู้ทางการเมืองในเชิงอุดมการณ์ที่ยึดโยงกับชาติพันธุ์ ประวัติศาสตร์และความเป็นธรรม ซึ่งมีอยู่หลายประเทศในโลก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ประเทศเหล่านั้นเขายุติปัญหาอย่างสันติวิธีด้วยการสร้างกระบวนการสันติภาพมีการพูดคุยเจรจาจนนำไปสู่ข้อตกลงในทางสันติวิธี แม้จะใช้เวลานานเท่าใดก็ตาม ซึ่งข้อตกลงนั้นเป็นที่ยอมรับและเห็นด้วยของประชาชนส่วนใหญ่ในดินแดนนั้นๆจัดการตนเองที่ให้ความสำคัญกับชาติพันธุ์และประวัติศาสตร์ของพื้นที่นั้นๆ การต่อสู้ของกลุ่มที่ต้องการดินแดนคืน กรณีปาตานีก็เช่นเดียวกัน เราต้องยอมรับอย่างสนิทใจว่า คนมลายูปาตานีมีความคิดและความต้องการที่จะกำหนดชะตากรรมของตนอาจแตกต่างกันไปบ้างเป็นเรื่องปกติธรรมดา ยกตัวอย่าง บริษัทโยร์ยาจำกัด ถูกยึดโดยบริษัทหงษ์สาจำกัด ซึ่งมีอิทธิพลและพละกำลังที่เหนือกว่า เอามาผนวกอยู่ในบริษัทหงษ์สาอันเป็นบริษัทแม่มาอย่างยาวนาน แน่นอนลูกหลานของบริษัทโยร์ยาที่ถูกยึดมีหลายคน บางคนอยากได้บริษัทของบรรพบุรุษของเขาคืน บางคนยินยอมให้บริษัทแม่เป็นเจ้าของร่วม แต่ขอเป็นผู้จัดการบริษัทโยร์ยาเสียเอง และบางคนแค่เป็นเสมียนหรือภารโรงในบริษัทก็พอใจแล้ว ซึ่งความคิดและความต้องการของลูกหลานบริษัทที่ถูกยึดเป็นความต้องการที่แตกต่างกันไปจะมากหรือน้อยกว่ากันสำรวจกันได้ ดังนั้น บริษัทแม่ที่มีความเป็นธรรม มองการณ์ไกล และฉลาด ที่ต้องการความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองของบริษัทต่อไปในอนาคต ย่อมรู้ดีว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร?”

 489 total views,  2 views today

You may have missed